แอบดูคอนโด : ออกไปใช้ชีวิต แล้วกลับมาใกล้ชิดความสุขที่ โครงการ IKON UDOMSUK [ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท]

ภาพรวมโครงการ – IKON UDOMSUK โดย บจก. วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ LOW RISE สูง 8 ชั้น จำนวน 334 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ แบ่งเป็น 2 อาคาร เพื่อการอยู่อาศัยที่ส่วนตัวและสะดวกสบายมากขึ้น โดยอาคาร A จะอยู่ด้านหน้า อาคาร B อยู่ด้านหลัง มีส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำวางอยู่ระหว่างสองอาคาร อาคาร A มีห้องพักอาศัย 78 ยูนิต มี VISITOR LOBBY สำหรับรับรองแขก รวมไปถึงพื้นที่รับ-ส่งของสำหรับผู้มาติดต่อ มี CO-LIVING SPACE เพดานสูงโปร่งแบบ DOUBLE SPACE อยู่ถัดเข้ามาด้านในไว้รองรับลูกบ้านได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนอาคาร B มีทั้งหมด 256 ยูนิต จำนวนยูนิตเยอะขึ้นมาหน่อยแต่ก็จะได้พื้นที่ส่วนกลางไว้ให้ใช้งานเพิ่มขึ้นด้วยครับ

จุดเด่นของที่นี่คือมีห้องแบบ LOFT ที่อยู่บนชั้น 8 ให้เลือกอยู่สบายๆ สำหรับใครที่ต้องการ Feeling เหมือนอยู่บ้าน มีความสูงเพดานอยู่ที่ 4.20 เมตรเลยทีเดียว แต่ห้อง Type อื่นก็มีจุดเด่นด้วย Layout แบบครัวปิดทุกยูนิต คนทำครัวน่าจะชอบเพราะทำให้การใช้งานเป็นสัดส่วนมากขึ้น โครงการให้ชุดเฟอร์นิเจอร์ในห้องแบบ FULLY FITTED และที่สำคัญคือเค้ามีสิ่งที่เรียกว่า “IKON NO WORRIES” ที่จะช่วยให้การเริ่มต้นใช้ชีวิตในคอนโดสะดวกสบาย ทั้งการบริการน้ำดื่มฟรี – กดน้ำดื่มกันได้เลยแบบไม่ต้องหยอดสักเหรียญ, อินเตอร์เน็ตฟรี – เป็นอินเตอร์เน็ต Wifi ส่วนกลางที่มีสัญญาณให้ใช้งานได้ถึงในห้อง คล้ายกับเวลาเราไปโรงแรมนั่นแหละครับ ยกเว้นว่าห้องไหนอยากได้เน็ตแรงๆ ไม่แชร์กับใครไว้อัพโหลดงาน หรือเล่นเกมส์ ก็ไปติดเพิ่มเอาเองได้, ค่าโทรศัพท์ฟรี – ซึ่งเป็นการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นของทาง วี พร็อพเพอร์ตี้สามารถโทรออกได้แบบฟรีๆ 3 รายการนี้ ก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนได้หลายบาทอยู่นะครับ

ทำเลและการเดินทาง – ไอคอน อุดมสุข อยู่ในซอยอุดมสุข 29 ห่างจาก BTS อุดมสุขราว 2 กม. ครับ การเดินทางเข้ามาที่โครงการ หากใช้รถยนต์ส่วนตัวก็สามารถวิ่งเข้าได้ทั้งจากถนนสุขุมวิท 101/1 และสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) ซึ่งถนนเส้นนี้เชื่อมต่อการเดินทางจากถนนสุขุมวิทไปออกถนนศรีนครินทร์ได้ และถ้าหากใครใช้รถไฟฟ้า โครงการก็มี Shuttle Service ให้บริการครับ

ถนนเส้นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ บริเวณหน้าปากซอยช่วงที่จะออกไปสู่ถนนสุขุมวิทมีทั้งตลาดอุดมสุข Community Mall โครงการวันอุดมสุข ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ ร้านทำผม ร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร ร้านขายยา คลินิก และร้านค้ามากมาย ให้จับจ่ายใช้สอยหาของกินของใช้ได้ไม่ขาด มีร้านทองหลายร้านด้วยถือเป็นตัวชี้วัดความคึกคักของคนที่นี่ได้อย่างดีครับ

สิ่งอำนวยความสะดวก – โครงการนี้ได้จัดเตรียมพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้ลูกบ้านและแขกของลูกบ้านได้ใช้งานค่อนข้างครบถ้วน เช่น พื้นที่สวนบริเวณชั้น Ground และชั้นดาดฟ้า, ห้องประชุม, OFFICE SUPPLY หรือมุมเครื่อง Printer / ถ่ายเอกสารเตรียมไว้ให้ใช้งานได้ รวมไปถึงการปรับฟังก์ชั่นให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นห้อง LIVE & STUDIO ที่ช่วยให้การ Live ขายของออนไลน์เป็นไปได้ง่าย มีพื้นที่ใช้งานสะดวก จะเอาไว้ถ่ายภาพโปรโมตสินค้าก็ได้, มีสระว่ายน้ำ, FITNESS, CO-PASSON ROOM ไว้นั่งทำงานเปลี่ยนบรรยากาศ, มีที่จอดรถแบบ AUTO PARKING รวมถึง SHUTTLE BUS คอยเดินทางรับส่งไปยัง BTS สถานีอุดมสุขด้วยครับ

รูปแบบห้อง – มีแบบ Studio ที่กั้นครัวมาให้, 1 BEDROOM (+ walk in closet), 1 BEDROOM PLUS และห้อง Loft ขนาดเริ่มที่ 22.1 ตร.ม.- 51.79 ตร.ม. สิ่งที่โครงการให้มาก็จะมี ชุดครัวพร้อมเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน, ตู้รองเท้า, ชุดสุขภัณฑ์, ชั้นวาง TV, โต๊ะเครื่องแป้ง, ตู้เสื้อผ้า, แอร์, วอลเปเปอร์, ฐานเตียง, ประตู DIGITAL DOOR LOCK ซึ่งสามารถตามเข้าไปดูรายละเอียดกันในภาพได้ครับ

ราคา – จุดน่าสนใจมากของโครงการนี้ก็คือราคานี่แหละครับ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.49 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 65,000 บาท/ตร.ม. เมื่อดูจากดีไซน์ของโครงการ สิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดมาให้ พร้อมกับบริการฟรีน้ำดื่ม ฟรีไวไฟ และฟรีค่าโทร ก็ถือว่าคุ้มค่าและเหมาะสำหรับคนที่จะเริ่มต้นใช้ชีวิตในคอนโดมาก ซึ่งตอนนี้ก็เหลือจำนวนยูนิตไม่มากแล้ว ใครที่สนใจและไม่อยากพลาดห้องสวยวิวดี ก็แวะไปดูห้องตัวอย่างกันได้เลยครับ สำนักงานขายจะอยู่หน้าซอยอุดมสุข 30 ติดถนนใกล้กับตัวโครงการจริงหาได้ไม่ยากครับ

ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษจองเเค่ 2,021 บาท เเเถมยังได้ส่วนลดสูงสุด 100,000 บ. แอบบอกว่าตอนนี้เหลืออีกไม่กี่ห้องแล้วนะครับ

แฟนเพจ Living Sneak Peek ที่สนใจ ลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษเพิ่มเติม คลิ๊กที่นี่ได้เลยครับ >> https://bit.ly/3oYvnLH

#LivingSneakPeek #SneakReview #IKONUDOMSUK #VProperty #อุดมสุข

ห้องตัวอย่างที่นี่ทำมาสวยงามน่าอยู่เชียวครับ ถึงแม้ว่าตอนที่เราอยู่จริงจะไม่ได้ครบเครื่องเรื่องดีเทลแบบนี้ แต่เค้าก็ทำให้เห็นว่าเราสามารถจัดสรร หรือตกแต่งห้องของเราให้สวยและมีฟังก์ชั่นการใช้งานแบบนี้ได้

ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่างทั้งหมด 3 ขนาด 3 Type ด้วยกัน

ถ้าอยากรู้ว่าอยู่สบายจริงมั้ย คลิกภาพต่อไปได้เลยครับ

ผมพาทุกคนมาดูแบบ LOFT กันก่อน สำหรับห้องนี้มีขนาด 26.96 ตร.ม. รวมพื้นที่ด้านบนอีก 13.42 รวมๆ แล้วก็อยู่ที่ 40.36 ตร.ม. ครับ ระยะความสูงเพดานคือ 4.20 เมตร ทำให้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของห้อง ก็รู้สึกได้ถึงความโปร่ง โล่งสายตา เพราะกระจกด้านล่างจะได้เป็นบานใหญ่ เปิดรับแสงเข้ามาได้ทั่วทั้งห้อง รวมถึงด้านบนที่เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน ซึ่งความกว้างขวางและการใช้พื้นที่ทุกส่วนให้เกิดประโยชน์นี้ ช่วยให้ความรู้สึก Feel like home มาขึ้นด้วยนะครับ

เมื่อเข้ามาในห้องจะเป็นพื้นที่ส่วนครัว ซึ่งก็ใช้งานได้ค่อนข้างสบายๆ ชุดครัวจะได้มาแบบนี้เลยครับ ท็อปเป็นหินสังเคราะห์ ได้เตาไฟฟ้าพร้อมฮู้ดดูดควัน และอ่างล้างมือจาก TEKA

ส่วนที่ดีสำหรับชุดครัวที่นี่คือตู้เก็บของนี่แหละครับ เพราะมีช่องให้ใช้งานมากมายทั้งด้านล่างและด้านบน ยิ่งเป็นครัวปิดด้วยแล้ว แน่นอนว่าเราใช้เวลาในครัวได้นานและเต็มที่พอสมควร การมีที่ให้จัดวางหรือเก็บข้าวของเครื่องใช้เยอะหน่อย ก็จะช่วยประหยัดเนื้อที่ และหยิบใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ฝั่งตรงข้ามจะมีตู้เก็บของเท้าบิทว์อินมาให้ พร้อมช่องสำหรับวางของก่อนออกจากบ้าน เผื่อว่าต้องถือของเต็มมือไปหมด ก็วางไว้ตรงนี้ก่อนได้ หรือแขวนกุญแจ ผ้าปิดปาก ต่างๆ นาๆ ส่วนใครที่คิดว่าตู้รองเท้ายังไม่จุใจ พื้นที่ด้านข้างสามารถเพิ่มชั้นวางหรือตู้เก็บของเข้ามาได้อีก หรือถ้าเพียงพอแล้ว พื้นที่ตรงนี้ก็เหมาะที่จะจัดโต๊ะอาหารพร้อมเก้าอี้สำหรับสองที่นั่งเตรียมไว้ใช้งานได้อย่างลงตัวครับ

ห้องน้ำก็จะได้ตามนี้เลย กระจกให้มาบานใหญ่จุใจ โถสุขภัณฑ์เป็นของ KOHLER และในส่วนของอ่างล้างหน้าและฝักบัว เป็นแบรนด์ ENGLEFIELD

พื้นที่ปลายเตียงเดินได้สบาย สามารถเดินลงจากเตียงได้ทั้งสองฝั่งเลย

ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินมาให้แล้วเช่นกันครับ รวมไปถึงโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ด้านซ้ายมือด้วย เพิ่มแค่เก้าอี้สตูสักตัว นอนห้องนี้ก็ครบถ้วน อยู่สบายแล้ว

สำหรับห้อง LOFT ตอนนี้เหลืออีกแค่ไม่กี่ยูนิตแล้วนะครับ ใครชอบห้องเพดานสูง ชอบความโปร่งสบาย ห้องนี้ก็ทำมาได้น่าสนใจ ชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เราต้องใช้เป็นมาตรฐานก็ให้มาครบแบบไม่ต้องเหนื่อยไปหาซื้อแล้ว ขาดก็แค่ชิ้นลอยที่เราต้องเลือกสรรเพื่อมาเติมเต็มความสุขในทุกวันของเราเองครับ ห้องนอนด้านบนถูกแยกออกจากด้านล่างอย่างชัดเจน ทำให้ได้พื้นที่ในการพักผ่อนที่แตกต่างจากห้องแบบ 1 Bedroom ทั่วไป ทั้งมุมมอง และความรู้สึกที่โล่งสบาย ผมว่าห้องนี้ถ้าอยู่คนเดียวสบายและฟินแน่นอน แต่ถ้าอยู่สองคนก็แค่ต้องระวังเรื่องเสียงรบกวนเท่านั้นเองครับ

ห้องต่อมาขนาดเท่ากับห้องเมื่อกี้เลยคือ 26.94 ตร.ม. เป็นห้อง 1 BEDROOM ที่มี Walk-in Closet มาด้วยครับ รูปแบบ Layout ก็จะคล้ายกัน คือเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวก่อน ซึ่งที่ชอบมาเลยคือนอกจากชุดครัวทางซ้ายที่ให้มาชุดใหญ่แล้ว ด้านขวายังบิวท์อินชั่นวางรองเท้าพร้อมตู้เก็บของไว้ให้แบบเต็มพื้นที่ สามารถใช้งานได้ทั้งบนและล่างเลย ไม่ใช่ตู้หลอกอย่างแน่นอน แบบนี้การจัดสรรของใช้เราก็จะง่ายขึ้น เพราะมีที่ให้เก็บของค่อนข้างจุเลยครับ

ประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนกั้นแบ่งระหว่างห้องครัวกับห้องด้านใน

ตัวห้องมีลักษณะเป็นแบบตอนลึก ส่วนแรกที่เข้ามาจึงเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งถูกเชื่อมต่อกันกับห้องนอนเลย แบบนี้ก็จะได้พื้นที่นั่งเล่นที่เดินได้แบบคล่องตัว นอนเล่นยืดเหยียดขาได้แบบสบายๆ ครับ

แต่ด้วยพื้นที่ทั้งหมดที่เหลืออยู่ อาจจะต้องเลือกโซฟาให้มีขนาดกะทัดรัดขึ้น แล้วเพิ่มโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้เข้าไป ก็จะครบถ้วนสำหรับการใช้งานจริงๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้โต๊ะพับ เก้าอี้แบบซ่อนได้มีเยอะครับ ลองเลือกที่เราจะสามารถใช้งานได้สะดวกและไม่กินพื้นที่จนเกินไปครับ

ความพิเศษของห้องนี้คือจะได้ Walk-in Closet มาด้วยครับ ลองเข้าไปดูกันเลย

ชุดตู้เสื้อผ้ามีให้ตามนี้ครับ สามาถใส่เสื้อผ้าและมีช่องเก็บของมาให้ด้วย

บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งมีช่องเสียบ USB ไว้ให้แล้ว ใช้งานสะดวกมากขึ้นเลยครับ

พื้นที่ตรงนี้จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในการแต่งหน้า แต่งตัว และถือเป็นการแบ่งพื้นที่ใช้งานได้เป็นสัดส่วนขึ้น ทำให้ห้องดูเป็นระเบียบครับ

ห้องน้ำถูกยกมาไว้ด้านในก็จะได้ไม่ต้องอาบน้ำเสร็จแล้วเดินผ่านห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น ให้พื้นเปียกจนต้องมานั่งทำความสะอาดกันใหม่ด้วยนะครับ

ห้องนี้ก็เหมาะกับสาวๆ หรือคนที่ต้องการมุมแต่งตัวแบบสบายๆ คนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและให้ความสำคัญกับพื้นที่การแต่งตัว การจัดเก็บเสื้อผ้า หรือข้าวของเครื่องใช้ที่ต้องได้รับการดูแล หรือหยิบจับใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย มีห้องน้ำอยู่ด้านใน ให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น รวมไปถึงพื้นที่ส่วนอื่นๆ ที่ได้มาครบ จะอยู่คนเดียวก็สบาย หรือจะอยู่กับคนรู้ใจก็ยิ่งดีใหญ่เลยใช่มั้ยครับ

และห้องสุดท้ายเรียกได้ว่าเป็นห้อง Studio ขนาด 22.11 ตร.ม. แต่โครงการทำเป็นครัวปิดให้ จึงให้ความรู้สึกเหมือนได้ห้องนอนที่แบ่งเป็นสัดเป็นส่วนไว้นั่นแหละครับ

ชุดเฟอร์นิเจอร์ได้เป็นมาตรฐานเหมือนกับห้องอื่นๆ และถ้าไม่ใช่ห้อง LOFT ก็จะมีระยะความสูงเพดานอยู่ที่ 2.6 เมตรครับ

ตู้เก็บรองเท้าสูงจรดเพดาน ถือเป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าเลยครับ

ห้องนี้ถือเป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ ซึ่งถ้าต้องการพักผ่อน ก็ปิดประตูห้อง เปิดแอร์ เปิดเพลงฟังคลอๆ ไป ก็ผ่อนคลายหลับสบายได้ไม่แพ้ห้องอื่นๆ โดยถ้าอยากให้ห้องดูกว้างลองใช้กระจกมาเป็นส่วนประกอบก็จะช่วยให้ดูอยู่สบายขึ้นได้ครับ

ซึ่งการใช้งานด้านในก็ครบถ้วนนะครับ มีมุมให้วางโซฟา นั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานได้เลย ถัดเข้าไปเป็นเตียงนอน ขนาด 5 ฟุต นอนคนเดียวได้แบบสบายๆ ปลายเตียงมีที่เดินได้แบบไม่เบียดครับ เค้าติดตั้งชั้นวาง TV ไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งก็ใช้เป็นชั้นเก็บของได้เพิ่มเติมอีก

รับแสงได้จากหน้าต่างบานใหญ่ และจากประตูระเบียงที่อยู่ด้านข้าง