Aspire อโศก รัชดา คอนโด Low Rise สไตล์โคโลเนียล ในทำเลสุด POP

อยู่ในเมืองใหญ่..จะหาคอนโดอยู่สักที่ นี่ตัดสินใจยากมั้ยครับ?
ชาวออฟฟิศอยากสะดวก ชิดรถไฟฟ้า แต่ราคานี่สินับวันจะพุ่งแซงการปรับเงินเดือน
คนรักธรรมชาติ อยากได้บรรยากาศร่มรื่น แต่ถ้าออกมาแล้วเงียบเหงา ก็ต้องจับเจ่าอยู่แต่ในห้อง
ชาว Startup อยากเริ่มทำงานในคอนโด แต่พื้นที่ก็มีจำกัด ไม่รู้จะวางที่ทำงานตรงไหน

จริงๆ มีอีกหลายความคิดที่ขัดแย้งกันเวลาจะตัดสินใจเลือกคอนโดสักที่ เพราะนี่เป็นก้าวสำคัญที่จะผูกพันเราไปอีกนาน อย่างแว่นเองชอบที่จะอยู่คอนโดนะครับ เพราะไม่ต้องดูแลมาก และยังเดินทางง่ายถ้าเราเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้า แต่อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ “ชีวิตที่อยู่นอกห้อง” นอกเหนือจากการทำงาน เราจะไปพักผ่อน กินข้าว ออกไปหาอะไรทำที่ไหน? สิ่งเหล่านี้บางทีก็ไม่ทันคิดก่อนซื้อ โอเคล่ะ บางคนชอบอยู่แต่ในห้อง แต่ถ้าคอนโดอยู่ในทำเลที่แห้งแล้ง ไอ้ชีวิตนอกห้องนี่แหละจะน่าเบื่อลงไปเยอะเลย

นอกจากคอนโดติดรถไฟฟ้าโดยเฉพาะสายหลัก หรือส่วนต่อขยายใกล้ๆ ที่หลายคนจะเลือกถ้าสามารถจ่ายได้แล้ว อีกสิ่งที่แว่นชอบก็คือ โครงการที่ไม่ต้องถึงขั้นอยู่ติดกระไดรถไฟฟ้า แต่อยู่ในทำเลเมือง  และมีความอุดมสมบูรณ์ ถ้าเอาปัจจัยแบบนี้ จะหาเป็นบ้านก็เลิกคิดเรื่องราคาไปเลยฮะ แต่ถ้าเป็น “คอนโด” วันนี้เราจะพามาดูกันครับ โครงการนี้อยู่ในทำเลพระราม 9 เป็นทั้งแหล่งธุรกิจ แหล่งงาน แหล่งช้อปปิ้ง แต่ที่ตั้งนี่ไม่ได้วุ่นวายเห็นแค่ดงตึกสูง เพราะอยู่ในทำเลที่เข้าซอยไปหน่อย จัดเป็นโซนของเราเองอยู่ท่ามกลางอาคารชั้นเตี้ย แถมในซอยที่ว่าเนี่ย อุดมสมบูรณ์สุดๆ แบบเดินกันเจอร้านอาหาร ร้านตัดผม ร้านขายยา 7-11 แบบร้านต่อร้านสลับกันไปเลย คอนโดที่ว่านี้ก็คือ “Aspire อโศก รัชดา” นั่นเองคร้าบ

 Aspire อโศก รัชดา ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 11 ไร่ เป็นคอนโด 8 ชั้น 6 อาคาร (ตั้งแต่อาคาร A-F) เป็นส่วนพักอาศัยรวม 1,025 ยูนิต  โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ด้านในเอาไว้ทั้งหมด ความน่าสนใจของโครงการนี้มีทั้งเรื่องทำเลที่ตั้ง การออกแบบ และพื้นที่ภายในห้องครับ ขอเริ่มจากเรื่องทำเลที่ตั้งก่อนแล้วกัน โครงการอยู่ในซอยรัชดา 3 บริเวณปากซอยก็คือ สถานทูตจีน ซอยนี้อยู่เกือบๆ กึ่งกลางระหว่าง MRT สถานี คือ MRT พระราม 9 และ MRT ศูนย์วัฒนธรรมครับ ข้อดีของซอยนี้คือ นอกจากปากทางติดถนนรัชดาภิเษกแล้ว ยังไปทะลุผ่านซอยประชาสงเคราะห์ 2 ไปออกถนนประชาสงเคราะห์ ดินแดง หรือวิภาวดีรังสิตได้ และอย่างที่บอกไปว่า  จากปากซอยไปยังที่ตั้งโครงการ เป็นชุมชนทั้งหมด อยู่กันอย่างอุดมสมบูรณ์เลย ร้านรวงนับไม่ถ้วน แถมมีคนเข้าออกตลอดทั้งวัน ไม่ใช่ซอยเปลี่ยว และคึกคักแบบนี้เหมาะสำหรับอยู่อาศัยมากครับ

พื้นที่ของบริเวณพระราม 9 นี้ ความเจริญอื่นๆ คงไม่ต้องพูดถึงกันมาก นอกจากจะฟังกันมาหลายรอบ ยังดูได้ง่ายๆ จากการที่โครงการตึกสูงต่างๆ ผุดกันขึ้นมาเรื่อยๆ จนออกจะค่อนข้างแออัดบริเวณใกล้แยกพระราม 9 ดังนั้นถ้าใครไม่ชอบความอึดอัดระดับนั้น การเข้ามาอยู่ในซอยนี้อยู่ท่ามกลางอาคารชั้นเตี้ย แต่ไม่เปลี่ยว ก็จะเป็นทางเลือกใหม่ให้คนที่อยากอยู่แถวนี้ได้เลือกมากขึ้นครับ

สำหรับเรื่องการออกแบบ “Aspire อโศก รัชดา” เป็นศักราชใหม่ของดีไซน์ในซีรีย์ Aspire ที่เริ่มในปีนี้เลยครับ โดยการประยุกต์เอาคอนเซปต์การออกแบบสไตล์ Colonial อารมณ์บ้านทรงยุโรป ที่มักจะเห็นเอาไปใช้กับโครงการหรู มาใช้กับโครงการนี้ แต่เพิ่มความ POP ผ่านสีสันที่ใส่ลงไปให้มี Mood ที่สดใสมากขึ้น ซึ่งเราจะได้เห็นเส้นสายซุ้มโค้ง (Arch) และแพทเทิร์นหน้าต่างคู่จากด้านนอกอาคาร ผสมผสานกับแนวไม้ตัดแต่งฟอร์มท่ามกลางสวนแนว Courtyard อยู่เคียงคู่กับสระว่ายน้ำ ที่จะได้ความรู้สึกสบายจากการพักผ่อนแนวรีสอร์ทในพื้นที่ของเราเองที่ซ่อนอยู่กลางเมืองครับ 

อาคารพักอาศัยได้รับการจัดวางโดยโอบพื้นที่ Facilities สวยๆ ไว้ตรงกลาง มีทั้งสระว่ายน้ำ 2 สระ เป็น Lap Pool สำหรับว่ายออกกำลัง และ Bubble Pool ให้นอนแช่สบายๆ มีสวน Courtyard ขนาดใหญ่ 2 สวน มี Sunken Seat ให้พักผ่อน และยังมีสวนแบบ Sky Terrace พร้อม ศาลาทรง Gazebo ที่อยู่บน Rooftop ของอาคาร Clubhouse ซึ่งจะชมได้จากห้องที่หันเข้ามาด้านในพื้นที่โครงการ ซึ่ง Clubhouse นี่ยังเป็นที่ตั้งของ Facilities อื่นๆ ทั้ง Main lobby, Fitness ที่มีทั้ง TRX-Boxing-Yoga แยกห้องไปต่างหาก, Co-working space และพื้นที่ Co-kitchen อเนกประสงค์ อ้อ แล้วใครที่อยากมีพื้นที่ส่วนกลางส่วนตัวแบบนี้ขอให้จิ้มไปที่อาคาร F เพราะจะอยู่ที่บริเวณเดียวกันกับ Clubhouse นี่เลยครับ

สิ่งสุดท้ายที่จะเล่าให้ฟังก็คือ การออกแบบห้อง Unit Type ที่นี่มีตั้งแต่ Studio ขนาด 25 ตร.ม. 1Bedroom ขนาด 30 – 35 ตร.ม. และ 2Bedroom ขนาด 49.5-51 ตร.ม. แต่พื้นที่ใช้สอยน่าสนใจทุกห้องนะครับ โดยเฉพาะพื้นที่ทำงานที่ไม่ต้องไปนั่งทำบนโซฟา อย่าง Studio จะมีพื้นที่ทำงานและโซฟาพักผ่อนไว้ชิดหน้าต่าง เป็นมุมส่วนตัว แบบ 1Bed ขนาด 30 ตร.ม. ก็มีพื้นที่วางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่พอๆ กับตู้เสื้อผ้าใช้ฟังก์ชั่นร่วมกับโต๊ะเครื่องแป้งได้ ส่วนใครอยากได้ Working Station ส่วนตัวเป็นห้องไปเลยก็เลือกที่ 1Bed Plus จะได้ห้องอเนกประสงค์ขนาดกว้างมาก ซึ่ง Layout 35 ตร.ม. นี้เป็น Layout ใหม่ของ Aspire ด้วยครับ ส่วนห้องพิเศษที่มีเพียง 1 unit/ชั้น ก็คือห้องแบบ 1Bed corner ที่จะได้ห้องนั่งเล่นกว้างขวางสุดๆ ถ้าชอบให้มีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนปาร์ตี้ ก็จิ้มไปที่นี่เลยฮะ ส่วนห้องที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่แบบ 2Bedroom ก็มี Layout ที่ลงตัวมาก ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และห้องนั่งเล่นรับชมวิวได้หมด และเค้าทำส่วน Laundry สำหรับใส่เครื่องซักผ้าซ่อนไว้ในผนังเหมือนตู้ๆ หนึ่งเลยครับ

ใครที่กำลังมองหาเรื่องตัวเลขอยู่ ราคาที่นี่ Start ที่ 1.99 ล้านบาท และเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม. ครับ กำลังสวยเลย นี่ก็คือความน่าสนใจสำหรับโครงการ Aspire อโศก รัชดา ที่แอบดูคอนโดจะพามาดูห้องตัวอย่างกันในวันนี้ครับ และเช่นเคยแฟนเพจแอบดูคอนโดที่สนใจก็ลงทะเบียนรับส่วนลดออนไลน์สูงสุด 100,000 บาท ได้ที่นี่ https://bit.ly/2NIv6eb และจดคิวเอาไว้เลย จองออนไลน์ผ่าน iBooking 26 มี.ค.นี้ ตั้งแต่ 1 ทุ่ม – 3 ทุ่ม แล้วตามด้วยการเปิดขาย Presale ที่สำนักงานขาย (หน้าโครงการ Aspire พระราม 9) ในวันที่ 30-31 มีนาคมนี้ จอง 5,000 บาท ฟรีค่าทำสัญญา ผ่อนเริ่ม 3,500 บาท/ตร.ม. ครับ

อ้อ ใครอยากดูห้องตัวอย่างรอสักครู่ เปิดให้ชม 21-24 มี.ค. 9.00-20.00 น. เฉพาะ 4 วันนี้เท่านั้นนะคร้าบ

วันนี้จะพาไปตะลุยโครงการและห้องตัวอย่างของแอสปาย อโศก-รัชดา กันครับ

ก่อนจะพาเข้าห้องขอแฉลบแว๊บไปดู Model โครงการกันสักหน่อย จะเห็นซุ้มโค้งในการออกแบบภายนอกอาคาร ซึ่งมีทางเข้าลอดเป็นซุ้มๆ สลับกับทิวไม้ อาคารแรกที่เราเห็นหลังจากเข้ามาก็คืออาคาร F ซึ่งอยู่ด้วยกันกับ Clubhouse ศูนย์รวม facilities ในร่มทั้งหมดเอาไว้

อาคาร Clubhouse จะอยู่กึ่งกลางระหว่างสระว่ายน้ำ 2 สระ ฝั่งซ้ายมือเป็นสระแช่ตัว ส่วนฝั่งขวาก็เป็นแนวยาวสำหรับคนชอบว่ายแบบจริงจัง บึ้ด จ้ำ บึ้ด ด้านบนอาคารมี Roof garden ส่วนเก้าอี้นั่ง และ Gazebo ให้พักผ่อนหย่อนใจ

จะสังเกตเห็นว่าอาคารพักอาศัยจะโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางไว้ครับ เพราะงั้นห้องที่หันเข้ามาด้านในก็จะได้ชมวิวสวยๆ เกือบตลอดทั้งแนว โดยเฉพาะอาคาร F นี่ถือว่ามีพื้นที่ส่วนกลางเป็นของตัวเองเลย

ตามเข้ามาชมห้องแรกกันก่อนครับ ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. เป็นขนาดที่มีฟังก์ชั่นเหมาะสำหรับคนอยากทำธุรกิจ หรือมี Hobby ยามว่างไม่เหมือนใคร ก็เอาเจ้าห้อง Plus ที่เพิ่มขึ้นมานี่แหละปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการฮะ เมื่อเข้ามาก็จะเจอกับส่วน Living Area กันก่อน

เปิดประตูเข้ามาก็ทิ้งตัวลงได้ก่อนเลย

พื้นที่ตรงนี้เชื่อมต่อกันทั้งส่วนนั่งเล่น พื้นที่โต๊ะกินข้าวที่วางได้ถึง 4 ที่นั่ง และพื้นที่ครัวที่เป็นลักษณะครัวเปิด ทั้งหมดเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันครับ ทำอาหาร นั่งกินข้าว รวมกลุ่มเม้าท์กับเพื่อนได้เต็มเหนี่ยวพร้อมรับแขกและสังสรรค์ ส่วนระยะเพดานที่นี่อยู่ที่2.5 ม. ครับ

ถ้าไม่ทำชั้นวางทีวีเป็นแนวยาวจนสุดทาง ก็เหลือพื้นที่ทำตู้เก็บรองเท้าแนวตั้งข้างๆ ประตูได้

ส่วนทำอาหารได้ Shape รูปตัว L พื้นที่เกินพอสำหรับการทำครัวในคอนโด มาพร้อมอุปกรณ์ทั้งซิงค์ เตาไฟฟ้า 2 หัว และที่ดูดควันระบายออกไปนอกอาคาร ซึ่งจะถูก Built ปิดจนสุดฝ้าเลยครับ หมดกังวลเรื่องกลิ่นไปได้เลย ตกแต่งทั้งส่วนป้องกันน้ำมันกระเด็น (Backsplash) และชั้นวางของด้านบนเอาไว้แล้ว ยกเว้นช่องด้านล่างนี่ต้องหาไมโครเวฟเอาเองนะครับ พื้นที่ใส่ตู้เย็นก็ขนาดกำลังดีไม่เล็กเกินไป นี่ถ้าได้ Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์จะ Perfect เลย

การจัดเข้ามุมทำให้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มอีกเยอะเลย

แถมห้องน้ำห้องท่า ก็ไม่ต้องไปเข้าที่ไหน อยู่ข้างส่วนครัวนี่แหละครับ เดินสเตปขึ้นไปนิดนึง

ห้องน้ำที่ได้เป็นแบบสำเร็จรูป ลดปัญหารั่วซึม และการ Maintenance ตามแบบฉบับสมัยนิยม แต่ก็ดูหน้าตาไม่ค่อยออกเป็นสำเร็จรูปแล้วล่ะ มีการปรับการตกแต่งให้เหมือนห้องน้ำทั่วไปที่เราคุ้นชินกัน ส่วนสุขภัณฑ์ก็จัดมาหลากหลายเชื้อชาตินะ มีทั้ง Cotto, American Standard และ Cristina กระจกบานใหญ่ดีทีเดียวครับ จะแต่งหน้าตั้งแต่นั่งส้วมมาจนถึงหน้าอ่างได้เลย มีที่ต้องทำเพิ่มนิดนึงก็คือกระจกกั้นอาบน้ำ

ฝักบัวเป็น Hand shower พร้อมชั้นเข้ามุมไว้พอวางอะไรได้นิดหน่อยนะ แต่อยากได้จุใจกว่านี้ก็เจาะแขวนชั้นเพิ่มอีกดีกว่า

พื้นที่ติดกับครัวก็คือ ห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาตามคอนเซปต์ห้อง Plus นี่แหละครับ แล้วมีขนาดที่ใช้สอยได้สบายเลย จะวางโต๊ะทำงาน ทำเป็น Work station ทำ Studio จัดแสงถ่ายรูป หรือทำเป็น Walk-in closet ก็ได้ เท่าที่แว่นไปส่องดูจริงๆ ยังทำเป็นห้องนอนได้ด้วยนะ แต่เป็นแบบประยุกต์นิดนึง พับเก็บขึ้นผนังได้ แบบนี้น่าจะใช้งานได้ยืดหยุ่นและไม่กินพื้นที่ห้องตลอดเวลา

โครงการลองจัดตกแต่งเป็นพื้นที่ทำงาน และแต่งตัวมาให้เราดูเป็นไอเดียครับ

ถัดออกเป็นเป็นส่วนของระเบียง ที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าใต้คอมเพรสเซอร์แอร์

และยังกว้างพอจะวางเก้าอี้ เป็นมุมอ่านหนังสือ หรือไม่ก็รอเก็บผ้าได้อีกแรง 55

มาในส่วนสุดท้ายของห้องนี้ก็คือ ห้องนอน ตาม Layout สามารถวางเตียงนอนในแนวเดียวกันกับตู้เสื้อผ้าได้ แต่ถ้าปรับไซส์ตู้สักหน่อย ใส่เตียง King size ก็ยังไม่อึดอัดนะ

ด้านข้างเตียงก็ทำตู้เสื้อผ้าแบบ 2 หน้าบานได้อยู่

สังเกตที่หน้าต่างนิด เค้าดีไซน์ออกมาเป็นหน้าต่างบานคู่ ถ้ากลับไปดูโมเดลโครงการก็จะเห็นว่าเมื่อมองจากด้านนอกก็จะเห็นเป็นแพทเทิร์นสวยๆ ของอาคารครับ

คราวนี้มาห้องต่อไปแบบ 2 Bedroom กันบ้าง

ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายก็คือ แบบ 2 Bedroom ขนาด 49.5 ตร.ม. แว่นขอพูดถึงภาพรวมห้องก่อนเลยละกัน ห้องนี้ได้ครัวปิด แยกห้องนอนไปอยู่ 2 ฝั่งซ้ายและขวา แถมยังได้ห้องน้ำแบบ Double Access เข้าได้ทั้งจากห้องนอน Master bedroom และส่วนของครัวก็จะเต็มที่ได้ละ เพราะเป็นครัวปิดครับ แถมยังได้ตู้ซ่อนเก็บเครื่องซักผ้าไว้อย่างแนบเนียน

มุมตรงนี้โล่งอยู่นะ นั่งได้ไม่อึดอัด

ถัดเข้ามาจากบริเวณโต๊ะกินข้าวซึ่งเป็นจุดแรกเมื่อเปิดเข้าในห้อง ก็จะเป็นพื้นที่นั่งดูทีวี ติดกับฝั่งระเบียงชมวิวได้ อ้อ ลืมบอกไป นอกจากส่วน living area แล้ว ห้องนอนอื่นๆ ก็ได้มุมวิวฝั่งเดียวกันหมดนี่แหละครับ

ส่วนระเบียงด้านนอก ห้องนี้จัดเป็นพื้นที่วางกระถางต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ สร้างบรรยากาศธรรมชาติ

ก็จะได้มุมพักผ่อนติดระเบียงชมวิว ชมนก ชมไม้

ส่วนห้องน้ำเข้าได้สะดวกทั้งแขกและเจ้าของห้อง เพราะเปิดเข้าได้ทั้ง 2 ทิศทาง

กลับออกมาเราจะพาไปดูห้องนอน Master ที่ซึ่งอยู่หลังทีวีกันครับ

ด้วยความที่ห้องนอน Master นี้มีพื้นที่เหลือกินเหลือใช้ ก็เลยทำเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง หรือตู้เสื้อผ้าแยกออกมาเป็นโซนๆ ได้เลย

เตียงใส่ยังไงก็ไม่เต็มห้อง ส่วนหน้าต่างก็คอนเซปต์เดิมเป็นหน้าต่างบานคู่ครับ

เดินออกมาจะไปดูห้องนอนที่สอง ก็สะดุดเข้ากับบานประตูสีอ่อนที่ตรงสุดปลายทางเดิน ที่เค้าให้มาพิเศษกว่าแอสปายตัวอื่นเลยด้วยครับ

ที่จริงแล้วตู้นี้เค้าทำเป็นพื้นที่ Laundry นั่นเอง

จากหน้าเครื่องซักผ้า หันซ้ายมือมาก็จะเห็นห้องครัวแบบปิด สำหรับ Type นี้จะได้ครัวเป็นรูปตัว I ครับ อีกฝั่งนึงเป็นช่องสำหรับใส่ตู้เย็น อุปกรณ์และสีสันก็ตามแบบห้องที่แล้วเลยครับ

ห้องจริงฮูทดูดควันได้สูงจรดฝ้านะครับ ไม่ใช่อยู่แค่นี้

ช่องใส่ตู้เย็นตรงนี้ถ้าเอาขนาดไม่สูงมาก ยังบิ้วท์อินตู้แขวนด้านบนได้อีกนะ

ส่วนฝั่งตรงข้ามกันกับครัวนี้ก็เป็นห้องนอนที่ 2 ซึ่งได้ช่องแสงสองฝั่งเลย ทั้งบริเวณเตียงนอนและโต๊ะเครื่องแป้ง

ติดตามเราได้ที่ : facebook

ติดต่อสอบถาม : Contact