ผมเชื่อว่าหลายคนที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยสักที่ คงต้องเคยเปรียบเทียบระหว่างบ้านและคอนโดกันมาบ้าง พอนึกถึงคอนโด ก็คาดหวังว่าจะได้ความสะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้ที่ทำงาน และมีพื้นที่ส่วนกลางสวยๆ ให้ใช้งาน แต่แน่นอนว่าคอนโดอาจไม่เป็นส่วนตัว และไม่มีพื้นที่ใช้สอยใหญ่โตเหมือนบ้านซึ่งต้องแลกมากับการเดินทางที่ใช้เวลามากกว่าในงบประมาณเท่าๆ กัน.. ตัดสินใจยากใช่มั้ยครับ วันนี้ผมจะพาไปดูคอนโดพร้อมอยู่ที่เดินทางง่าย ใกล้สาทร บรรยากาศเงียบสงบ และเน้นพื้นที่ขนาดใหญ่ กว้างขวาง โปร่งสบายให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน แถมยังเป็นคอนโดสูงที่ได้วิวสูงจนเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา กับที่นี่ “ไบรท์ วงเวียนใหญ่” ครับ
ย่านวงเวียนใหญ่เป็นหนึ่งในย่านชุมชนเก่าของกรุงเทพฝั่งตะวันตก เป็นจุดเชื่อมโยงของการเดินทางจากอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์ของชุมชนย่านคลองสานที่เป็นการอยู่ร่วมกันของหลากหลายวัฒนธรรม โซนตลาดพลูที่เป็นตลาดสุดแสนคึกคัก ไปจนถึงสีสันของเจริญนครที่ได้รับการพัฒนาเป็นย่าน Luxury Residence และ Shopping District รอบๆ วงเวียนใหญ่เอง เราก็ได้เห็นความเป็นโซน Street Food ที่มีของกินอร่อยเรียงรายตามถนนลาดหญ้า อยู่เคียงข้างกับแพลตฟอร์มวงเวียนใหญ่ ศูนย์การค้าที่ยืนหยัดผลัดเปลี่ยนตามกาลเวลา และถ้าอยากขยับไปไหนมาไหนจากรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ในเวลาราว 10 นาที เราสามารถไปทำงานย่านสาทรสบายๆ, ไปนวดผ่อนคลายที่ Healthland, ไปช้อปปิ้งหลากแบรนด์ที่ไอคอนสยาม, ไปชมวิวสุดงามบนตึกมหานคร, ไปขอพรพระแม่อุมาเทวี, ไปอิ่มหมีพีมันที่บางรัก,อยากจะแวะพักเปลี่ยนบรรยากาศที่โอเรียลเต็ล, หรือจะเปลี่ยน Interchange ที่สถานีบางหว้า ทำได้ง่ายๆ ครับ
คอนโด Bright Wongwian Yai
คอนโด Bright Wongwian Yai ตั้งอยู่บนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน อยู่ระหว่าง 2 สถานี BTS ใกล้เคียงกันคือ วงเวียนใหญ่และโพธิ์นิมิต แต่ถ้าเดินง่ายที่สุดก็คือ Skywalk วงเวียนใหญ่ที่ถัดไปจากโครงการ 100 ม. ที่ผมเกริ่นไปตอนต้นว่าคอนโดนี้ให้อารมณ์ที่ Feel Like Home เพราะจุดเด่นของที่นี่ 3 อย่างครับ คือ ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตไม่มากเพียง 472 ยูนิต, ลดความกังวลเรื่องที่จอดรถด้วยปริมาณรองรับรวมจอดซ้อนคันถึง 75%* และการเน้นยูนิตที่ขนาดพื้นที่ใหญ่ให้อยู่สบายเหมือนบ้าน ตั้งแต่ขนาด 35 ตร.ม. ไปจนถึงใหญ่ที่สุดถึงเกือบ 120 ตร.ม. เลยครับ เดี๋ยวลองมาดูรายละเอียดโครงการกันไปทีละส่วนนะ
โครงการนี้ประกอบด้วยอาคารพักอาศัยที่สูงถึง 46 ชั้น และมีอาคาร Facilities สูง 2 ชั้น แยกไปอยู่ด้านหลังอีก 1 อาคาร การทำแบบนี้ช่วยให้รักษาบรรยากาศของทั้ง 2 อาคารไว้ได้ คนที่ไปใช้สระว่ายน้ำ หรือจะไปฟิตเนสก็ไปอาคารด้านหลังซึ่งออกแบบมาได้อย่างร่มรื่น เหมือน Clubhouse ของหมู่บ้าน ส่วนคนพักอาศัยในอาคารหลักก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ได้ใช้เสียงมากนักอยู่ในอาคารของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น Lobby Lounge, ห้องประชุม, ห้อง Multi-purpose, สวนลอยฟ้าที่ชั้น 9 และด้วยความที่อาคารสูงมาก เค้าก็เอาจุดชมวิวไปไว้ชั้น 43 ให้ได้ขึ้นไปสูดอากาศ ชมวิวแบบพาโนรามาที่เห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพชั้นในเคียงคู่ไปกับแนวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างสวยงาม ซึ่งห้องพักที่นี่เริ่มต้นที่ชั้น 9 นะครับ ชั้น 2-8 เป็นอาคารจอดรถครับ สิ่งที่เป็นเรื่อง Detail ที่ผมชอบมากก็คือ ที่นี่ที่เป็นแบบ Conventional Parking ทั้งหมด (299 ช่องจอด) และมีระบบตัวเลขบอกจำนวนช่องจอดว่างด้วย Combination ของ 2 อย่างนี้ทำให้การจอดรถสะดวกน่าใช้งานครับ
ความเป็นส่วนตัวของที่นี่นอกจากจำนวนยูนิตที่ไม่มากเพียง 472 ยูนิต ซึ่งจำนวนยูนิตนี้ถ้าน้อยไปเราก็ต้องเสียค่าส่วนกลางมากขึ้น (ที่นี่รักษาไว้อยู่ในระดับ 50 บาท/ตร.ม.) มากเกินไปคนก็พลุกพล่านวุ่นวาย และยูนิตต่อชั้นสูงสุดก็มีเพียง 14 ยูนิตเท่านั้น ไม่ต้องเดินจนขาลากจากโถงลิฟต์ และไม่ต้องพะวงกับคนมากมายที่จะเดินผ่านในแต่ละชั้น ซึ่งในวันที่เราได้เข้าไปถ่ายภาพมาให้ชมก็ค่อนข้างเงียบสงบดีครับ วิธีคิดในการพัฒนาโครงการที่นี่คืออยากให้คนมีตัวเลือกโครงการที่อยู่สบาย พื้นที่ขนาดใหญ่ สเปคดี ก็เลยออกมาเป็นประเภทห้องต่างๆ ดังนี้ ครับ
- ห้อง 1Bedroom ขนาด 35 – 38 ตร.ม. เป็นหนึ่งใน Layout ของห้องตัวอย่างที่เราพาชมครับ จุดเด่นคือ การจัดวางที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ Living Area ที่จะอยู่ติดกับระเบียงเชื่อมโยงกันกับพื้นที่ครัวแบบ Open Plan และระเบียงที่นี่เป็นแบบ Double Skin Balcony คือสามารถปิดเพื่อขยายพื้นที่ Indoor ให้กว้างขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ใช้ชีวิตช่วงเวลากลางวันอยู่ในห้องมาก เพราะได้พื้นที่โปร่ง กว้างขวางให้ใช้งานและดูสวยด้วยเพราะเค้าเก็บส่วนของคอมเพรสเซอร์แอร์ซ่อนไว้เรียบร้อย ส่วนห้องนอนก็จะกั้นด้วยบานเลื่อนกระจกใสเปิดรับแสงธรรมชาติครับ
- ห้อง 1 Bedroom Extra ขนาด 41 – 42 ตร.ม. Layout นี้ก็จะคล้ายๆ กับแบบแรก แต่จะเพิ่มพื้นที่ Living Area ให้ขยายกว้างขึ้นเต็มหน้ากว้างของห้อง
- ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 64 ตร.ม. ห้องนี้หน้ากว้างสะใจมีช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่ให้ทุกพื้นที่ทั้งส่วน Living Room, Working Room และ Bedroom ซึ่งจัดวางเรียงกันไป โดยให้ห้องนอนอยู่ด้านในสุดไกลจากส่วนห้องนั่งเล่นเพื่อความสงบ แถมได้ Bathtub ในตัว
- ห้อง 2 Bedroom ขนาด 70 – 84 ตร.ม. เป็นอีกห้องที่เราพาไปชมครับ ห้องหน้ากว้างเต็มอิ่มเหมือนกัน จัดวางพื้นที่ห้องนั่งเล่นไว้อยู่ตรงกลาง และแบ่งห้องนอนไปอยู่ซ้ายขวาคนละฝั่ง ห้อง Master Bedroom ได้ Bathtub พร้อมกระจกชมวิวเต็มตา
- ห้อง 3 Bedroom ขนาด 118 – 119 ตร.ม. มีทั้งที่เป็น Simplex Penthouse หน้ากว้าง และห้อง Duplex Penthouse แท้ๆ ที่ได้อารมณ์เหมือนบ้านไม่มีผิด ด้วยพื้นที่ชั้นล่างกว้างขวางพร้อมห้องนอน ส่วนพื้นที่ชั้นบนก็ได้อีก 2 ห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้องครับ
จะเห็นว่าเค้าให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยในห้องมาก ถ้าใครเคยดูห้อง 1 Bedroom Plus ทั่วๆ ไปจะเห็นว่าเริ่มต้นอยู่บนพื้นที่ราวๆ 32 – 35 ตร.ม. แต่ที่นี่อยู่สบายได้จริง ส่วนสเปคภายในห้องก็จัดมาให้โปร่งสบายด้วยกระจกบานใหญ่ทุกห้อง พื้นไม้เอ็นจิเนียร์หน้าไม้โอ๊คที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีอ่างอาบน้ำให้ใน Type ขนาด 1 Bedroom Plus ขึ้นไป และให้เฟอร์นิเจอร์มาแบบครบชุดเพื่อความสะดวกในการเข้าอยู่อาศัยที่จัดให้ครบ ในราคาเริ่มต้น 4.2 ล้านบาท* ถ้าใครที่อยากได้คอนโดที่อยู่สบายแบบนี้ ขอชวนให้เข้าไปชมกันที่โครงการนะครับ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://bright-sathorn-wongwianyai.com/ หรือ โทร. 092-870-8811ครับ
วันนี้พามาชมโครงการ “Bright Wongwian Yai” คอนโดพร้อมอยู่ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่ สะดวกด้วยระยะ 100 ม. ถึง Skywalk เป็นคอนโดสูงวิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีส่วนกลางเกือบ 1 ไร่ พร้อมห้องใหญ่เหมือนอยู่บ้าน จะน่าสนใจแค่ไหน ไปชมกันครับ
ที่นี่เป็นคอนโด High Rise สูง 46 ชั้น โดดเด่นเป็นสง่าย่านวงเวียนใหญ่ และให้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 472 ยูนิต (มีแค่ 5-14 ยูนิต/ชั้นเท่านั้นครับ) และยังขายแบบ Fully Furnished ลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ผมขอเริ่มด้วยการพาชมห้องตัวอย่างว่าบรรยากาศเค้าจะอยู่สบายแค่ไหนกันเลยครับ
เริ่มที่ห้องใหญ่ก่อนกับรูปแบบ 2 Bedroom ขนาด 71 ตร.ม. ทั้งพื้นที่ใหญ่ทั้งหน้ากว้าง จัดวางเลย์เอาท์ได้ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ อยู่กันทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูกสบายๆ ครับ ดูความสบายของคุณน้องที่นั่งบนโซฟาแล้วหายห่วง
ที่นี่เค้าจะเน้นเป็น Open Plan เพื่อให้พื้นที่โปร่งโล่งครับ ห้องนี้เข้ามาก็เห็นโซนครัว เชื่อมต่อกับโซน Living แบบนี้ กับระยะเพดานสูง 2.7 ม. และระเบียงที่นำแสงธรรมชาติเข้ามาสว่างตลอดแนว โปร่งโล่งเลย
ไปดูที่ครัวกันก่อนครับ ถึงแม้จะออกแบบเป็นครัวเปิดแต่เค้าก็วางกระเบื้องในโซนครัวให้เรียบร้อยนะครับ ทำความสะอาดง่ายไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นครับ แอร์ในส่วน Living Area นี้ได้เป็น Concealed Type ด้วยเพื่อความเรียบร้อยสวยงาม
ครัวเค้าก็บิวท์เคาน์เตอร์ครัวท็อปหินสังเคราะห์ตัว L ขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ สีขาวนวล มีตู้เย็นให้มาแล้ว จัดวางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่งไว้ในโซนเดียวครบเลยครับ หลายคนเห็นแบบนี้คงมองหาว่า เอ๊ะ แล้วเครื่องซักผ้าวางตรงไหน
นี่ครับ ข้างประตูทางเข้าอีกฝั่งนึงเค้าทำเป็นส่วน Laundry จัดไว้เป็นสัดส่วนมีประตูเปิดปิด แถมเครื่องซักผ้าให้ตัวนึงแบบนี้ด้วยเลย คุณแม่บ้านพ่อบ้านคนไหนไม่อยากตากผ้า ก็ยังมีพื้นที่ให้ติดเครื่องอบผ้าด้านบนได้อีกนะ
โซน Living ก็กว้างขวาง มีโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะกลางแบบนี้ให้ครับ ตรงโคมไฟมีช่องเก็บของ ไว้วางหนังสือ หรือเทียนหอมสร้างบรรยากาศที่ดีได้ กระจกฝั่งนี้เรียกว่าเต็มพื้นที่ ชมวิวได้เต็มตา ส่วนพื้นไม้เป็น Engineering Oak Wood สีเข้มสวยๆ ให้สัมผัสที่ดีอบอุ่นเหมือนเดินในบ้าน
ระเบียงก็เข้าออกได้จากห้องนั่งเล่น ไม่ต้องมีเครื่องซักผ้าตรงนี้ก็ใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ตามแนวยาวไปเลย
อีกฝั่งนึงเป็นพื้นที่สำหรับทีวี ซึ่งถ้าเราไม่ได้ทำบิวท์อินเป็นชั้นด้านข้าง ผมว่าติดทีวีจอใหญ่ได้เต็มตาเพราะพื้นที่เหลือเฟือ เดี๋ยวเราเข้าไปดูห้องนอน Master กันที่ด้านในครับ
พื้นที่กว้างมากกก มาพร้อมกระจกแบบ Full Height วางเตียงคิงไซส์ได้สบายๆ ฐานเตียงเค้าก็มีให้ครับ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งให้แต่งหน้ากับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ หรือจะปรับเป็นโต๊ะทำงานก็สะดวก โปร่งสบายได้ใจ
มาดูอีกฝั่งนึงมีห้องหน้าบานไม้ตรงนี้ ลองทายดูซิครับว่าคืออะไร
นี่เป็นห้องแต่งตัวนั่นเองครับ ติดตั้งตู้เสื้อผ้าอยู่ภายในสไตล์ Walk-In Closet แถมได้ความเป็นส่วนตัว แต่งตัวได้ในนี้เลย
ห้องน้ำด้านในตกแต่งครบฟังก์ชัน กับกระเบื้องสีขาวสะอาดตา แซมด้วยกระเบื้องลายโมเสกเพื่อตัดสีสัน ฝั่งด้านซ้ายมือมี Rain Shower สำหรับเวลาอาบน้ำจริงๆ จังๆ ติดตั้ง Shower Screen ไว้ให้แล้ว ส่วนฝั่งขวามี Bathtub เพิ่มความสุนทรีย์ด้วยการแช่น้ำ
และไม่ใช่นั่งแช่ธรรมดา เค้าออกแบบให้เป็นกระจกบานใหญ่ชมวิวเมืองได้เต็มตา ไม่ค่อยมี Layout แบบนี้ให้เลือกในคอนโดฝั่งธนฯ
ไปดูห้องนอนอีกฝั่งนึงกันบ้าง
ห้องนอนที่สองก็ยังมีขนาดใหญ่นะ พื้นที่ซ้ายขวาเดินได้สบายๆ ตรงมุมบริเวณหน้าต่างเป็นพื้นที่ที่จัดวางโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดิบพอดี
ในห้องนี้ได้ตู้เสื้อผ้าบานใหญ่สีไม้เข้มให้ความ Cozy สไตล์เข้ากันกับภายในห้องครับ
ที่อยู่ข้างกันก็เป็นห้องน้ำครบฟังก์ชัน พร้อม Rain Shower เช่นกันนะ ให้ทั้ง 2 ห้องเลย ห้องน้ำนี้ก็ใช้สะดวกทั้งสำหรับห้องนอนที่ 2 และสำหรับเข้าจาก Living Room ครับ ก็ครบถ้วนสำหรับห้องแรกแล้ว เดี๋ยวไปชม Layout ของห้องขนาดเริ่มต้นกันบ้าง
ห้องนี้คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 38 ตร.ม. ที่สวยงามไม่แพ้กันครับ เป็นห้องที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ Living Area สำหรับคนที่ใช้ชีวิตใช้เวลาช่วงกลางวันอยู่ในห้องเยอะน่าจะชอบ
จากประตูทางเข้าฝั่งซ้ายมือคือ ห้องน้ำครับ เป็นตำแหน่งสะดวกที่ให้ได้เข้าไปทำธุระส่วนตัว ล้างไม้ล้างมือกันก่อน
โซน Living Area จัดวางให้อยู่ติดกับระเบียงของห้อง รูปแบบ Layout นี้ยังคงเป็นสไตล์ Open Plan เน้นความเชื่อมโยงกันของพื้นที่นั่งเล่นและครัวเช่นเดียวกับห้องที่แล้วครับ สังเกตตรงพื้นที่ครัวนะ ต่อให้เชื่อมโยงแต่เค้าก็ทำพื้นรองรับให้แตกต่างกันไว้เหมือนเดิม
มากับเฟอร์นิเจอร์ที่บิวท์โต๊ะกินข้าวไว้ข้างหลังโซฟา กินข้าวไปพร้อมๆ กับดูซีรี่ส์เรื่องโปรดได้ในเวลาเดียวกัน
โซน Living ขนาดกว้างกำลังดี มาพร้อมโซฟาและช่องเก็บของด้านแบบนี้ครับ เฟอร์นิเจอร์พวกนี้เค้ามี Detail ที่น่าใช้งานดีนะ
มาดูที่ระเบียงแบบ Double Balcony ครับ เราสามารถปิดหรือเปิดใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ตามชอบ อยากรับลมก็เปิดบานหน้าต่างด้านนอกระเบียง อยากอยู่เย็นสบายก็ปิด
พื้นที่ตรงนี้จึงเป็นพื้นที่ยืดหยุ่น เพิ่ม Space แบบ Indoor ให้ใช้งานได้สะดวก สังเกตว่าวัสดุพื้นเค้าก็ใช้แตกต่างกันนะครับ รองรับการใช้งานกึ่ง Outdoor เอาไว้แล้ว
สุดทางของระเบียงมีห้องเล็กๆ ที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์และเครื่องซักผ้าซ่อนอยู่ตรงนี้นะ เก็บไว้เรียบร้อยเลย ทำให้เราได้ใช้ระเบียงสวยๆ ได้เต็มพื้นที่
มาดูที่ห้องนอนกันบ้าง เค้าจัดวางอยู่ใกล้กับบริเวณทางเค้าที่เห็นกั้นไว้ด้วยกระจกบานเลื่อนในภาพครับ ใครต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นจะติดม่านตรงนี้เพิ่มอีกก็ได้ครับ แต่ในขณะเดียวกันถ้าไม่อยากตื่นเช้าให้แสงแดดส่อง ตำแหน่งตรงนี้ก็ไม่ร้อนเพราะอยู่ถัดเข้ามาด้านในครับ
ผนังห้องนอนเค้ายังทำมุมกระจกไว้ด้านหน้านิดหน่อยเพื่อช่วยเพิ่มความโปร่งของห้องนอนด้วยครับ
ก็ครบแล้วครับกับห้องตัวอย่างสวยๆทั้ง 2 รูปแบบ ต่อไปผมจะพาไปชมส่วนกลางของเค้ากันสักเล็กน้อยก่อนกลับครับ
ขอเริ่มจากชั้นบนลงมาที่ชั้นล่างนะ เราพาทุกคนขึ้นไปดูจุดชมวิวที่ชั้น 43 เป็นมุมชมวิวที่ดีที่สุดของโครงการ เห็นกรุงเทพได้โดยรอบ แบบไม่มีอะไรกั้น แล้วทำให้รู้ว่าโครงการนี้สูงมากจริงๆ ครับ
ได้เห็นทั้งกรุงเทพฝั่งธน และฝั่งพระนคร ควบคู่กับแม่น้ำเจ้าพระยาที่แยกทั้งสองฝั่งออกจากกัน
ด้านหลังของอาคารพักอาศัยคือที่ตั้งของอาคาร Facilities ที่มีสระว่ายน้ำแสนร่มรื่นครับ มองกลับไปจะเห็นอาคารหลักกับสวนลอยฟ้าที่ชั้น 9 ซึ่งอยู่เหนือชั้นจอดรถพอดี
ข้างกับสระว่ายน้ำก็มี Pool Deck ใต้ร่มไม้ ว่ายน้ำเหนื่อยแล้วก็ขึ้นมาพักผ่อนสบายๆ อันนี้บรรยากาศดีมากจริงๆ
ด้านในเป็น Fitness วิวสระ นอกจากนี้บนอาคารยังมีห้อง Steam & Sauna ให้ใช้งานด้วยครับ
ลงมาสู่ด้านล่างของอาคารพักอาศัย ภายในมี Lobby Lounge กว้างขวางคอยต้อนรับ พร้อมโซฟาหลายโซนให้มานั่งพบปะเพื่อนๆ โปร่งสบายแบบ Double Volume
มีมุมส่วนตัวให้นั่งแยกกันเป็นจุดๆ ด้วยเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ยังได้ความโปร่งอยู่ครับ
ที่นี่มี Shuttle Service ด้วยนะ รับส่งที่รถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่ด้วย หรือจะไปก็สะดวก 100 ม. ถึง Skywalk เชื่อมเข้าสู่ตัวสถานีได้เลย เดินทางไม่ถึง 10 นาที ก็ถึงสาทรแล้วครับ ส่วนแหล่งไลฟ์สไตล์ใกล้ๆ ก็มีทั้งไอคอนสยาม, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ท่าพระ, ตลาดพลู และของกินสตรีทฟู้ดนานาชนิดที่ ถ.ลาดหญ้าใกล้วงเวียนใหญ่ครับ
นี่ก็คือความอยู่สบายของโครงการ “ไบรท์ วงเวียนใหญ่” ที่เราพามาชมกันในวันนี้นะครับ ผมว่าจุดเด่นที่สุดก็คือการเป็นที่อยู่อาศัย ที่อยากให้เราได้พักผ่อนเหมือนอยู่บ้าน ไม่ว่าจะเรื่องของ Space หรือการออกแบบเพื่อเน้นความเป็นส่วนตัว และยังเป็นคอนโดที่แต่งครบแบบลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย มีส่วนกลางที่ร่มรื่นน่าใช้ ใครที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ที่ตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ ขอเชิญไปชมด้วยตาตัวเองสักครั้งครับ