รีวิวโครงการ : ATMOZ LADPRAO 15

หากมีคำถามถึงเหตุผลในการตัดสินใจเลือกอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะคู่ชีวิต หรือที่อยู่อาศัย คำตอบในใจเราก็คงไม่เหมือนกันซะทีเดียวนะครับ เพราะในกระบวนการคิด บ้างก็ใช้เหตุและผลในการพิจารณา บางทีก็มีประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาเป็นองค์ประกอบ แต่ในบางครั้ง “ความรู้สึก” ก็อาจจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจขั้นสุดท้ายก็เป็นได้

วันนี้เป็นอีกครั้งที่ผมได้มาดูคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ เวลาจะเก็บเรื่องราวมาเล่าให้ฟังกันเพื่อให้เห็นภาพว่าที่นี่เหมาะกับใคร ตอบโจทย์คนอยู่อาศัยแค่ไหน เราก็คงไม่สามารถให้ที่ใดที่หนึ่งเป็นที่ที่ดีที่สุด หรือตอบโจทย์ได้ทุกคน แต่ถ้าจุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการนั้นโดนใจคุณแล้ว ไม่แน่ว่าที่นี่อาจจะเติมเต็มความสุขของคุณได้เช่นกัน และนี่ก็คือ 5 จุดเด่นของ… ATMOZ LADPRAO 15 คอนโด Low Rise ในซอยลาดพร้าว 15 ที่เราจะพามาชมครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือจุดเด่น 5 อย่างที่ผมหยิบยกมาเล่าให้ฟัง จะตรงใจใครหรือไม่ก็ไปหาคำตอบของตัวเองได้ที่โครงการนะครับ ผมขอทิ้งท้ายไว้ด้วยข้อมูลภาพรวมโครงการสักนิด “Atmoz ลาดพร้าว 15” เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น รวม 570 ยูนิต รูปแบบห้องทั้งหมดประกอบด้วย Type 1 Bedroom 25-26 ตร.ม., 1 Bedroom Exclusive 27-28 ตร.ม. และ 1 Bedrooms Plus 35-36 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท ซึ่งเป็นโปรราคา Hot Deal ที่จะหมดเขตสิ้นเดือน พ.ย.นี้ครับ ใครสนใจก็คลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่เลยครับ http://bit.ly/2Kl49fS

ATMOZ LADPRAO 15

1. สุนทรียภาพของการพักผ่อน

โครงการนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของส่วนกลางที่ได้แบบ Double Facility หรือพูดให้เห็นภาพก็คือมีสระว่ายน้ำให้ทั้งในส่วนของชั้น Ground และชั้น Rooftop โครงการประกอบด้วย 3 อาคารพักอาศัย (A, B และ C ) กับ 1 อาคารจอดรถ Auto Parking ทุกอาคารมี Lobby เป็นของตัวเองในรูปแบบ Double Ceiling เพดานสูง ให้ความโปร่ง โล่ง เหมาะกับการชวนเพื่อนๆ มานั่งพูดคุย นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือบนโซฟานุ่มๆ ที่เค้าจัดไว้ให้เป็นอย่างดี หมอนที่เค้าใช้นุ่มจริงนะ นุ่มแบบผมเอาตัววางลงไปก็จมไปแบบ Soft Landing พร้อมนอนเลย ฮ่าๆ

พื้นที่ Outdoor facility ที่เค้าเรียกว่า Serenity Courtyard ถูกออกแบบให้มีอาคารล้อมรอบ ในช่วงสายหรือบ่ายที่มีแดดแรง ตัวอาคารจะช่วยทำหน้าที่เป็นเงาบังแดดในตัว ทำให้ได้บรรยากาศที่ดีและมีความร่มรื่น มีฟังก์ชั่นหลากหลายให้ใช้งานทั้งสระว่ายน้ำ มุมพักผ่อน และสนามหญ้าเล็กๆ ประดับด้วยน้ำพุและต้นไม้ที่ช่วยให้เกิดสุนทรียภาพในการพักผ่อน

มาต่อกันที่ส่วน Rooftop Facility ซึ่งวางกระจายกันไปทั้ง 3 อาคาร แต่สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมด มีทั้ง Fitness และ Boxing Corner ที่วางหันหน้าไปฝั่งของพื้นที่ส่วนกลาง ให้เราสามารถออกกำลังกาย พร้อมชมสวนสวยๆ ด้านล่างได้อย่างไม่เบื่อ ส่วนวันหยุดใครอยากมีความสุขเล็กๆ กับครอบครัว ในห้อง Co- Kitchen และ Game Room ก็คงสนุกได้ไม่ยาก เพราะเค้าเตรียมพื้นที่ไว้ให้จองจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ หรือจ้างเชฟมาทำอาหารอร่อยๆ ห้องติดกันเป็นห้อง Cinema + Party Room พร้อมหยิบไมโครโฟนขึ้นมา Sing a Song ขยับตัวเบาๆ ไปกับเพลงที่เราถนัดกันกันทั้งครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนสนิทในแบบ Private Party ได้เลย แต่ถ้าไม่ถนัดใช้เสียงที่นี่ก็มีกีฬากลางแจ้ง อย่าง Yoga Deck ให้เราได้ดัดซ้าย ดัดขวา ยืดขา ขยับเอว บนพื้นหญ้าเทียมสีเขียวนุ่มๆ ด้วยครับ

และสิ่งที่เป็นไฮไลท์สำหรับสายแอคทีฟบนชั้นนี้ก็คือสระว่ายน้ำความยาว 23 เมตร พร้อม Aqua Bike ให้เราปล่อยพลังงานกันได้อย่างเต็มที่ รวมถึงพื้นที่กิจกรรมอื่นๆ ที่จะช่วยเติมเต็มเวลาว่างที่แสนน่าเบื่อของเราให้กลับมามีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็น Co-Living Lounge, Cinema Lounge หรือ Games Room …เรียกว่าที่นี่มีส่วนกลางที่หลากหลายและครบครัน ให้เราเลือกใช้ชีวิตได้ในทุกไลฟ์สไตล์ในแบบ Double Facilities ที่มากกว่าคอนโด Low Rise ทั่วไปจริงๆ ครับ

2. ความสะดวกและคุ้มค่าด้วย Fully Furnished

ที่นี่เค้าลดความยุ่งยากสำหรับการอยู่อาศัยด้วยการให้เฟอร์นิเจอร์แบบครบชุด เริ่มตั้งแต่ส่วนหน้าประตูที่เราจะได้คือ Digital Door Lock ของ Yale เข้าออกห้องสบายและปลอดภัย ภายในห้องมีเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ไม่ว่าจะเป็น ชุดโซฟา ฐานเตียง ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ เครื่องปรับอากาศ ชุดครัว ประกอบด้วยเครื่องดูดควัน เตาไฟฟ้า 2 หัวและอ่างล้างจานของ MEX และห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ครบชุดเป็นของ COTTO พร้อมฉากอาบน้ำกั้นเปียกแห้งจัดไว้ให้เรียบร้อย

นอกจากเรื่องความครบครัน ก็คือความสะดวกในการย้ายเข้าอยู่นี่แหละ เราสามารถลากกระเป๋าเดินเข้า Lobby ได้อย่างนวยนาดสวัสดี ยิ้มสวยๆ ให้เพื่อนบ้านโดยไม่ต้องรีบเร่ง ขาดก็แต่หมอนและฟูก ซึ่งเราก็แวะช้อปที่ Home Pro ใกล้ปากซอยได้ไม่ยากครับ

3. ได้มาซึ่งความสงบ

ใจกลางเมืองใหญ่แบบนี้หาความสมบูรณ์แบบได้ยากนะครับ โครงการติดถนนใหญ่ ริมกระไดรถไฟฟ้าก็ได้ความสะดวก แต่แลกมากับความวุ่นวายและมลพิษจากท้องถนน ส่วน ATMOZ ลาดพร้าว 15 ก็หยิบเอาข้อดีของการอยู่ในซอยให้ได้ใช้เวลาพักผ่อนที่อยู่สงบขึ้น และได้ราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาคอนโดในปัจจุบัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปัจจุบันการเดินทางคือปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิตคนเมือง โดยเฉพาะ BTS และ MRT ดังนั้นโครงการเค้าเลยเติมเต็มความสะดวกให้ด้วย Shuttle Service สำหรับรับส่งลูกบ้านถึง 2 สาย 2 สถานีด้วยกัน นั่นก็คือที่ BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว และ MRT สถานีลาดพร้าว ใครทำงานใกล้รถไฟฟ้าสายไหน สะดวกใช้บริการสถานีอะไรเลือกได้เลยครับอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางลูกบ้านคุยกับทางนิติจัดสรรตารางเดินรถให้ตรงใจผู้อยู่อาศัยกันอีกที

4. ความอุดมสมบูรณ์ของทำเล

ทำเลลาดพร้าว 15 เป็นชุมชนที่ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถวิ่งทะลุได้ทั้งฝั่งถนนพหลโยธิน และถนนรัชดาภิเษก ดังนั้นเรื่องปากท้องเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้คนย่านนี้อยู่แล้ว ในซอยเองก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ กระจายอยู่โดยรอบ ที่สำคัญลาดพร้าว 15 เป็นที่ตั้งของ Big C Extra ลาดพร้าว (ประมาณ 600 เมตร) ภายในก็จะมีทั้ง Supermarket , HomePro, Food Court, Office Mate ร้านอาหารดังๆ รวมไปถึงธนาคารต่างๆ ที่จะช่วยให้เราสะดวกในเวลาที่เราต้องการทำธุรกรรมทางการเงิน ย่านนี้ยังมี Lifestyle Mall อย่าง Central Plaza Ladprao, Union Mall, Central Plaza East Ville หรือจะเป็นฝั่งบางกะปิก็จะมี The Mall Bangkapi ให้เราได้ช้อปชิมใช้กันอีกด้วยครับ

5. เข้าใจผู้อยู่อาศัย …ให้ในสิ่งที่มากกว่า

ที่นี่เป็นอีกโครงการที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสร้างสุนทรียภาพในการพักอาศัย แบบที่ไม่ค่อยเห็นในโครงการอื่น เคยมั้ยครับเวลาเราไปดูห้องตัวอย่างแล้วรู้สึกว่าทำไมทำเราเคลิ้ม จนรู้สึกว่าโครงการนี้ช่างน่าอยู่จัง ถ้าเราสังเกตก็จะรู้ว่าเป็นเพราะเค้าสื่อสารกับเราในทุกประสาทสัมผัส ไม่ว่าจะการตกแต่งห้องให้สวยงาม ทั้งสีสันและเครื่องประดับ แต่งแต้มด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ พร้อมเสียงเพลงคลอเบาๆ แล้วออกมาก็เสิร์ฟด้วยเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติ เห็นมั้ยครับว่า มันมาทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสเลย ทุกอย่างมีผลต่อความรู้สึกสบายกายสบายใจ และความสุนทรีย์ที่เราได้รับจากการเยี่ยมชมโครงการ

กลับมาพูดถึงสิ่งที่โครงการนี้ให้มาเป็นพิเศษเพิ่มเติม อย่างแรกก็คือการตอบโจทย์บรรยากาศการพักผ่อนด้วยเสียงเพลง จึงติดตั้ง Bluetooth Sound System ที่มาพร้อมกับลำโพงเสียงเพราะๆ นุ่มๆ มาให้ด้วย 2 จุดในทุกยูนิต จุดแรกจะอยู่ในส่วน Living และอีกจุดจะอยู่ภายในห้องนอน ซึ่งเจ้าเครื่องนี้สามารถเชื่อมต่อสัญญาณผ่าน Bluetooth USB หรือแม้แต่ Memory Card ก็ได้ …วันไหนเรามีเวลาอยู่กับห้อง เราก็แค่หยิบมือถือมาเชื่อม Bluetooth เปิด Music Application ที่เราชอบ ก็จะได้ทำกิจกรรมที่คุณรักไปพร้อมๆ กับเสียงเพลงไพเราะสุดโปรดได้ตลอดเวลาเลย ทีนี้ห้องเราก็จะได้บรรยากาศที่ดีเหมือนกับเวลาที่เราไปชมห้องตัวอย่างจริงๆ ครับ

ยังมีอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นที่เค้าติดตั้งมาให้อีก นั่นก็คือ Rescue Alarm ซึ่งเหมาะมากสำหรับคอนโดเวลาเราอยู่ตัวคนเดียว เกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมาเราก็แค่ดึงสัญญาณขอความช่วยเหลือให้มาถึงได้ทันเวลา เรียกว่าอยู่เองก็สบายใจ มีคนรักให้ห่วงใยก็ไว้ใจได้ยามฉุกเฉินฮะ

สำหรับส่วนกลางเค้าไม่ได้ให้เยอะและจัดเต็มแบบ Double Facility เพียงอย่างดียว แต่ยังออกแบบได้สวย และมีบรรยากาศน่าพักผ่อนจริงๆ เพราะถึงที่นี่จะเป็นโครงการ Low Rise  แต่พื้นที่โดยรอบโครงการก็ไม่ได้มีตึกสูงมาบดบังทัศนียภาพในการทำกิจกรรมต่างๆ ของส่วนกลางบนชั้น Rooftop แต่อย่างใดครับ

พื้นที่ Co- Kitchen เป็นอีกห้องที่ให้มาครบครัน กว้างขวาง  จะมาเดียว มาคู่ หรือมาเป็นแก๊ง ก็พร้อมรองรับการใช้งานครับ

ใครใคร่ร้องเพลงก็จับไมค์ ใครใคร่กินอะไรก็เต็มอิ่มกับห้อง  Co- Kitchen และ VR Game Room มีชุด Play Station 4 ไว้ให้ลูกบ้านจองเพียงครั้งเดียวก็สามารถใช้งานได้ทั้งสองฟังก์ชั่นครับ

สระว่ายน้ำความยาว 23 เมตรอย่างเดียวคงธรรมดาไปนะฮะ ที่นี่เค้าเลยจัด  Aqua Bike เพิ่มแอคทีฟฟังก์ชั่นในการออกกำลังให้ลูกบ้านไปด้วยครับ

ผมคิดว่าถ้าการออกกำลังใน Fitness ที่มีวิวดีๆ คงเป็นการออกกำลังกายที่ไม่น่าเบื่อเหมือนการออกที่ Gym กลางห้าง ที่นี่ก็คงเป็นเช่นนั้น เพราะมองไปทางซ้ายก็เห็นสระว่ายน้ำ มองไปตรงๆ ก็มีต้นไม้ใบหญ้า มองไปด้านล่างก็มีส่วนกลางสวยๆ ให้เราได้ดูเพลินตา…

ห้องถัดไป มีโต๊ะ Air Hockey Table ไว้ให้ ภายในห้อง Cinema Lounge เป็นอีกมุมที่ช่วยให้เวลาว่างของเราไม่น่าเบื่ออีกต่อไป จะดูหนังฟังเพลงหรือร้องคาราโอเกะ  วันไหนว่างก็ชวนเพื่อนบ้านมาดวลกันสักตา เผื่อจากคนรู้จักอาจจะกลายเป็นคนรู้ใจ อร๊ายยยย

ยูนิคอร์น ต้นไม้ และสายลม … ส่วนกลางชั้นล่างก็บรรยากาศดีไม่แพ้ชั้นบนเลยฮะ มีทั้งสระว่ายน้ำ สนามหญ้า และมุมพักผ่อน เหมาะกับเป็นพื้นที่ความสุขสำหรับครอบครัว

เรามาดูห้องตัวอย่างกันบ้างครับ  สำหรับ Type นี้คือ 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม. ซึ่งอย่างที่ผมได้อธิบายไปว่าที่นี่ได้แบบ Fully-Furnished เรียกว่าได้เกือบทุกชิ้นที่เราเห็น ยกเว้นฟูกที่นอนและของตกแต่งเล็กๆ ที่เค้าวางประดับ

ห้องนี้จะถูกวาง Layout  แบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ ส่วนแรก คือ ส่วน Living  จะรวมพื้นที่ของ บริเวณห้องนั่งเล่น ครัวเปิด และห้องน้ำอยู่ในพื้นที่ Common Area เดียวกัน

เปิดประตูเข้ามาเราจะได้สัมผัสกับพื้นห้องที่เป็นสมาร์ทไวนิลที่ทนน้ำ พร้อม Counter ครัวลายไม้สีสว่างและTop สีขาวที่ลามิเนตแบบนี้ครับ

อุปกรณ์ที่เราจะได้ในชุดครัว ก็จะมีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ MEX  เพียงเท่านี้แม่บ้านของเราก็พร้อมทำอาหารมื้ออร่อยได้แล้วครับ

ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์จาก Toto ครบชุด พร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งที่ให้เป็นประตูบานสไลด์อย่างที่เห็น ข้อดีของฉากกั้นแบบนี้คือ เข้าง่ายออกสบายกว่าประตูเปิดปิดธรรมดา ไม่ต้องมานั่งถอนหายใจในช่วงที่น้ำหนักขึ้นแล้วประตูฉากกั้นดันติดหน้าท้อง 555+

ส่วน Living ของ Type นี้ก็ค่อนข้างกว้างและมีระยะนั่งชมทีวีห่างพอสมควรสามารถใช้ทีวีไซส์ใหญ่ได้สบายๆ พื้นที่ตรงนี้เราสามารถปรับเปลี่ยนใช้งานได้อย่างเต็มที่เลยนะ เอาโต๊ะกลางออกแล้วชวนเพื่อนกางฟูกนอนดู Netflix มันๆ วันละเรื่อง ก็สนุกไปอีกแบบนะครับ โต๊ะวางทีวี โซฟาและโต๊ะกลางไซส์ใหญ่ที่เห็น เค้าก็ให้เราหมดเลย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติมให้เหนื่อยละครับ

ระหว่างส่วน Common Area กับส่วนห้องนอนกั้นด้วยประตูบานสไลด์ขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าใครชอบอยู่ห้องโล่งๆ สบายๆ เราก็สามารถเปิดได้แบบกว้างๆ อย่างที่เห็นเลยครับ วันไหนอากาศดีๆ เปิดประตูระเบียงให้ลม Flow พร้อมเปิดเพลงเพราะๆ จาก Bluetooth Sound System คงจะฟินน่าดูฮะ

เตียงนอนที่ได้จะเป็นไซส์ 5 ฟุต พร้อมฟังก์ชั่นลิ้นชักเก็บของใต้เตียง เรียกว่าไม่ปล่อยพื้นที่ให้เสียเปล่า สามารถเอามาทำที่เก็บของกระจุกกระจิกของเราได้

ผนังติดกระจกขนาดใหญ่ พร้อมระเบียงที่ถูกติดตั้งประตูบานสไลด์กระจกช่วยให้ห้องเราสว่าง ทั้งยังสามารถช่วยประหยัดไฟได้ในตอนกลางวัน

สำหรับ Daybed บริเวณข้างหัวเตียงเค้าไม่ได้แถมมาให้นะครับ เค้าแค่ Built – in ให้ดูว่าตรงนี้มีพื้นที่เหลือเฟือให้เราสามารถแต่งเป็นพื้นที่ใช้งานอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น Daybed ตามห้องตัวอย่าง ถ้าชอบทำงานที่บ้าน วางโต๊ะทำงานก็สะดวกดีครับ

ส่วนสุดท้ายที่ได้จากโครงการคือ เครื่องปรับอากาศ ตู้เสื้อผ้า Built – in ในทุกยูนิต ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกจะได้สำหรับห้องบางตำแหน่งเท่านั้นครับ

อีกห้องตัวอย่างที่โครงการมีให้ชม คือ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม.  สำหรับข้อดีของห้องนี้คือการวาง Layout ที่เป็นสัดเป็นส่วนอย่างชัดเจน มีครัวปิด และห้องอเนกประสงค์ที่ได้เค้าตกแต่งเป็นฟังก์ชั่นห้องนอนที่สองมาให้แล้วครับ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับส่วน Living Area ที่มีความกว้างขวาง น่าอยู่ เป็นจุดพักผ่อนแรกก่อนเข้าสู่ภายในห้อง

สำหรับห้องนี้เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้วทำให้ได้เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่แตกต่างเพิ่มขึ้นมา  คือชั้นวางรองเท้า โต๊ะทานข้าว ตู้ลอยและฐานเตียงในห้องอเนกประสงค์

มองเข้าไปจากส่วนหน้าของห้องเราจะพบว่าพื้นที่ Common Area มีพื้นที่เยอะมาก หลังจากจัดวางโซฟา โต๊ะกลาง และโต๊ะกินข้าวลงไปยังทำให้เหลือพื้นที่หลวมๆ อยู่เลยครับ

แต่ถ้าหากเราอยากเปลี่ยนโต๊ะทานข้าวที่โครงการให้ ให้มีขนาดไซส์ใหญกว่า 2 ที่นั่ง ผมคิดว่าน่าจะทำได้นะครับ หรือถ้าเลือกเป็นโต๊ะกลมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นก็ยังพอเลื่อนเข้าออก เพิ่มจำนวนที่นั่งได้

ห้องน้ำได้ Spec เหมือนห้องตัวอย่างที่แล้วครับ อุปกรณ์ก็ครบครันตามมาตรฐาน

ครัวตั้งอยู่ระหว่างห้องอเนกประสงค์กับห้องน้ำ มาพร้อมบานเลื่อนทำแบบครัวปิดช่วยเรื่องกลิ่นได้ เคาน์เตอร์ครัวลักษณะเป็นรูปตัวแอล มีพื้นที่ใช้งานเยอะกว่า พร้อมเผื่อพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ

มาถึงห้องอเนกประสงค์ติดระเบียงกันบ้าง …ห้องนี้ที่หลายคนชอบเป็นพิเศษ เพราะเราจะมีฟังก์ชั่นใช้งานเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งห้องตามแต่เราจะชอบ  ใครจะทำเป็นห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องทำงาน หรือห้องอะไรก็ได้ไม่มีกติกา แต่ทว่าห้องนี้เค้าแถมตู้ลอยและฐานเตียงขนาด 3 ฟุตมาให้ ถ้าใครต้องการใช้เป็นห้องนอนที่สองก็ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแล้วครับ

มาถึงห้องนอนใหญ่ ห้องนี้กั้นด้วยบานสไลด์ทำให้ห้องยังดูโปร่ง มีเฟอร์นิเจอร์แถมมาให้ทั้งตู้เสื้อผ้า และฐานเตียงขนาด 5 ฟุต ห้องนอนติดกระจกบานใหญ่แบบนี้ ก็เปิดไปชมวิวส่วนกลางด้านล่างสวยๆ ได้เต็มตาครับ

เป็นไงบ้างครับกับการพามาชมโครงการพร้อมอยู่ ATMOZ LADPRAO 15 กับบรรยากาศ “ความสงบ..ที่ซ่อนอยู่ใจกลางเมืองใหญ่” ที่นี่มีจุดเด่นเรื่อง Double Facilities ที่จัดเต็มมาให้ล้นหลามและหลากหลาย ถูกใจลูกบ้านที่มีความชื่นชอบกิจกรรมที่แตกต่างกัน ส่วนบรรยากาศภายในโครงการเค้าก็ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อน และยังเพิ่มเติมอารมณ์สุนทรีย์ของผู้อยู่อาศัย ด้วยการเตรียมเสียงเพลงเพราะๆ ไว้ในห้องทุกห้องอีกด้วย สำหรับแฟนเพจ Living Sneak Peek ที่สนใจก็คลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่นี่ >> http://bit.ly/2Kl49fS

สำหรับครั้งหน้าเราจะไปพบกันที่โครงการไหนอีก ติดตามชมได้ที่นี่เช่นเคยคร้าบบ