ทำความเข้าใจกับสีฟอกอากาศ นวัตกรรมเพื่อบ้านสมัยใหม่

ด้วยสภาพอากาศของประเทศไทยที่มีฝุ่นควันสะสมเกินมาตรฐานในช่วงปีที่ผ่านมา หลายๆ คนจะมุ่งไปที่การหลีกเลี่ยงการเผชิญกับมลพิษนอกบ้านเป็นหลัก แต่หารู้ไม่ว่าภายในบ้านนั้นก็อาจมีมลพิษที่ส่งผลต่อสุขภาพเช่นกัน เพราะบ้านที่มีการทาสีใหม่ ตกแต่งด้วยพรม และมีการเปิดเครื่องปรับอากาศต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ อากาศจะไม่ถ่ายเท ทำให้มีสารพิษและไรฝุ่นกระจายในห้อง เด็กหรือผู้สูงอายุในบ้านอาจมีอาการของโรคภูมิแพ้หรือหอบหืดได้ จากสถิติล่าสุดของสมาคมโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทยพบว่า เด็กไทยกว่าร้อยละ 38 และผู้ใหญ่ร้อยละ 20 เป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นถึง 3-4 เท่า เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา[1]

นวัตกรรมเกี่ยวกับบ้าน

ปัจจุบันมีนวัตกรรมที่เกี่ยวกับบ้านออกมาหลากหลาย เช่น หลังคาลดความร้อน พื้นผิวบ้านที่ลดการเกาะของน้ำ เป็นต้น และหนึ่งในนั้นคือสีฟอกอากาศที่ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนให้ความสนใจ ถึงแม้จะไม่ได้ทำหน้าที่เช่นเครื่องฟอกอากาศ แต่นวัตกรรมในตัวสีสามารถช่วยสลายมลพิษและสารระเหยที่เป็นอันตรายในอากาศได้ ดาว ประเทศไทย บริษัทชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์ เป็นหนึ่งในผู้วิจัยและพัฒนานวัตกรรม binder สำหรับอุตสาหกรรมสีทาอาคาร เพื่อให้มีคุณสมบัติแห้งไว ทาง่าย เช็ดล้างได้ ทนทาน สะท้อนความร้อน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการร่วมมือกับลูกค้าในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ป้อนเข้าสู่ตลาด เพื่อนำเสนอโซลูชั่นให้กับผู้บริโภค

กระบวนการฟอกอากาศของสี

Binder ที่มีคุณสมบัติพิเศษซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของสี คือตัวที่ทำให้สีมีคุณสมบัติโดดเด่นในการช่วยฟอกอากาศ เช่น เทคโนโลยี FormaShield™ Acrylic Emulsionจาก ดาว ที่มีข้อดีคือ กลิ่นไม่รุนแรง ไม่มีแอมโมเนียและสารฟอร์มัลดิไฮด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ตัววัตถุดิบจะทำปฏิกิริยากับสารพิษบางชนิดในอากาศ เพื่อช่วยให้อากาศภายในบ้านดีขึ้น และยังช่วยกำหนดคุณภาพของสีให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด กระบวนการฟอกอากาศในผลิตภัณฑ์สีที่ใช้เทคโนโลยีFormaShield™ Acrylic Emulsion เมื่อสารพิษในอากาศมาสัมผัสกับผนังจะทำปฏิกิริยาให้สารพิษกลายเป็นไอน้ำ ทำให้อากาศในบ้านสะอาดและบริสุทธิ์ และยังมีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติมคือสามารถเช็ดล้างคราบสิ่งสกปรกออกได้ง่าย ทำให้ผนังดูสะอาดและใหม่อยู่เสมอ

นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างของนวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ที่ให้ประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน ที่ ดาว ประเทศไทย ได้มีส่วนร่วมในการคิดค้นและพัฒนา ความรู้ในสาขาวัสดุศาสตร์กำลังเดินหน้าไปในทิศทางใหม่ เพราะทรัพยากรที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และการคิดนอกกรอบ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกันกับยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีที่สำคัญและจำเป็นในระยะ 10 ปีต่อจากนี้ของประเทศไทยในการผลักดันโมเดลไทยแลนด์ 4.0 เพื่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว