ช่วงนี้เราเริ่มเห็นโครงการหลายๆ ที่มีการพัฒนาพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้นนะครับ ทั้งมีการเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางให้กับน้องหมาน้องแมว อัพเกรดวัสดุต่างๆ ในห้องที่ทนทานและคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตพวกเค้ามากขึ้น เช่น ระเบียงกันตก พื้นกันรอยขีดข่วน หรือประตูกันเสียง ใส่ใจความเป็นอยู่ด้วยการมี Shop สำหรับขายของสัตว์ หรืออย่างบางทำเลอยู่ใกล้รพ.สัตว์เลยก็มี แบบนี้ก็ทำให้เจ้าของอุ่นใจ และสามารถอยู่ใกล้กับเพื่อนรักสี่ขาได้อย่างมีความสุขในทุกวัน และยิ่งไปกว่านั้น ข้อตกลงและการอยู่ร่วมกันกับเพื่อนบ้านก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้
วันนี้เราเลยรวม 8 หัวข้อที่ต้องรู้ ถ้าคิดจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโด หรือเลือกอยู่คอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้มาฝากทุกคนกันครับ
1. พันธุ์ที่เลี้ยงได้ต้องไม่เกิน 15 กก.
เรียกง่ายๆ ก็คือสุนัขพันธุ์เล็ก อย่างน้องอูนิพันธุ์ชิวาวาของผม, ปอม, เฟรนช์บลูด็อก เป็นต้น ซึ่งที่เค้าไม่อนุญาตให้เลี้ยงสุนัขไซส์ใหญ่ก็เพราะเจ้าหมาพวกนี้พลังเยอะมาก การได้อยู่ในห้องที่มีพื้นที่จำกัดอาจทำให้พวกเค้าเครียด หรือทำลายข้าวของเสียหายได้ครับ
2. เลี้ยงได้ 1 ตัวต่อพื้นที่ห้อง 50 ตาราเมตร
ยกตัวอย่างเช่น ห้องขนาด 100 ตาราเมตรเลี้ยงได้ 2 ตัว ขนาด 150 ตารางเมตรเลี้ยงได้ 3 ตัวเป็นต้น
3. จัดเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสม
เตรียมที่นอน, ส้วม, น้ำ และอาหารให้พร้อม หรือบางทีควรมีรถเข็นและสายจูงเตรียมไว้ด้วย เผื่อว่าจะพาน้องหมาเข้าออกโครงการ หรือไปใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกับผู้อื่นนั่นเองครับ
4. ฝึกสอน
หากมีเวลาก็จำเป็นที่จะต้องฝึกให้น้องหมาได้เรียนรู้และเข้าใจคำสั่งของเราเอาไว้ครับ เค้าจะได้ขับถ่ายเป็นที่ ฝึกให้รอ ให้นั่ง ให้รู้จักหยุดเห่า เพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุขของลูกบ้านท่านอื่นในคอนโดเราด้วย
5. เคารพกฎการอยู่อาศัยร่วมกันในคอนโด
เจ้าของห้องเองควรศึกษากฎเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ไว้ให้เข้าใจ เพื่อลดปัญหาที่จะกระทบกับเพื่อนบ้าน เช่น การใช้สายจูงเมื่ออยู่ในสนามหญ้าร่วมกับสุนัขตัวอื่น น้องจะได้ไม่วิ่งไล่ หรือทำให้เกิดความวุ่นวาย พื้นที่ส่วนกลางบางจุดไม่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าได้ เช่น ห้องสมุด, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส ฯลฯ และอย่าลืมขึ้นลงอาคารด้วยลิฟต์ที่โครงการจัดเตรียมให้ใช้แยกกับลูกบ้านท่านอื่น เพราะบางคนแพ้ขนสัตว์ครับ ถึงลูกเราจะน่าเอ็นดูแค่ไหน เขาก็เข้าใกล้ไม่ได้จริงๆ
6. พกอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดไว้เสมอ
เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรมีถุงพลาสติกสำหรับเก็บอุจจาระ, กระดาษทิชชู หรือสเปยร์ฉีดน้ำสำหรับทำความสะอาด หากน้องอั้นไม่ไหวจริงๆ จะได้ไม่เป็นภาระหรือเกิดปัญหาแก่ผู้พบเห็นต่อไปครับ
7. ต้องมีใบรับรองสุขภาพ
ใบนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีครับ ควรเป็นใบตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน และต้องมีอายุไม่เกิด 30 วัน ก่อนวันที่ลงทะเบียน
8. ลงทะเบียนประวัติกับนิติฯ
เจ้าของต้องพาไปลงทะเบียนประวัติกับนิติบุคคล และต่อทะเบียนทุกปี เพื่อให้ลูกบ้านท่านอื่นสบายใจ ว่าน้องหมาของเราแข็งแรงปลอดภัย ไร้โรคติดต่อ และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด
ระเบียบข้อบังคับต่างๆ อาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละคอนโดนะครับ อันนี้เป็นข้อมูลจาก: Major Development ซึ่งเราขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
#Livingsneakpeek #majordevelopment #คอนโดเลี้ยงสัตว์
