ครั้งหนึ่งได้ผมได้ไปกำแพงแสน ดินแดนที่เรารู้จักกันดีจาก “อุโมงค์สีชมพู” ชื่อเล่นของทิวแถวต้นชมพูพันธุ์ทิพย์หรือตาเบบูย่าที่บานสะพรั่งเป็นประจำในช่วงต้นปีใน ม.เกษตรฯ กำแพงแสน จ.นครปฐม จนกลายเป็นถนนสุดโรแมนติกที่ใครๆ ก็พากันไปถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจเสมอ ส่วนน้องๆ ที่เรียนอยู่ที่โน่น ยามที่เห็นดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บาน ก็เป็นสัญญาณของเวลา
วันนี้ขอพูดถึงโครงการในถิ่นฐานของผมสักหน่อย นั่นก็คือถนนจรัญสนิทวงศ์นั่นเอง ถนนเส้นนี้เชื่อมยาวมาตั้งแต่สะพานพระราม 7 ที่ตั้งของ กฟผ. หรือที่เค้าเรียกๆ กันว่าการไฟฟ้าพระราม 7 แล้วก็วิ่งยาวผ่านแยกซังฮี้, ปิ่นเกล้า, บางกอกน้อย แยกไฟฉายไปจนกระทั่งถึงแยกท่าพระ ซึ่งถนนจรัญฯ เนี่ยมาคึกคักเอา 2-3 ปีหลังเพราะโครงสร้างพื้นฐานอย่าง MRT สายสีน้ำเงินที่วิ่งตลอดเส้น
ในทุกช่วงชีวิตของคนเรามักมีความทรงจำมากมายให้เราได้หวนกลับมาระลึกนึกถึงเนอะ โดยเฉพาะความสุขที่เกิดจากมิตรภาพดีๆ และมิตรภาพเหล่านี้ก็มักมาพร้อมกับอาหารการกิน เหมือนที่เค้าเคยบอกว่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก เมื่อถึงเวลาเพื่อนจาก ก็จะพรากกันด้วยการกินและเลี้ยงส่งอยู่ดี ฮ่าๆ คิดเรื่องนี้ออกมาได้ก็เพราะผมได้มาแถบโชคชัย 4 สุดยอดย่านอุดมสมบูรณ์
“ทำเลที่ดีที่สุดของการอยู่อาศัยแต่ละคนไม่เหมือนกัน” คำนี้น่าจะจริงนะครับ คนที่ทำงานเส้นรัชดาฯ อาจจะไม่ได้อยากอยู่ใจกลางเมืองแบบเพลินจิต หรือคนฝั่งธน ก็อาจจะไม่อินกับส่วนต่อขยายที่สถานีสำโรงแม้จะอยู่ติดรถไฟฟ้าเลยก็ตามที และวันนี้เราก็ได้ไปดูโครงการที่เหมาะสำหรับคนทำงานแถวรัชดาฯ พระราม 9 เอามาฝากกันครับ
“ถ้ามีเสื่อผืนหมอนใบก็ว่าจะเอามาปูนอนกลางถนนนี่ซะเลย” เพื่อนของเราชาวสะพานใหม่ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ ฮ่าๆ หลายคนก็อาจจะเคยรู้สึกแบบนี้นะครับ ถ้าเคยต้องใช้รถเดินทางจากสะพานใหม่เข้าไปทำงานในเมืองทั้งขาไปและขากลับ จริงๆ แล้วถนนแถวนี้เนี่ยมันสะดวกนะ กว้างด้วย เป็นถนน 3 เลน ถ้าไม่นับบรรดารถโดยสารสาธารณะที่มักจอดใช้พื้นที่หายไปเลนหนึ่งแล้วล่ะก็
รอบนี้ได้ฤกษ์กลับมาเยือนถนนวิทยุอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเป็นถนนสายคลาสสิค ภูมิทัศน์งาม และเป็นสุดยอดทำเลราคาระยับ จึงเป็นที่คู่ควรกับสถานที่ระดับสุดยอด ไม่ว่าจะเป็นสถานทูต ซึ่งพอมาอยู่ที่นี่ก็มีโครงสร้างพื้นฐานเพียบพร้อม มีความปลอดภัย และยังมีความเป็นส่วนตัวในระดับนึง ห้างสรรพสินค้าระดับเรือธงอย่าง Central Embassy, โรงแรมหรู, สำนักงานพรีเมียม Grade A
เสียงเพลงรับน้องทำนองน่ารัก คึกคักคุกคิก ยังคงดังก้องอยู่ในหัว กลองที่ถูกรัวดังสนั่นไปกับเสียงกรีดร้องของรุ่นพี่และเพื่อนๆ ในคณะ ปลายผมทั้งสองข้างถูกรัดด้วยหนังยางสีแดง สีม่วงและสีเขียว ไม่เว้นแม้แต่ผมหน้าม้าที่ถูกรวบตึงแล้วดึงให้แน่นจนกลายเป็นแฉกบานๆ เหมือนน้ำพุ แก้มทั้งสองข้างถูกทาด้วยแป้งเด็กหลากสีสันตามสีผสมอาหารที่ได้รับการแต่งแต้มไว้ล่วงหน้า
ที่เปิดด้วยเรื่องหวานๆ แบบนี้ ไม่ต้องตกใจไม่ได้เข้าผิดเพจ ฮ่าๆ แต่เป็นเพราะผมจะพาชมคอนโดใหม่ในแบบฉบับตกหลุมรักสาวกันดู มันน่าจะสนุกดี… และผมก็มี First Impression ที่น่าประทับใจกับนี้เหมือนกัน คุณเธอชื่อ “ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ (Supalai Lite Tha Phra-Wongwian Yai) สาวน้อยคนใหม่จากศุภาลัยที่เริ่มต้น 1.98 ล้านบาทครับ
เดินมาพญาไทคราวนี้ก็มาดูคอนโดเหมือนเคยนะฮะ แต่ก่อนจะพูดถึงโครงการ ขอพูดถึงถนน “ถนนศรีอยุธยา” ตรงนี้สักหน่อย ไม่รู้ว่าใครจะนึกออกในมุมไหนนะ สำหรับผม เรามีความหลังผูกพันกัน 3 เรื่อง
หนึ่งในรูปแบบของโครงการที่น่าสนใจเสมอมาก็คือโครงการในแนวรถไฟฟ้าครับ ยิ่งใกล้ยิ่งสะดวก ยิ่งติดก็ยิ่งสบาย แต่มันก็มาพร้อมๆ กับราคาที่อ้างอิงกับทำเลแหละนะ เพราะอย่างที่เรารู้กัน สำหรับคอนโดแล้ว Location is a
ครั้งหนึ่งได้ผมได้ไปกำแพงแสน ดินแดนที่เรารู้จักกันดีจาก “อุโมงค์สีชมพู” ชื่อเล่นของทิวแถวต้นชมพูพันธุ์ทิพย์หรือตาเบบูย่าที่บานสะพรั่งเป็นประจำในช่วงต้นปีใน ม.เกษตรฯ กำแพงแสน จ.นครปฐม จนกลายเป็นถนนสุดโรแมนติกที่ใครๆ ก็พากันไปถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจเสมอ ส่วนน้องๆ ที่เรียนอยู่ที่โน่น ยามที่เห็นดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บาน ก็เป็นสัญญาณของเวลา
วันนี้ขอพูดถึงโครงการในถิ่นฐานของผมสักหน่อย นั่นก็คือถนนจรัญสนิทวงศ์นั่นเอง ถนนเส้นนี้เชื่อมยาวมาตั้งแต่สะพานพระราม 7 ที่ตั้งของ กฟผ. หรือที่เค้าเรียกๆ กันว่าการไฟฟ้าพระราม 7 แล้วก็วิ่งยาวผ่านแยกซังฮี้, ปิ่นเกล้า, บางกอกน้อย แยกไฟฉายไปจนกระทั่งถึงแยกท่าพระ ซึ่งถนนจรัญฯ เนี่ยมาคึกคักเอา 2-3 ปีหลังเพราะโครงสร้างพื้นฐานอย่าง MRT สายสีน้ำเงินที่วิ่งตลอดเส้น
ในทุกช่วงชีวิตของคนเรามักมีความทรงจำมากมายให้เราได้หวนกลับมาระลึกนึกถึงเนอะ โดยเฉพาะความสุขที่เกิดจากมิตรภาพดีๆ และมิตรภาพเหล่านี้ก็มักมาพร้อมกับอาหารการกิน เหมือนที่เค้าเคยบอกว่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก เมื่อถึงเวลาเพื่อนจาก ก็จะพรากกันด้วยการกินและเลี้ยงส่งอยู่ดี ฮ่าๆ คิดเรื่องนี้ออกมาได้ก็เพราะผมได้มาแถบโชคชัย 4 สุดยอดย่านอุดมสมบูรณ์
“ทำเลที่ดีที่สุดของการอยู่อาศัยแต่ละคนไม่เหมือนกัน” คำนี้น่าจะจริงนะครับ คนที่ทำงานเส้นรัชดาฯ อาจจะไม่ได้อยากอยู่ใจกลางเมืองแบบเพลินจิต หรือคนฝั่งธน ก็อาจจะไม่อินกับส่วนต่อขยายที่สถานีสำโรงแม้จะอยู่ติดรถไฟฟ้าเลยก็ตามที และวันนี้เราก็ได้ไปดูโครงการที่เหมาะสำหรับคนทำงานแถวรัชดาฯ พระราม 9 เอามาฝากกันครับ
“ถ้ามีเสื่อผืนหมอนใบก็ว่าจะเอามาปูนอนกลางถนนนี่ซะเลย” เพื่อนของเราชาวสะพานใหม่ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ ฮ่าๆ หลายคนก็อาจจะเคยรู้สึกแบบนี้นะครับ ถ้าเคยต้องใช้รถเดินทางจากสะพานใหม่เข้าไปทำงานในเมืองทั้งขาไปและขากลับ จริงๆ แล้วถนนแถวนี้เนี่ยมันสะดวกนะ กว้างด้วย เป็นถนน 3 เลน ถ้าไม่นับบรรดารถโดยสารสาธารณะที่มักจอดใช้พื้นที่หายไปเลนหนึ่งแล้วล่ะก็
รอบนี้ได้ฤกษ์กลับมาเยือนถนนวิทยุอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเป็นถนนสายคลาสสิค ภูมิทัศน์งาม และเป็นสุดยอดทำเลราคาระยับ จึงเป็นที่คู่ควรกับสถานที่ระดับสุดยอด ไม่ว่าจะเป็นสถานทูต ซึ่งพอมาอยู่ที่นี่ก็มีโครงสร้างพื้นฐานเพียบพร้อม มีความปลอดภัย และยังมีความเป็นส่วนตัวในระดับนึง ห้างสรรพสินค้าระดับเรือธงอย่าง Central Embassy, โรงแรมหรู, สำนักงานพรีเมียม Grade A
เสียงเพลงรับน้องทำนองน่ารัก คึกคักคุกคิก ยังคงดังก้องอยู่ในหัว กลองที่ถูกรัวดังสนั่นไปกับเสียงกรีดร้องของรุ่นพี่และเพื่อนๆ ในคณะ ปลายผมทั้งสองข้างถูกรัดด้วยหนังยางสีแดง สีม่วงและสีเขียว ไม่เว้นแม้แต่ผมหน้าม้าที่ถูกรวบตึงแล้วดึงให้แน่นจนกลายเป็นแฉกบานๆ เหมือนน้ำพุ แก้มทั้งสองข้างถูกทาด้วยแป้งเด็กหลากสีสันตามสีผสมอาหารที่ได้รับการแต่งแต้มไว้ล่วงหน้า เนื้อตัวมอมแมมพอๆ กับรอยเลอะบนป้ายชื่อที่แขวนอยู่บนคอ เหตุการณ์วันนั้นยังจำได้ดี……. “ได้เป็นลูกนนทรีแล้วจริงๆ” ยามเรียนอยากให้จบไวไว ยามจบมาใหม่ๆ รู้สึกว่าทำไมเวลาผ่านไปเร็วจัง เมื่อกี้เพิ่งโดนรับน้องไปหยกๆ วันนี้กลับมาสู่อ้อมอกนนทรีในฐานะศิษย์เก่าซะแล้ว 4 ปีที่ได้ใช้ชีวิตทั้งในและนอกรั้วมหาวิทยาลัยเจอความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ตั้งแต่คนแปลกหน้ากลายมาเป็นเพื่อนสนิท การตื่นเช้ามาเข้าคลาสเรียนเปลี่ยนเป็นนอนเบียดกันอยู่ที่หอเพื่อให้ตื่นมาทันพรีเซนต์กลุ่มแรก ไปจนถึงสภาพแวดล้อมที่ดูนับวันจะเจริญขึ้นทุกที อย่างทุกวันนี้การใช้ชีวิตดูจะง่ายขึ้นเรื่อยๆ
ที่เปิดด้วยเรื่องหวานๆ แบบนี้ ไม่ต้องตกใจไม่ได้เข้าผิดเพจ ฮ่าๆ แต่เป็นเพราะผมจะพาชมคอนโดใหม่ในแบบฉบับตกหลุมรักสาวกันดู มันน่าจะสนุกดี… และผมก็มี First Impression ที่น่าประทับใจกับนี้เหมือนกัน คุณเธอชื่อ “ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ-วงเวียนใหญ่ (Supalai Lite Tha Phra-Wongwian Yai) สาวน้อยคนใหม่จากศุภาลัยที่เริ่มต้น 1.98 ล้านบาทครับ
เดินมาพญาไทคราวนี้ก็มาดูคอนโดเหมือนเคยนะฮะ แต่ก่อนจะพูดถึงโครงการ ขอพูดถึงถนน “ถนนศรีอยุธยา” ตรงนี้สักหน่อย ไม่รู้ว่าใครจะนึกออกในมุมไหนนะ สำหรับผม เรามีความหลังผูกพันกัน 3 เรื่อง คือการเดินทาง เรื่องบุญ และเรื่องร้านอาหารรสบ้านในดวงใจครับ เรื่องแรก…เรื่องของการเดินทาง นี่เป็นถนนขาประจำที่ผมใช้เดินทางไปแถวพระราม 9 และรามคำแหง เพราะขับรถง่าย และไม่ติดจนเกินไป แต่ถ้าวิ่งมาจากจตุรทิศขากลับ ก็จะคุ้นตากับรถจอแจในฝั่งวังสวนผักกาดที่จะเลี้ยวไปสยามอยู่บ่อยๆ แต่ข้อดีก็คือการมีรถไฟฟ้า BTS นี่แหละและก็เป็นสถานีพญาไทนี่เองที่ผมชอบมาส่งคนที่บ้านเดินทางต่อไปในเมือง จะไปสยาม
หนึ่งในรูปแบบของโครงการที่น่าสนใจเสมอมาก็คือโครงการในแนวรถไฟฟ้าครับ ยิ่งใกล้ยิ่งสะดวก ยิ่งติดก็ยิ่งสบาย แต่มันก็มาพร้อมๆ กับราคาที่อ้างอิงกับทำเลแหละนะ เพราะอย่างที่เรารู้กัน สำหรับคอนโดแล้ว Location is a king โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายหลักสายดั้งเดิมอย่างสายสีเขียว เพราะวิ่งยาวผ่านทั้ง CBD และแหล่ง Lifestyle มีทั้ง Transportation hub เชื่อมต่อไปยังการคมนาคมอื่นๆ อีกมาก ที่อยู่อาศัยที่อิงตามแนวนี้ก็เลยอยู่ในความสนใจของเราเสมอ ซึ่งครั้งนี้เราก็ยังอยู่บนสายสีเขียวกันนะครับ แต่เป็นสายสีเขียวที่เป็นส่วนต่อขยายมาอีกนิด นั่นก็คือสถานีรัชโยธินนี่เอง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเปิดใช้งานปลายปีนี้ด้วยครับ
