ผมเป็นคนที่รักการไปดู Show Unit โครงการต่างๆ มากครับ เพราะชอบช่วงเวลา..ที่ได้ปล่อยตัวเองให้ซึมซับไปกับบรรยากาศที่เค้าสร้าง และเพลิดเพลินกับการจินตนาการภาพการใช้ชีวิตที่นั่น
แต่ไม่ใช่ว่าทุกครั้งที่ไปดูจะได้ประสบการณ์อย่างเต็มที่ เพราะข้อจำกัดของโครงการแต่ละแบบนั้นแตกต่างกัน อย่าง “คอนโด” ก็มีพื้นที่น้อยหน่อย เมื่อเทียบกับ “บ้าน” ที่มี Space กว้างขวางเอื้อให้เนรมิตทุกสิ่งอย่างขึ้นมาได้มากกว่า
แต่ต่อให้มีพื้นที่มากแค่ไหน ถ้าเป็นมีเพียงพื้นที่เปล่าๆ ก็คงไม่ใช่บ้าน ต้องขอบคุณผู้คนที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบ ก่อร่างพื้นที่เหล่านั้น แบ่งสันปันส่วน จากพื้นที่ว่างกลายเป็นห้อง จากหลากหลายห้อง รวมเป็นบ้าน โดยแต่ละองค์ประกอบที่ทำหน้าที่แตกต่างนั้น ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว
ที่ผ่านมาเวลาไปดูบ้านตัวอย่าง พื้นฐานเลยคือ เราจะได้เห็นประโยชน์ใช้สอย ฟังก์ชั่น ได้เห็นสไตล์ การดีไซน์ ได้เห็นความปราณีตคัดสรรที่สะท้อนบุคลิกเจ้าของบ้าน..
แต่การไปดูบ้านตัวอย่างที่ผมชอบมาก คือ “การไปดูแล้วได้เห็นชีวิตที่อยู่ในบ้าน” อย่างในวันนี้
- บ้านขนาดเริ่มต้น ผมได้เห็นชีวิตของคนวัยทำงานที่ให้เวลากับงานมาก แม้แต่ที่บ้านก็ยังจัดสรรห้องทำงานขนาดใหญ่ให้มีพื้นที่และแสงสว่างที่เพียงพอ เพราะงานคือพลังที่ผลักดันให้ไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็มีพื้นที่สำหรับชีวิตเล็กๆ ที่กำลังผลิใบ
- บ้านขนาดกลาง ได้เห็นครอบครัวที่เริ่มขยาย มีพื้นที่เผื่อสำหรับลูกๆ ให้เรียนรู้และเติบโต ทั้งในพื้นที่ของตัวเองและการใช้ชีวิตร่วมกันในพื้นที่ Living Area ภายในบ้านที่กว้างขึ้น
- บ้านขนาดใหญ่ เราได้เห็นคนที่ประสบความสำเร็จ ที่บ้านเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยไม่ทิ้งสายใยความผูกพันในครอบครัว ให้หลาย Generation อยู่ร่วมกันได้อย่างสบายในพื้นที่ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นรุ่นก่อนหน้าที่จะต้องได้รับการดูแลใกล้ชิด หรือรุ่นถัดไปที่จะต้องมี Space ที่สะท้อน Passion และตัวตนของตัวเองเมื่อโตขึ้น
“Life comes home”
เป็นคำที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังจากเดินดูบ้านทั้ง 3 แบบจบ ซึ่งเมื่อนำไปค้นก็พบว่า เป็นคำที่เจ้าของบ้านแบรนด์นี้ได้ใช้ในโฆษณาเมื่อหลายปีมาก่อน
ที่ที่บ้านมีชีวิต และชีวิตได้พบกับบ้าน..
ไม่เกินเลยไปจากการเดินชมบ้านตัวอย่างในวันนี้
และผมก็เชื่อว่า คุณก็คงมีความสุขจากการเดินชมบ้านตัวอย่างที่นี่ได้เช่นกันครับ
#LivingSneakPeek #เศรษฐสิริจรัญปิ่นเกล้า2