หลายๆ ครั้งที่เราเหนื่อยล้ากับชีวิตและสิ่งรอบข้าง นอกจากการเดินเข้าป่า เพื่อไม่ให้พบกับคนใจร้ายแล้ว การที่เราได้ใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่รัก โดยเฉพาะน้องหมา น้องแมว ก็ทำให้มีความสุขและเอนจอยกับชีวิตขึ้นมาได้เหมือนกันนะครับ แต่ติดปัญหาก็ตรงที่ว่า ในการใช้ชีวิตแบบคนเมือง พอต้องอยู่คอนโดก็ช่างสวนทางกับโอกาสในการเลี้ยงเจ้าสี่ขาคู่ใจเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดห้อง และข้อบังคับโดยส่วนใหญ่ที่ไม่อนุญาตให้มีสัตว์เลี้ยงในคอนโด ที่ผ่านมาเวลาแอบดูเอาโครงการไหนมาให้ชม ก็เลยมีแฟนเพจคอยถามอยู่เสมอว่า เลี้ยงสัตว์ได้มั้ย? วันนี้เรามีอีกโครงการที่น่าจะถูกใจคนรักสัตว์ และยังได้มี lifestyle สะดวกๆ ในเมืองย่านเอกมัยด้วย นั่นก็คือ โครงการ Maru เอกมัย 2 Pet Friendly คอนโดที่เราจะพาชมในวันนี้คร้าบ
Maru เอกมัย 2 ตั้งอยู่ระหว่างเอกมัยซอย 2 และ ซอย 4 ซึ่งข้อดีของการที่ตัวโครงการอยู่โซนด้านหน้าปากซอยเอกมัย ก็คือนอกจากจะออกมาถนนสุขุมวิทได้สะดวกกว่าแล้ว ก็ยังไม่ค่อยวุ่นวายเท่ากับโซนด้านหลังที่รู้ดีกันว่ากลางค่ำกลางคืนไม่ต้องนอน เพราะมีแหล่งกินดื่มรอบข้างให้ใช้ชีวิตเยอะเหลือเกิน ทั้งนั่งเล่น Demo Cassette DND ส่วนวิถีกลางวันจะกินหรือช้อปก็หลากหลายไม่แพ้กัน ทั้งร้านอาหารไม่ว่าจะญี่ปุ่น ไทย หรือนานาชาติ หรือแหล่งช้อปปิ้งใกล้ๆ ให้เลือกทั้ง Park Lane, Big C, Major เอกมัย แต่ถ้าไม่อยากไปนั่งชิลไกลๆ ในวันหยุด ก็มีร้านกาแฟ Ink & Lion อยู่ข้างๆ หรือถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศสนุกกับน้องหมาก็แวะไปร้าน Dog in Town ที่เต็มไปด้วยไซบีเรียนขนฟูไซส์ยักษ์รอต้อนรับได้เหมือนกันครับ ส่วนใครเบื่อตึกสูงที่เห็นทุกวันจนขัดใจ ข้ามฝั่งไปนั่งชมท้องฟ้าและดวงดาวสุกสกาวสดใสได้ที่ท้องฟ้าจำลอง
การเดินทางที่นี่สะดวกไม่แพ้ Lifestyle เพราะเดินไป BTS เอกมัยได้ในระยะประมาณ 450 ม. เพื่อชดเชยการจราจรในซอยที่ติดขัดหน่อยในช่วง Rush hour ตามปกติของ กทม. แต่ถ้าขี้เกียจขยับแข้งขาก็มีพี่วิน บริการ หรือจะนั่งรถเมล์ก็ยังได้ ส่วนแท็กซี่ก็มีให้เรียกตลอดทั้งวัน ซอยเอกมัยนี้ยังเชื่อมต่อไปยังซอยทองหล่อ ออกถนนเพชรบุรี ถนนสุขุมวิท และเชื่อมเข้าสู่ถนนพระราม 4 ได้ ค่อนข้างหลากหลายและเดินทางง่ายครับ
กลับมาที่ภาพรวมโครงการกันบ้าง Maru เอกมัย 2 เป็นคอนโด High Rise 32 ชั้น รวม 333 ยูนิต โดยแต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตสูงสุดที่ 16 ห้อง พร้อมที่จอดรถเกือบ 50% ที่นี่ชั้นพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 9 ทำให้ความสูงเลยอาคารรอบๆ ไปหมดทำให้วิวดีทุกด้าน จะมีเพียงด้านหน้าอาคารที่หันเข้าสู่ซอยเอกมัย ที่อีกฝั่งของถนนเป็นอาคารสูง 30 ชั้น แต่ก็มีระยะห่างพอสมควรเพราะด้านหน้าโครงการก็มีระยะร่นเข้ามาอีกครับ ไม่ได้อยู่ใกล้กัน สำหรับส่วนกลางที่นี่จัดไว้หลายชั้นมาก ใช้กันไม่หวาดไม่ไหว ขอยกตัวอย่าง เริ่มจากชั้น Ground มีที่จอดรถจักรยาน พร้อมระบบเติมลมยางอัตโนมัติ, Co-working Terrace, Co-living space, ที่ล้างรถ, ที่อาบน้ำน้องหมา, EV Charger ส่วน facilities อื่นๆ เค้ายกขึ้นไปไว้ชั้นบนเพื่อเสพย์วิวสวยๆ ด้วย ไล่ตั้งแต่ชั้น 31 ไปจนถึง Rooftop ครับ นอกจากส่วนกลางหลักๆ ทั้ง สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Swimming Pool, Fitness, Yoga, Lounge แล้ว เค้ายังมีส่วนกลางเท่ๆ อย่างห้องคาราโอเกะ และห้องซ้อมดนตรีไว้ให้ลูกบ้านได้ใช้ด้วย ส่วนใครไม่อยากอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายก็มี Quiet Room หรือห้องเงียบให้ อ่านหนังสือ ทำสมาธิ อะไรก็ได้ที่ต้องการความสงบและเป็นส่วนตัว หรือใครใคร่ทำกิจกรรมควบคู่กับการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติก็มีพื้นที่ทั้ง Co-working space ในสวน, Co-kitchen terrace และ Terrarium house ที่ให้ได้ชมวิวและความเขียวขจีของต้นไม้บน Rooftop ครับ เรียกได้ว่า ใครอยากอยู่กับน้องหมาน้องแมว ใครอยากโหวกเหวกร้องเพลงให้ดังสนั่น หรือใครอยากจะได้แนว Zen อยู่เงียบสงบพบทางสว่าง ที่นี่มีให้เลือกหมดฮะ
ยูนิตที่นี่มีทั้งแบบ Type มาตรฐาน Simplex ระยะเพดานสูง 2.7 ม. ซึ่งจะอยู่ในชั้น 9-27 ส่วนชั้น 28 ขึ้นไปเค้าจัดห้องเพดานสูงโปร่งมว๊าก แบบ Duplex คือเพดานสูงถึง 5.5 ม. และก็เป็นห้องแบบที่ได้พื้นที่จริงทั้ง 2 ชั้น ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านเลยครับ ห้องที่จะพาชมวันนี้ก็จะมีทั้ง 2 แบบ คือ 1Bedroom 29.5 ตร.ม. (Simplex) และ Duplex 1 Bedroom 42 ตร.ม. ให้ดูเปรียบเทียบกันด้วย ส่วนราคาเริ่มต้นตอนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 196,000 บาท/ตร.ม. ครับ สำหรับใครที่สนใจเข้าไปดูข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://www.mjd.co.th/maru/ หรือพุ่งตัวไปที่สำนักงานขายเลยก็ได้ครับ เพราะเค้าก็เหลือห้องอยู่ไม่มากแล้ว
เอาล่ะ โม้มาสักพัก ตามไปชมห้องตัวอย่างพร้อมๆ กันได้เลยคร้าบ
#sneakreview #แอบดูห้องตัวอย่าง
ห้องแรกที่เราจะพาไปดูคือ ห้องแบบ Simplex 1Bedroom ขนาด 29.5 ตร.ม. ครับ เปิดห้องเข้ามา ก็เจอกับส่วนหุงหาอาหารรองท
อีกฝั่งหนึ่งเห็นหน้าบานเรี
พวกอุปกรณ์ทำความสะอาด เครื่องไม้เครื่องมือ หรือรองเท้าก็ใส่ในนี้ได้ ทำให้ห้องเป็นระเบียบนะครับ
นอกจากครัวแล้ว ตรงนี้ยังมีพื้นที่วางโต๊ะท
ข้อดีคือสารพัดกลิ่นชวนหิวจ
ชะแว้บ แอบส่องไปที่ห้องนอนกันบ้าง
บานเลื่อนเป็นกระจกใสสูงจรด
โครงการลองวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้เป็นตัวอย่าง แต่ถ้าลดพื้นที่โต๊ะหัวเตีย
ตำแหน่งห้องมีกระจกใหญ่ๆ ทั้งผนังฝั่งนี้เลยทำให้เปิ
ที่ฝั่งข้างเตียงจะเป็นบานก
ด้านบนมีไฟ Down light ให้อีกหนึ่งดวง
ปลายเตียงเป็นพื้นที่สำหรับ
เป็นที่นอนสำหรับน้องหมาเรา
ซ้ายมือเป็นพื้นที่ระเบียงส
ถัดจากเตียง เป็นพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้
พวกรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้พื้นที่ให้เป็นประโ
ถัดออกไปเป็นส่วนในสุดของห้
ห้องน้ำได้กระจกบานใหญ่ แยกส่วนเปียกและแห้งด้วยกระ
ในส่วน Shower ก็มีเจาะช่องเล็กๆ สองชั้นบนผนังไว้วางอุปกรณ์
และก็เรียบร้อยสำหรับห้องแร
ห้องนี้คือแบบ 1Bedroom 42 ตร.ม. ที่เป็น Type Duplex เพดานสูงชะลูด 5.5 เมตร เข้ามาถึงเราจะพบเจอกับผนัง
เจ้าผนังทางซ้ายที่ว่าจริงๆ
พอเปิดออกมาก็จะเป็นตู้เสื้
ส่วนห้องน้ำก็ได้อุปกรณ์เหม
เดินตรงมาอีกนิด ก็จะเจอส่วนครัวทางด้านในนี้เอง
ห้องนี้ก็จะไม่ได้กั้นแยกคร
ข้อแตกต่างคือส่วน Living ของห้องนี้จะเป็นพื้นที่โล่
สูงแค่ไหนลองมองจากมุมนี้คร
อีกฝั่งของห้องคือบันไดขึ้น
ข้างบนนี้ก็คือห้องนอนครับ เพราะงั้นต่อให้ใครมาปาร์ตี
อันนี้ด้านบนมีประตูปิดมิดช
พื้นที่ในห้องนี่นอกจากเตีย
และทั้งหมดนี้ก็คือการพาชมห
ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว คอนโดที่คนไม่เยอะเกินไป แถมมีพื้นที่สำหรับเลี้ยงน้
ติดตามเราได้ที่ : facebook
ติดต่อสอบถาม : Contact