Life Ladprao Valley โอ้โห จั่วหัวมาหยั่งกับภาพยนตร์จูราสสิคเวิร์ล ภาคต่อไปกำลังจะเข้า แต่หลังจากครั้งแรกที่ได้ฟังเรื่องราวของโครงการ “ใหม่” โครงการนี้ ที่ไม่ใช่ภาคต่อหรือภาคเสริมของ
ตั้งแต่เป็นมนุษย์เมืองกรุงมาหลายปี ก็พบว่า กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรของเรา เป็นที่สุดแห่งความหลากหลายจริงๆ ว่ามั้ยครับ เข้าไปใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นสยาม หรือสุขุมวิทตอนต้น ก็พบกับความวุ่นวาย
“ไปรถไฟฟ้ากันมั้ย..” คำนี้เรามักใช้กันบ่อยๆ เวลาจะนัดเพื่อนเดินทางไปใจกลางเมือง จนรถไฟฟ้ากลายเป็นการเดินทางที่คุ้นชิน และเป็นความสะดวกพื้นฐานในชีวิตประจำวันไปแล้ว จำได้ว่าสมัยรถไฟฟ้าสร้างใหม่ๆ ชาวเราที่อยู่ในแนวการก่อสร้างก็สุดแสนจะเหนื่อยหน่ายกับการทำถนนหนทาง ที่ทำให้จราจรติดขัด เสียเวลานั่งรถ ขับรถกันมากขึ้น
คนเราทุกวันนี้แม้จะใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกซะเยอะ ไม่ว่าจะทำงาน เที่ยวเล่น ออกกำลังกาย หรือไปสังสรรค์กับเพื่อน แต่เมื่อถึงเวลาเหนื่อยล้า อยากพักผ่อน เราก็จะนึกถึงบ้านเสมอ เหมือนที่เค้าเคยพูดกันว่า ไม่มีที่ไหนสุขใจเหมือนอยู่บ้าน
ยังจำกันได้มั้ยครับ กับโครงการที่แอบดูเคยนำมาเล่าให้ฟังเมื่อคราวก่อน เกี่ยวกับคอนโดใจกลางเมืองซอยสุขุมวิท 31 โครงการที่เค้าทำให้บ้านและธรรมชาติรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่เพียงแต่มีพื้นที่สีเขียวบริเวณส่วนกลางแต่ยังยกมาให้ถึงระเบียงห้อง กับโครงการ “Siamese Exclusive Sukhumvit
“RHYTHM Sathorn” อีกหนึ่งโครงการวิวสวยย่านสาทร ที่เดินทางง่าย ใกล้บีทีเอสสะพานตากสิน เดินกันชิลๆ 5 นาทีถึงโครงการนี้เราเคยไปแอบดู แอบแนมกันมาก่อนหน้านี้แล้ว กับความอลังการตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ล็อบบี้
วันนี้แอบดูคอนโดจะพาชมห้องตัวอย่างจากโครงการย่านอารีย์ที่ทุกคนรอคอย ย่านที่เรารู้จักกันดีว่ามีอะไรให้ทำ ให้กิน ช็อป เที่ยว และใช้ชีวิตได้เรื่อยๆ ไม่รู้เบื่อ ซึ่งวันก่อนแอบดูพาทุกคนไปชมวิถีคนย่านนี้กันไปแล้วรอบนึง คราวนี้จะพาบุกไปถึงรังรักที่เราจะอยู่กันที่นี่ กับแอบดูห้องตัวอย่าง
“เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน” ต้องยอมรับว่าเป็นประโยคที่แท้ทรูจริงๆครับ เพราะกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ย่อมทำให้ใจเธอนั้นเปลี่ยนแปลง เอ้ย! ไม่ใช่ละ แค่อยากจะบอกว่าในปัจจุบันเราได้เห็นความเปลี่ยนแปลง และการปรับตัวของคนเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ แฟชั่น
จริงๆ แล้วมีหลายโครงการที่พูดถึงการสร้างธรรมชาติ เพิ่มพื้นที่สีเขียว หรือบ้างก็มีพื้นที่สีเขียวในส่วนกลางภายในตึกเลย เคยรู้สึกบ้างมั้ยครับว่าทำไม… แอบดูคิดว่าจริงๆ แล้ว ต่อให้เทคโนโลยีไปไกลแค่ไหน สภาพภายในห้องจะดูดีเท่าไหร่ แต่พื้นฐานแล้วคนเราก็โหยหา
เผลอแป๊บเดียวจรัญสนิทวงศ์ ก็กลายเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ที่มีความเจริญเข้ามา โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ – ท่าพระ ที่จะสร้างเสร็จในปี 2563 ที่นอกจากจะเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจของคนอยู่แถวนี้ให้เดินทางสะดวกกว่าเดิม ที่ดินรอบๆ ก็พลอยมีค่าสูงขึ้นไปอีก
Life Ladprao Valley โอ้โห จั่วหัวมาหยั่งกับภาพยนตร์จูราสสิคเวิร์ล ภาคต่อไปกำลังจะเข้า แต่หลังจากครั้งแรกที่ได้ฟังเรื่องราวของโครงการ “ใหม่” โครงการนี้ ที่ไม่ใช่ภาคต่อหรือภาคเสริมของ Life Ladprao Valley แอบดูก็ต้องเอามือทาบอกแล้วบอกว่า “น่าตื่นเต้นจริงๆ” มันคือ Life ที่ได้รับการ Craft อย่างพิถีพิถันขึ้นมาใหม่หมดจด พร้อมยกระดับซีรีย์ “Life” ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของความหรูหราที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการสร้างเอกลักษณ์และตัวตนที่ชัดเจนไม่เหมือนใครในย่านนี้ ในทำเลที่เรารู้จักกันดีคือ
ตั้งแต่เป็นมนุษย์เมืองกรุงมาหลายปี ก็พบว่า กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรของเรา เป็นที่สุดแห่งความหลากหลายจริงๆ ว่ามั้ยครับ เข้าไปใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นสยาม หรือสุขุมวิทตอนต้น ก็พบกับความวุ่นวาย ตึกสูงระฟ้า และบรรดาผู้คน พอขยับมาสักนิดโซนเยาวราชก็เต็มไปด้วยของกินอร่อยๆ ท่ามกลางแสงสีอันโดดเด่นของป้ายร้านสองข้างทางที่เป็นเอกลักษณ์ยามค่ำคืน ยังไม่นับพื้นที่วัฒนธรรมอย่างวัดวาอาราม เช่น วัดพระแก้วที่อยู่คู่เมืองมาตั้งแต่สมัยสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เห็นมั้ยครับว่าทุกครั้งที่เราก้าวไปข้างหน้า สร้างสิ่งปลูกสร้างอะไรใหม่ๆ เราก็ไม่สามารถลืมและละทิ้งสิ่งที่อยู่คู่เรามานานไปได้เช่นกัน นี่จึงเป็นที่มาของแผนพัฒนาโครงการกรุงเทพ 250 ในวาระครบรอบ 250 ปี
“ไปรถไฟฟ้ากันมั้ย..” คำนี้เรามักใช้กันบ่อยๆ เวลาจะนัดเพื่อนเดินทางไปใจกลางเมือง จนรถไฟฟ้ากลายเป็นการเดินทางที่คุ้นชิน และเป็นความสะดวกพื้นฐานในชีวิตประจำวันไปแล้ว จำได้ว่าสมัยรถไฟฟ้าสร้างใหม่ๆ ชาวเราที่อยู่ในแนวการก่อสร้างก็สุดแสนจะเหนื่อยหน่ายกับการทำถนนหนทาง ที่ทำให้จราจรติดขัด เสียเวลานั่งรถ ขับรถกันมากขึ้น แต่สุดท้ายเมื่อทุกอย่างเสร็จมันก็คุ้มค่ากับการรอคอย เพราะชีวิตดีขึ้น เราสามารถกะเวลาและวางแผนชีวิตได้ เพราะมีทางเลือกการเดินทางที่มีมาตรฐาน ไม่ว่าจะ BTS หรือ MRT (จะมีก็รถไฟฟ้าบางสายที่มีปัญหาบ่อยละไว้ในฐานที่เข้าใจเนาะ ฮ่าๆ) จากรถไฟฟ้าสายสีเขียวสายแรก จากหมอชิตไปยังอ่อนนุช ปัจจุบันเส้นที่เราคุ้นเคยและมีคนใช้งานมากที่สุดนี้มีส่วนต่อขยายไปเรื่อยๆ จนทำให้ความเป็นเมืองขยายไปตามแนวรถไฟฟ้าจนไปถึงสมุทรปราการ และในสิ้นปีนี้ส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการจะเปิดใช้ครบทุกสถานีกันแล้ว..
คนเราทุกวันนี้แม้จะใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกซะเยอะ ไม่ว่าจะทำงาน เที่ยวเล่น ออกกำลังกาย หรือไปสังสรรค์กับเพื่อน แต่เมื่อถึงเวลาเหนื่อยล้า อยากพักผ่อน เราก็จะนึกถึงบ้านเสมอ เหมือนที่เค้าเคยพูดกันว่า ไม่มีที่ไหนสุขใจเหมือนอยู่บ้าน พอพูดถึง “บ้าน” จริงๆ มันก็มีหลายความหมายให้เราคิดถึงนะครับ บางทีก็นึกถึงโครงสร้าง นึกถึงแอร์เย็นฉ่ำ นึกถึงเตียงนุ่มๆ หรือมุมนั่งเล่นโปรด แต่บางทีก็นึกถึงคนที่อยู่ในบ้านด้วยเหมือนกัน จริงๆ แล้วความสุขของการอยู่บ้าน คอนโด หรือที่อยู่อาศัยอื่นๆ มันก็คงไม่ได้มีเพียงแต่สเปค ความหรูหรา
ยังจำกันได้มั้ยครับ กับโครงการที่แอบดูเคยนำมาเล่าให้ฟังเมื่อคราวก่อน เกี่ยวกับคอนโดใจกลางเมืองซอยสุขุมวิท 31 โครงการที่เค้าทำให้บ้านและธรรมชาติรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่เพียงแต่มีพื้นที่สีเขียวบริเวณส่วนกลางแต่ยังยกมาให้ถึงระเบียงห้อง กับโครงการ “Siamese Exclusive Sukhumvit 31″ ที่นำไม้ยืนต้นที่ถูกคัดสรรมาแล้ว มาไว้ที่ระเบียงห้องพักทุกห้อง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รู้สึกผ่อนคลาย และใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด จริงของเค้านะครับ ความเป็นธรรมชาตินี่แหละ ที่ช่วยให้สงบและผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง นอกจากการออกแบบและการผสมผสานพื้นที่อยู่อาศัยกับต้นไม้ ภายใต้แนวคิด Living in the garden ได้อย่างลงตัวแล้ว
“RHYTHM Sathorn” อีกหนึ่งโครงการวิวสวยย่านสาทร ที่เดินทางง่าย ใกล้บีทีเอสสะพานตากสิน เดินกันชิลๆ 5 นาทีถึงโครงการนี้เราเคยไปแอบดู แอบแนมกันมาก่อนหน้านี้แล้ว กับความอลังการตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ล็อบบี้ ลามไปจนถึงส่วนกลางอย่าง สระว่ายน้ำวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องออกกำลังกาย ห้องอเนกประสงค์ ซึ่งตอนนี้โครงการเค้าจัดโปรโมชั่นแบบสองมือล้วงกระเป๋าสองเท้าก้าวเข้ามา เตรียมกระเป๋าสองใบกับใจเหงาๆ แล้วเดินเข้าไปนอนได้เลย เพราะห้องที่จะพาไปดูทุกห้องวันนี้ คือได้หมดทุกชิ้น เรียกว่าตกแต่งยังไง ก็ได้อย่างนั้นหมด ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า พร๊อพตกแต่ง ลามไปยังช้อนส้อม
วันนี้แอบดูคอนโดจะพาชมห้องตัวอย่างจากโครงการย่านอารีย์ที่ทุกคนรอคอย ย่านที่เรารู้จักกันดีว่ามีอะไรให้ทำ ให้กิน ช็อป เที่ยว และใช้ชีวิตได้เรื่อยๆ ไม่รู้เบื่อ ซึ่งวันก่อนแอบดูพาทุกคนไปชมวิถีคนย่านนี้กันไปแล้วรอบนึง คราวนี้จะพาบุกไปถึงรังรักที่เราจะอยู่กันที่นี่ กับแอบดูห้องตัวอย่าง “Noble Around Ari”คร้าบ พูดถึงภาพรวมโครงการ Noble Around Ari ตั้งอยู่บนความสะดวกสบายแบบรอบด้าน เริ่มจาก เดินทางสะดวก เพราะมีทางเลือกเดินทางครบทั้งรถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์ในระยะเดินไม่ถึง 5 นาที
“เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน” ต้องยอมรับว่าเป็นประโยคที่แท้ทรูจริงๆครับ เพราะกาลเวลาที่เปลี่ยนไป ย่อมทำให้ใจเธอนั้นเปลี่ยนแปลง เอ้ย! ไม่ใช่ละ แค่อยากจะบอกว่าในปัจจุบันเราได้เห็นความเปลี่ยนแปลง และการปรับตัวของคนเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ แฟชั่น นวัตกรรม เทคโนโลยี และที่สำคัญ “การใช้ชีวิต” ทุกวันนี้หลายคนมี Lifestyle ในการใช้ชีวิตที่หลากหลายมากขึ้นนะครับ สังเกตได้จากบรรดา เด็กรุ่นใหม่ หรือที่เราเรียกแบบคูลๆ ว่าพวก New Gen ที่ชอบความสะดวกสบาย อะไรที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรือเข้ากับ
จริงๆ แล้วมีหลายโครงการที่พูดถึงการสร้างธรรมชาติ เพิ่มพื้นที่สีเขียว หรือบ้างก็มีพื้นที่สีเขียวในส่วนกลางภายในตึกเลย เคยรู้สึกบ้างมั้ยครับว่าทำไม… แอบดูคิดว่าจริงๆ แล้ว ต่อให้เทคโนโลยีไปไกลแค่ไหน สภาพภายในห้องจะดูดีเท่าไหร่ แต่พื้นฐานแล้วคนเราก็โหยหา และต้องอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งสร้างความสุข สงบ และผ่อนคลายแบบที่สิ่งอำนวยความสะดวกไหนๆ ก็คงให้แทนกันไม่ได้ วันนี้ก็มีอีกหนึ่งโครงการที่พยายามนำธรรมชาติกลับคืนมาให้ได้ใกล้ชิดกับคนอยู่อาศัยที่สุด นั่นก็คือ “Siamese Exclusive 31″ ที่ทำให้บ้านและธรรมชาติเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยการสร้างไม้ยืนต้นให้ร่มเงาในระเบียง “ทุกห้อง” ทำให้เหมือนได้ฟิลบรรยากาศนั่งอยู่ในสวนที่พอให้ความร่มรื่น มีสีเขียวให้ได้พักพิง เพราะงั้นถ้าดูจากด้านนอกก็จะเสมือนมีต้นไม้แทรกอยู่ทั้งอาคารกันไปเลย
เผลอแป๊บเดียวจรัญสนิทวงศ์ ก็กลายเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ที่มีความเจริญเข้ามา โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ – ท่าพระ ที่จะสร้างเสร็จในปี 2563 ที่นอกจากจะเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจของคนอยู่แถวนี้ให้เดินทางสะดวกกว่าเดิม ที่ดินรอบๆ ก็พลอยมีค่าสูงขึ้นไปอีก เท่านั้นยังไม่พอ ถนนเส้นนี้ ยังวิ่งขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้คนที่อยู่คอนโดแถบนี้ได้วิวโค้งน้ำสวยๆ เป็นของกำนัลไปด้วย และหนึ่งในตัวเลือกของคอนโดวิวแม่น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มาพร้อมกับส่วนกลางสระไร้ขอบแบบ Infinity Edge บนชั้นดาดฟ้า ที่ให้วิวแบบพาโนรามา รวมถึงให้เพดานห้องสูงโปร่งโล่งสบายขนาด 2.75 เมตร ที่เค้าบอกว่าจะยกระดับความอยู่สบายของจรัญให้ไม่เหมือนฝั่งธน
