แอบดูคอนโด The Origin พหล สะพานใหม่ Lifestyle ทันสมัย โดนใจ Gen Z

“ถ้ามีเสื่อผืนหมอนใบก็ว่าจะเอามาปูนอนกลางถนนนี่ซะเลย” เพื่อนของเราชาวสะพานใหม่ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ ฮ่าๆ หลายคนก็อาจจะเคยรู้สึกแบบนี้นะครับ ถ้าเคยต้องใช้รถเดินทางจากสะพานใหม่เข้าไปทำงานในเมืองทั้งขาไปและขากลับ จริงๆ แล้วถนนแถวนี้เนี่ยมันสะดวกนะ กว้างด้วย เป็นถนน 3 เลน ถ้าไม่นับบรรดารถโดยสารสาธารณะที่มักจอดใช้พื้นที่หายไปเลนหนึ่งแล้วล่ะก็ น่าจะเดินทางได้โฟลวขึ้นมาก แต่สิ่งที่สะท้อน Traffic ตรงนี้ก็เหตุเพราะว่า สะพานใหม่เป็นชุมชนที่คนอยู่กันเยอะครับ

แม้ว่าแถวนี้ไม่ได้มีห้างมากมาย เท่าที่ไปสะดวกก็มี Central รามอินทรา มี Tesco Lotus หลักสี่ และ Big C สะพานใหม่ แต่เป็นพิกัดที่มีตลาดสดบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ใหญ่ที่สุดใน กทม. นั่นก็คือ ตลาดยิ่งเจริญ มีหน่วยงานราชการ ใกล้สนามบินดอนเมือง และเมื่อเข้าไปในซอย โซนนี้มีหมู่บ้านเยอะสุดๆ ข้าวของอาหารการกินก็เลยอุดมสมบูรณ์ บางซอยมี 7-11 อยู่ด้วยกันสามสี่แห่ง และที่สำคัญก็คือถนนพหลโยธินนี้วิ่งตรงดิ่งอย่างเดียวเข้าสู่อนุสาวรีย์ เฉกเช่นกับพระเอกของเรา “ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต” นี่เอง

ที่ต้องบอกว่าเป็นพระเอก เพราะคนสะพานใหม่ที่อยู่กันมานานก็หวังว่าเมื่อไหร่ถนนเส้นนี้ จะทำรถไฟฟ้าสักที และก็น่าจะได้สมใจในปีหน้า เป็นตัวเลือกการเดินทางที่กำหนดเวลาได้ วิ่งตรงไปถึงกลางใจเมืองอย่างสยามหรือเส้นสุขุมวิท แม้จะไกลด้วยระยะทาง แต่ก็สะดวกด้วยการนั่งขบวนเดิมนี่แหละครับ

รถไฟฟ้ามาหาแล้วนะเธอแบบนี้ ก็หนีไม่พ้นที่อยู่อาศัยที่ตามมาด้วย ซึ่งก็เป็นเจ้าที่อยู่มาดั้งเดิมนี่แหละ แต่พอรถไฟฟ้าจะมา ก็ได้โอกาสเจิดจ้ากลับมาแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ ปรับเปลี่ยนทุกอย่างให้โดนใจ Gen Z ตามคอนเซปต์แบรนด์ The Origin กับ “The Origin พหล – สะพานใหม่” ครับ ซึ่งใครที่ติดตามข่าวสารคอนโดมาตั้งแต่ต้นปี ก็จะพบว่าสิ่งที่ทำให้แบรนด์นี้ก็ประสบความสำเร็จกับการเปิดตัวในปีนี้มาตลอดก็คือ  Product ที่เข้าใจ Service ที่มากกว่า และ Technology ที่ใช่สำหรับการใช้ชีวิต

The Origin พหล – สะพานใหม่ ตั้งอยู่บนถนนเทพรักษ์ (เส้นที่มี Big C อยู่ปากซอยนี่แหละครับ) ถัดเข้าไปจากปากซอยราว 550 ม. เป็นคอนโดสูง 14 ชั้น รวมที่พักอาศัย 536 ยูนิต บนพื้นที่เกือบ 4 ไร่ พร้อมที่จอดรถ 49% ส่วนพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไป ส่วนชั้น 14 จะเป็นห้องแบบ Duo Space เพดานสูงครับ

1. ส่วนของ Product

ห้องที่นี่มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 23.5 ตร.ม. ไปจนถึง 49 ตร.ม. แต่เกือบทุก Type เค้าใช้ Layout ที่มีลักษณะเป็นครัวปิดครับ ก็น่าจะถูกใจสำหรับคนทำครัว และห้องที่เราเห็นทั่วไปในแบบของ 1Bed Plus ที่ขนาด 34 ตร.ม. นั้น เป็น ห้องที่สามารถทำเป็น 2Bed ได้ เพราะสามารถใส่เตียงเล็ก 3 ฟุตลงไป ขนาดเหมือนเตียงในห้องพักนอนคนเดียวที่ญี่ปุ่นแหละ ทำให้เป็นห้องที่คุ้มค่าสำหรับคนอยากได้แบบ 2 ห้องนอน

2. สิ่งอำนวยความสะดวก

Facilities ที่นี่มีให้ครบในแบบที่วัยทำงานได้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น Lobby, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, Co-working Space ที่เปิดตลอด 24 ชม., Co-Kitchen และ Sky Lounge ที่สำคัญออกแบบมาได้ Colorful มากๆ เดี๋ยวลองดูในรูปกันได้ครับ

3. Technology สำหรับการอยู่อาศัย

เรื่องเทคโนโลยีนี่เป็น A Must ในซีรีย์ The Origin เลย เริ่มตั้งแต่ระบบ Home Automation ภายในห้องที่เราสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้, Digital Door Lock 5 ระบบ พร้อมฟังก์ชั่น 1-time password ส่งให้เพื่อนมาหาเวลาเราไม่อยู่ห้องได้ หรือแม้กระทั่ง Smart Mirror กระจกอัจฉริยะในห้องน้ำที่มีให้ห้องขนาด 1Bed Plus เป็นต้นไปครับ

4. Service ที่มากกว่า

เจ้าของห้องดิ ออริจิ้น จะได้สิทธิเข้าถึงบริการพิเศษ เช่น Hotel Service on demand ในการเรียกใช้บริการแม่บ้านทำความสะอาดระดับโรงแรม, Super Maintenance Service ในการซ่อมแซมต่างๆ ในห้อง แถมแอพของออริจิ้นยังปรับให้สามารถสั่งของกินผ่าน Machine service ที่อยู่ในโครงการได้อีกด้วยครับ

ทั้งหมดนี้ก็คือ ความน่าสนใจของโครงการ ดิ ออริจิ้น พหล – สะพานใหม่ ที่เราเอามาฝากกันนะครับ แถมมาในราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาทเท่านั้น เรียกว่าราคาเบาๆ สำหรับหนุ่มสาววัยทำงาน ลดภาระการหาที่อยู่อาศัย หรือจะอัพเกรดจากการเช่าอยู่ก็คุ้มค่ามากๆ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก และสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นกว่าเดิม

แฟนเพจ Living Sneak Peek ที่สนใจ คลิกลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท ได้ที่นี่เลยครับ >> https://bit.ly/2lSOQ4Q

พิกัดโครงการคลิก https://goo.gl/maps/shgNwMDCVvJwaWez5

สอบถามเพิ่มเติมโทร 020 300 000

#จัดจ้านย่านสะพานใหม่ #TheOrigin #WORKLIFESMART

#LiveYourValue #ใช้ชีวิตอย่างที่เชื่อ #ไปให้สุดแล้วหยุดที่สะพานใหม่

The Origin พหล สะพานใหม่

แท๊แน ขอเปิดด้วยห้องขนาด 34 ตร.ม. ซึ่งเป็น function แบบ 1Bed Plus แต่โครงการจัดมาให้ดูว่าสามารถทำเป็น 2 ห้องนอนได้ยังไง ด้วยห้องหน้ากว้าง พื้นที่วางโซฟาก็จะไม่ประชิดกับทีวีจนเกินไป วางโต๊ะกลางยังเดินได้สะดวก ที่เห็นเป็นดวงดาวน้อยๆ ตรงนั้นเนี่ยมันมีทีเด็ดอยู่ที่โครงการ ที่เปิดไฟเป็นประกายดาวระยิบระยับให้นั่งถ่ายรูปตรงโซฟาสวยๆ ก็ให้เพื่อนหรือ น้องเซลล์ไปยืนลั่นชัตเตอร์ตรงจุด 3 ดวงนั่นแหละภาพจะสวยสุด ฮ่าๆ เสียดายวันที่ไปเค้าไม่ได้เปิด ไม่งั้นจะได้รูปมาลงโซเชียลกันมั่ง

ฝั่งตรงข้ามนี้เค้าทำบิวท์อินมาให้แล้ว แถมมากับห้องไล่มาตั้งแต่ชั้นวางรองเท้า ชั้นวางทีวี และตู้ทางซ้ายมือซึ่งเดี๋ยวจะเฉลยว่ามันคืออะไร

ชั้นตรงนี้เหมาะเจาะเพราะอยู่คอนโดยังไงก็ต้องมีที่วางรองเท้า ไม่ต้องไปทำเพิ่มแล้วแหละ

โซนเล็กๆ ตรงนี้ก็เป็นสิ่งละอันพันละน้อยที่เค้าคิดมาให้ ไว้วางของที่ใช้บ่อยๆ หรือแขวนกุญแจก็สะดวกช่วยให้ไม่ลืม จริงๆ ถ้าเราบิวท์อินเองก็มักจะไม่ค่อยได้สั่งทำอะไรแบบนี้เพราะลืม

ถัดเข้ามาก่อนจะถึงหน้าห้องนอน มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกินข้าวได้ ใช้โต๊ะสี่เหลี่ยมแบบนี้วางกับข้าวได้ไม่เยอะ แต่ก็ประหยัดเนื้อที่ดีแหละนะ

หันกลับมาอีกฝั่งนึง ก็จะเป็นพื้นที่ครัวที่รวมอยู่กับโซน Living นี่แหละ ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ Layout ของที่นี่ที่เป็นครัวเปิดนะ ส่วนเจ้าตู้สี่เหลี่ยมนี่มันแปลงร่างได้ด้วย

ผ่ามๆ ยกขึ้นมาเอาไว้ดักคนไม่ให้เข้าห้องน้ำกลางคืน ไม่ช่าย! อันนี้คือเติมพื้นที่เตรียมอาหารให้กว้างขึ้นไปได้อีก หรือจะเอาไว้วางสูตรเมนูไว้ดูก่อนลงมือทำก็ได้ แต่ก็อย่าวางหนักไปละกัน

เข้าไปดูครัวด้านในกันหน่อย

ครัวตรงนี้เค้าบิวท์มาให้ครับ มีขนาดกะทัดรัด แต่ฟังก์ชั่นมาครบนะ ทั้งซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า ฮู้ดดูดควัน เจาะช่องสำหรับวางไมโครเวฟไว้และ เรื่องเนื้อที่ไม่ต้องห่วงเพราะเรามีตู้ฝั่งตรงข้ามไว้วางของเตรียมทำอาหารได้และสบายหายห่วง

เจ้าตู้ที่ว่านี่ก็มาเฉลยตรงนี้แหละว่าคือที่วางเครื่องซักผ้านี่เอง ฮ่าๆ จะว่าไปด้วยตำแหน่งการวางตรงนี้วางอยู่เฉยๆ มันคงจะแหม่งๆ หน่อย แต่พอเค้าบิวท์อินซ่อนมาแบบนี้เลยได้ใช้งานเพิ่มขึ้น และทำให้ห้องเป็นสัดเป็นส่วนด้วย

ถัดเข้าไปด้านในก็จะเป็นห้องน้ำ ลักษณะการตกแต่ง โทนสีที่ใช้ก็จะเหมือนห้องตัวอย่างครับ รวมกระจกกั้นอาบน้ำมาด้วย

ส่วนห้องที่เป็น Type 1Bed Plus ขึ้นไปก็จะได้ Smart Mirror แถมมาด้วย นั่งฟังเพลงสบายไม่ต้องพกโทรศัพท์ หรือเอาโทรศัพท์เข้ามาก็มีช่อง usb กันน้ำให้ใช้ตรงนี้ควบคู่กับปลั๊กมาตรฐานอีก เข้าคอนเซปต์ Gen Z ไหมล่ะ

ห้องนอนอลังการกว้างขวางอย่าบอกใคร ฝากหน้าต่างนั้นเปิดได้ 1 บานกระทุ้งนะ ตู้เสื้อผ้าก็วางอยู่ในแนวตั้งฉากกับเตียง ทำให้มีพื้นที่หน้าตู้ว่างๆ เหลือเฟือ โดยรอบเตียงก็มีพื้นที่เดินสะดวกดีครับ

อ้อตู้เสื้อผ้ากับฐานเตียงนี่เค้าทำมาให้ด้วยครับ จัดfunctionด้านในให้แขวนชุดเดรสยาวๆ ได้ด้วย

ไปที่อีกพื้นที่อเนกประสงค์อีกห้องที่เค้าจัดเป็นห้องนอนที่ 2 ครับ

ห้องนี้ประยุกต์เอาหน่อย ด้วยพื้นที่จำกัด ก็วางเตียงขนาด 3 ฟุตลงไป แล้วใช้ราวแขวนเสื้อเอา ใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวแล้วคงคุ้นเคยกับเตียงขนาดนี้

ถัดกันไปที่ห้องตัวอย่างอีกห้องหนึ่งเป็นแบบ 1Bed ขนาด 26 ตร.ม. ครับ เข้ามาก็จะพบกับส่วน Living เช่นเคย ถ้าอยากให้เดินสบายๆ เอาโต๊ะกลางวางตำแหน่งด้านข้างแทนนะ

ฝั่งนี้ก็ได้ตู้บิวท์อินทั้งแผงเช่นเดียวกันกับห้องที่แล้วนะครับ

วางโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้ สำหรับห้องนี้ก็คงจำกัดไซส์ได้แค่นี้แหละ สะดวกสุดแล้ว วางตำแหน่งอยู่หน้าห้องครัวพอดิบพอดี สะดวกในการใช้สอย

ห้องครัวสำหรับ Type นี้เป็นครัวปิด เหมาะสำหรับการทำครัวไทยครับ พื้นที่ครัวค่อนข้างกว้างกว่าห้องที่แล้ว ด้วย Layout มันเอื้อให้ทำครัวแนวยาวได้มากกว่านะ ตำแหน่งตู้แขวนก็ได้มากขึ้น ไมโครเวฟก็ขยับขึ้นไปอยู่ด้านบน เพราะว่าเค้าวางเครื่องซักผ้าไว้ในห้องนี้ครับ

ข้อดี ที่แตกต่างกันกับห้องที่แล้วคือ เป็นครัวที่ทำได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น เพราะปูพื้นกระเบื้อง และเปิดระบายอากาศได้สะดวกเพราะอยู่ติดระเบียง

ขนาดระเบียงก็ย่อมเยาหน่อย เพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการวางเครื่องซักผ้าตรงส่วนนี้

กลับออกมาข้างนอกกันอีกสักรอบ

ตำแหน่งห้องน้ำก็จะอยู่หลังทีวีเหมือนกันครับ เราก็จะมีพื้นที่ระหว่างห้องนอนทางซ้ายและห้องน้ำทางขวาให้จัดทำเป็นโต๊ะ หรือตู้เก็บของก็ได้ นี่โครงการลองทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งมา ไว้ใช้งานระหว่างเข้าและออกจากห้องน้ำ

จริงๆ เอามาทำเป็นโต๊ะทำงานก็ดีเหมือนกันนะพื้นที่ตรงนี้กว้างกำลังดี

สุดท้ายก็คือห้องนอนครับ

มาพร้อมฐานเตียงและตู้เสื้อผ้าเช่นเคย ฐานเตียงมีลิ้นชักซ่อนเก็บของได้ด้วย ก็ถือว่าได้ประโยชน์ใช้สอยสำหรับคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดเพิ่มขึ้นครับ

ก่อนจะจากกันเราเอาภาพ Perspective โครงการมาให้ชมสักหน่อย เริ่มจากล็อบบี้ที่ตกแต่งด้วยสีสันโทนพาสเทลสดใส

โซน Active Gym Fitness ที่ออกแบบมาให้ดูแอคทีฟ ได้อารมณ์ฟิตเนสไฮเทคที่ช่วยสร้างบรรยากาศกระตุ้นการเสียเหงื่อได้ดี

บริเวณ Top Floor เป็นที่ตั้งของ Sky Lounge และ ส่วน Co-Kitchen ด้านใน ให้รับประทานอาหารกันแบบส่วนตัว

ส่วนด้านนอกก็มีพื้นที่สวน และส่วน Pavilion ให้นั่งพักผ่อนชิลล์ๆ แบบ Outdoor กันได้ด้วยครับ

จากตรงนี้ก็จะเห็นว่าชั้นบนสุดจะมีเพดานสูงโปร่ง ห้องพักอาศัยชั้นนี้ก็จะได้ห้องแบบเพดานสูงไปด้วย เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบคอนโดอารมณ์บ้าน แต่มีแค่ชั้นเดียวนะ

และทั้งหมดนี้ก็คือ The Origin พหล สะพานใหม่ ที่แอบดูคอนโดพาชมกันในวันนี้นะครับ จะเห็นว่าเปลี่ยนไปจากโครงการเดิมเยอะเลยทีเดียว ทั้งรูปแบบการดีไซน์อาคาร พื้นที่ส่วนกลาง และการปรับเอาเทคโนโลยีในปัจจุบันเข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยในคอนโด เมื่อรวมกับบริการพิเศษเฉพาะสำหรับลูกค้าดิออริจิ้น ในราคาเริ่มเพียง 1.49 ล้านบาท ก็ทำให้โครงการนี้ เป็นโครงการที่น่าสนใจสำหรับชาวสะพานใหม่จริงๆ ครับ