แอบดูคอนโด Aspire Erawan Prime ยกระดับความปลอดภัย ใช้ชีวิต Smart & Easy ติดสถานีช้างเอราวัณ เริ่ม 1.85 ล้าน​

วันนี้เราพาทุกคนมาแอบดูคอนโดใหม่ล่าสุดในโซนสุขุมวิทตอนปลาย (ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว) ก่อนพร้อมเข้าอยู่ภายในเดือนก.พ. นี้ครับ ที่นี่คือโครงการ Aspire Erawan Prime เป็นแอสปายที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม และยังได้คิดถึงวิถีชีวิตแนวใหม่ที่ต้องทั้งปลอดภัย ทั้งเป็นส่วนตัวครับ​

Living Highlight​

  • คอนโดอยู่ติดรถไฟฟ้าสถานีช้างเอราวัณแบบ 0 ม. เป็นรถไฟฟ้าเส้นหลักสายสีเขียว ต่อเดียวถึงสยาม แม้ว่าจะเดินทางหลายสถานี แต่โครงการติดรถไฟฟ้าแบบนี้ที่อยู่ในเมือง ไม่สามารถซื้อได้ด้วยงบประมาณเดียวกัน​
  • ​ มี Facilities ให้ใช้งานหลากหลายกว่า 30 จุด รวม 3 ไร่กว่า พื้นที่ทำงานแนวคิดใหม่ “Co-working Café” ให้ได้นั่งทำงานในบรรยากาศที่มีผู้คน แต่ไม่อึดอัดเพราะออกแบบมาให้มีพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวด้วย (Privacy in Public)​
  • ​ ยกระดับ Hygiene standard เพื่อใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าจะระบบประตูอัตโนมัติ, ติดตั้ง Glass Partition กั้นระหว่างเครื่องออกกำลังกาย, ใช้ฟิล์มป้องกันไวรัสและแบคทีเรียในพื้นที่ที่จำเป็นต้องสัมผัส​
  • ​ ใช้ Smart Application แบบครบวงจรทั้งผู้มาติดต่อและลูกบ้าน, ระบบ Plate Recognition สำหรับรถยนต์, จองพื้นที่ส่วนกลางแบบ On-Demand แบบไม่ต้องเดินมาเก้อ เช่น Co-working แบบเดี่ยว/ Meeting Room/ Mini Theater​
  • ทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวก​

ทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวก​

นอกจากรถไฟฟ้าหน้าโครงการที่เป็นความสะดวกอันดับ 1 แล้ว คนใช้รถเลือกใช้ได้ทั้งทางด่วนบางนา และถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) โดยมีช้างเอราวัณ 3 เศียรเด่นเป็นสง่าเวลาขับผ่านทางสุขุมวิท สิ่งอำนวยความสะดวกย่านนี้ก็จะอิงกับ สำโรง และศรีนครินทร์ ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซีสำโรง 2, โลตัสศรีนครินทร์, JAS Urban แต่โครงการก็มี 7-11 คอยบริการแล้วครับ โดยที่นี่มีวิวเฉพาะอย่างหอชมเมืองสมุทรปราการ และวิวบางกระเจ้าด้วย ในระยะที่กว้างขึ้นหน่อยฝั่งสุขุมวิทตอนปลาย นี่มีโรงเรียนเยอะเลย โดยเฉพาะบรรดา รร.นานาชาติ มีแหล่งงานขนาดใหญ่ที่บางนา และธุรกิจด้านพลังงานที่อยู่บน ถ.รถไฟสายเก่าปากน้ำ โดยมี รพ.ใกล้ที่สุดก็คือ รพ.เปาโล สมุทรปราการครับ​

ภาพรวมโครงการ​

Aspire Erawan Prime เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น รวม 1,275 ยูนิต บนพื้นที่เกือบ 6 ไร่ครึ่งครับ ด้วยความเป็นโครงการขนาดใหญ่ก็เลยมีพื้นที่จัดสรร Facilities ให้มาเยอะมาก กระจายไป 3 ชั้น กว่า 30 จุด แม้จะมีเพื่อนบ้านอยู่เยอะ แต่ข้อดีที่ช่วยตอนอยู่จริงก็คือ มีคนช่วยหารค่าส่วนกลางเยอะด้วย ที่นี่จ่ายแค่ 39 บาท/ตร.ม. ครับ และมีที่จอดรถให้ใช้ราว 40% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน​

พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการมีตั้งแต่​

  • ชั้น G : โซน Outdoor มีพื้นที่สีเขียวกระจายโดยรอบ เป็นทั้งที่นั่งพักผ่อน ลานอเนกประสงค์ Jogging Track และ Multi-Sport court ส่วนโซน Indoor ก็ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานพรึ่บพรั่บ ​ ไม่ว่าจะ Welcome Foyer แยกโซนกับ Grand Lobby ข้างในเพื่อความเป็นส่วนตัว, Meeting Room 2 ห้อง, Co-working Café ซึ่งมีโซนโต๊ะเดี่ยวให้ด้วย สะดวกและเหมาะกับคนที่ชอบทำงานในพื้นที่ส่วนกลางแต่อยากเป็นส่วนตัว แถมท้ายด้วยโซน Semi-Outdoor ให้ได้นั่งรับลมธรรมชาติ ​
  • ชั้น 7 เป็นพื้นที่สระว่ายน้ำหลักของโครงการ ที่ออกแบบมาให้มีประโยชน์ใช้สอยรอบสระเยอะมาก มีที่นั่งเล่น พักผ่อนแซมด้วยต้นไม้ตลอดแนว (บางห้องที่ชั้นนี้มี Garden Access ด้วย) นอกจากนี้ก็ยังมีฟิตเนส ที่มี Partition กั้น รองรับวิถีชีวิตยุคใหม่, Steam, Lounge ที่แบ่งพื้นที่ย่อยๆ เป็นห้อง Battle Room, Board Game, Mini Theater ​
  • ​Rooftop พื้นที่บนสุดของอาคารเค้ายังออกแบบให้ขึ้นมาใช้งานได้อีก 2 จุด ไม่ว่าจะนั่งพักผ่อนใต้ Sky Tree (ที่น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิงคโปร์ ) หรือจะมาวิ่งจ๊อกกิ้งข้างบนนี้ช่วงลมพัดโชยก็มีให้ครับ​

รูปแบบห้องและราคา​

ตอนนี้โครงการเตรียมจัดงาน Pool Event พร้อมเปิดให้ชมพื้นที่ส่วนกลาง และห้องตัวอย่างบนตึกจริง มาพร้อมห้องราคาพิเศษ 1 Bed 1.85 ล้าน และ 1 Bed Plus 2.29 ล้าน พร้อมฟรี เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน และวอลล์เปเปอร์ ครบชุดทุกยูนิตอีกด้วย ใครที่สนใจก็ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนเข้าชมโครงการ ลดเพิ่มสูงสุด 50,000 บาท* ได้ที่นี่ครับ >> https://bit.ly/3szsX9m ​ ​

ถ้าเรียบร้อยแล้วไปชมรูปที่เราเอามาฝากกันวันนี้ได้เลย​

#LivingSneakPeek #SneakReview #รีวิวคอนโด#AspireErawanPrime #APThai #คอนโดแอสปายเอราวัณไพร์ม

ผมขอเปิดภาพแรกด้วยจุดเช็คอินลง Social ของลูกบ้านที่นี่กันที่ชั้น Rooftop ครับ ตรงนี้ถ่ายรูปสวยๆ ได้เยอะมาก แบบที่ลงเพื่อนๆ จะต้องถามว่านี่ที่ไหนอะเธอ

เราก็จะตอบเพื่อนว่าขึ้นรถไฟฟ้ามาลงสถานีช้างเอราวัณ ชั้นอยู่ที่นี่ ตึกนี้ที่มีเส้นสาย Modern

โดยวันนี้เราจะมีห้องให้ชมจุใจถึง 4 รูปแบบทั้ง 1 Bed 27 ตร.ม. / 1 Bed 32 ตร.ม. / 1 Bed Plus 35 ตร.ม. / 2 Bedroom 46 ตร.ม. ที่สวยทุกห้อง ใครอยากดูห้องไหนคลิกไปชมได้เลย

โดยจุดขายของ Aspire Erawan Prime คือพื้นที่ส่วนกลางครับ ที่สวยและได้รับการออกแบบให้เข้ากับ Lifestyle ใหม่ๆ ในปัจจุบัน คอนโดใหม่ก็ดีอย่างนี้แหละ

เค้าว่าชีวิตที่ดีเริ่มที่ก้าวแรก คอนโดแรกของเรา ถ้าเป็นโครงการที่มีราคาไม่หนักจนเป็นภาระ แต่มีพื้นที่ให้ใช้งานและเดินทางสะดวกก็คงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อย่างที่นี่ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไป..สถานีช้างเอราวัณ อยู่หน้าโครงการเลย

เส้นสายที่เราเห็นหน้าอาคารมันเชื่อมต่อร้อยเรียงมายังถนนด้านหน้าเลยครับ วันนี้ผมมาเก็บภาพพื้นที่ส่วนกลางบางส่วนล่วงหน้าก่อนเค้าจะเปิดเต็มรูปแบบ เดี๋ยวเราเข้าไปดูข้างในกัน

เรามีล๊อบบี้สวยๆ เพดานสูง ให้ใช้งาน เรียกว่าเทียบกันใครเคยดูคอนโดยุคเก่า คอนโดเดี๋ยวนี้ทำสวยเกินราคาไปแล้ว

แล้วมีให้ใช้งานหลายจุดซึ่งกั้นแยกกันไว้เป็นส่วนใครส่วนมัน ช่วยเพิ่มระยะห่างที่ปลอดภัย และน่าใช้งานมากกว่าเดิม

Mail Room

สิ่งที่อัพเกรดและเห็นได้ชัดคือการประยุกต์เอา Technology มาใช้ด้วย ซึ่งลูกบ้านไม่ต้องมานั่งเสียเวลาติดต่อผ่านนิติ หรือเดินมาดู คลิกในระบบ เช็คได้จากหน้าจอ สะดวกสบายกว่าเดิม

ชั้นล่างมี Meeting Room ให้ใช้ 2 ห้องครับ พร้อมวิวสวนด้านนอก

มาพร้อมจอทุกห้องเลย ห้องก็มีขนาดใหญ่ไม่อึดอัด

ดีไซน์ใหม่สำหรับพื้นที่นั่งทำงานในคอนเซปต์ “Co-working Café” มีมุมหลากหลายนะ แต่งออกมาได้น่ารักตามวิถีคนชอบไปอยู่คาเฟ่ แต่เดี๋ยวนี้จะไปนั่งข้างนอกก็ไม่สบายใจเหมือนเดิม อยู่ในคอนโดปลอดภัยสบายใจกว่า

ผมชอบโซนนี้ครับ นั่ง Indoor แต่ได้อารมณ์นั่งทำงานใต้ต้นไม้เลย ดูช่วยให้จินตนาการแล่นดี โซนนี้นั่งเป็นกลุ่มได้หลายตำแหน่ง มีจัดเป็นส่วนตัวให้แต่ละกลุ่มด้วย

โซนนี้ใครอยากนั่งของเราเองไม่สุงสิงกับใครเค้าก็มีที่จัดให้หมด กั้น Partition ไว้ทุกตำแหน่งเหมือนอยู่ในห้องสมุด แต่ว่าสวยกว่า

บนโต๊ะมีอุปกรณ์ที่ต้องการครบครัน ชาร์จโน๊ตบุ๊คไปด้วย ชาร์จมือถือไปด้วยก็ได้ เหลือเฟือ แล้วก็จองได้ตามที่นั่งแต่ละโต๊ะเลย

ด้านหลังยังมีโซน Semi-outdoor ช่วงลมพัดโชย นั่งเมาท์ได้เพลินๆ

ขอพาทุกคนขึ้นมายังชั้น 7 โซน Facilities หลักอีกชั้นนึงเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำสวยๆ ที่ตกแต่งพื้นที่รอบสระไว้ให้ใช้งานเยอะมาก

จะนั่งหรือจะนอนโอ้ละเห่ไกวเปลก็ระวังตกน้ำก็พอ

ฝั่งนี้ก็มีที่นั่ง Sun Bed ริมสระ (ห้องทางนี้เป็น Garden Access ด้วย)

ฝั่งโน้นก็มีที่นั่งแบบไล่ระดับเหมือนอยู่บนเขา

ข้างๆ เราก็มี Stepping Stone ให้เดิน

เพลินๆ ก็เดินเข้าฟิตเนส และดูสิครับ เค้าทำ Glass Partition กั้นไว้หมด ไม่ลดทอนความสวยงาม แถมยังได้ความสบายใจ วิ่งไป ชมสระไป เหงื่อไม่กระเด็นใส่กัน

ยังไม่หมดในชั้นนี้นะ ยังมีห้องไว้ฝึกสายตา และกำลังแขนอีกด้วย

และนี่เป็นห้อง Mini Theater ที่ละมุนตะมุตะมิที่สุดเท่าที่เคยเห็นในคอนโด เครื่องฉายอยู่บนนั้น ส่วนจอภาพก็เก็บซ่อนอยู่เพดานฝั่งกระจกเนี่ยแหละครับ

ถ้าช่วงไม่ได้ดูหนังก็เปิดชมสวนสวยๆ ทางนี้เลย

ส่วนกลางสุดท้ายที่เราจะพาชมก็คือ Rooftop ที่เห็นจากภาพหน้าปกนั่นเอง เป็นจุดชมวิวที่โล่ง และถ่ายรูปลงโซเชียลได้แจ่ม

อารมณ์เหมือน Singapore Sky Tree ย่อส่วน 😃 จบจากตรงนี้ขอหลบแดดพาเข้าห้องกันหน่อยครับ

ห้องแรก 1 Bedroom 27 ตร.ม. ครับ

เปิดประตูจากหน้าห้องไปก็คือมุมนี้ เป็นห้อง 1 ห้องนอนที่มีความเป็นส่วนตัว เพราะห้องนอนเป็นผนังทึบเลย

โซนแรกที่เราเข้าห้องมาจะเป็น Living Area ที่เป็น Open Plan ครับ ครัวอยู่ตำแหน่งแรก มีเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง Hob, Hood ติดตั้งมาให้แล้ว ไว้ทำอะไรเบาๆ ตำแหน่งของเครื่องซักผ้าก็อยู่ตรงนี้นะ ต่อเนื่องกันไปกับส่วนนั่งดูทีวี

ถัดเป็นเค้าลองจัดวางโซฟาดูสิว่ามันจะยาวได้สักขนาดไหน ก็วางสะใจเลยได้ 3-4 ที่นั่งแบบนี้อยู่ข้างระเบียงที่รับแสงธรรมชาติเข้ามา สังเกตว่าเค้าจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวไม่ต้องใช้ชิ้นเยอะ แต่เน้นปรับเปลี่ยนได้หลายฟังก์ชั่นเหมาะกับขนาดห้อง อย่าง สตูลนี้ที่ไม่ใช่จังหวัดแต่เป็นเก้าอี้ที่ใช้นั่งกินข้าวก็ได้ วางขาก็ได้ ตำแหน่งแอร์อยู่ตรงข้ามโซฟาพอดี สบายตัว

แอบเข้าไปดูในห้องนอนกันต่อครับ

กระจกนี้ได้บานค่อนข้างกว้างเลยนะเกือบเต็มผนัง เปิดบานกระทุ้งเล็กๆ ทางขวาได้ไว้ระบายอากาศ พื้นที่โล่งๆ แบบนี้ใส่เตียงได้ใหญ่จุใจเลยครับ ข้างๆ เตียงยังวางโต๊ะแป้งได้อีกหนึ่งก่อนจะเป็นตู้เสื้อผ้า ถ้าเล่นมุกสตูลตรงนี้อีกรอบน่าจะไม่ฮาแล้ว

ตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าพอดิบพอดีอยู่หน้าห้องน้ำ ติดตั้งได้ขนาด 2 หน้าบาน สะดวกสำหรับ flow ที่อาบน้ำ แต่งตัว ออกไปทำงาน เพราะห้องน้ำเข้าได้จากในห้องนอน

ในห้องน้ำแต่งตามนี้ครับ ขาดแค่เพียงฉากกั้นนะ เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ใช้สุขภัณฑ์จากทั้ง Cotto และ Kohler ดูมินิมอล และก็ซ่อนฟังก์ชั่นใช้งานเล็กๆ น้อยๆ ไว้ให้ แต่กระจกห้องน้ำบานใหญ่ดีนะ เต็มตา ห้องก็ดีกว้าง

ที่ระเบียงเค้าแขวนคอมเพรสเซอร์ไว้ข้างบนแล้ว มีพื้นที่ใช้สอยข้างล่างโปร่งๆ มีก๊อกน้อยไว้ล้างทำความสะอาดใดๆ ติดตั้งไว้ให้

จบห้องนี้แล้ว เราไปต่อห้องถัดไปกันเลยครับ

กับห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. ที่เปรียบเสมือน 2 ห้องนอนในราคา ห้องนอนเดียว

ตำแหน่งจัดวางหน้าห้องเช่นเคยนะเจอกับครัวและส่วนนั่งเล่นก่อน 2 ห้องแรกนี้ก็คงจะเหมาะกับคนไม่เน้นครัว แต่เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องมากกว่า

จุดที่คล้ายๆ กันคือระยะที่สามารถวางโซฟากว้างๆ ได้ แต่ถ้าชีวิตจริงไม่ได้ใช้เยอะขนาดนี้ก็ลดโซฟาแล้วเพิ่มตู้เก็บของสักใบน่าจะเวิร์คเหมือนกัน

ถัดไปข้างในที่มีกระจกใสบางๆ ที่กั้นตรงกลางเท่านั้น~ คือ ห้องอเนกประสงค์นั่นเองครับ แต่เค้าแต่งเป็นห้องนอนมาให้ดูแล้วว่ามันวางได้จริงๆ นะ กั้นด้วยบานเลื่อนไว้เพื่อให้แสงธรรมชาติด้านนอกเข้ามาสู่ส่วน Living ได้ด้วย

นี่ที่เห็นหมอนสองใบกับใจเหงาๆ เค้าวางบนเตียงขนาด 3 ฟุตนะครับ (ห้องนี้ได้ 2 เพลงแล้ว ถ้าใครทันทั้งสองเพลงน่าจะรู้อายุผมแน่ๆ ฮ่าๆ) ถ้าปรับเป็น Daybed คู่กับมุมทำงาน หรือเปลี่ยนเป็น Studio ถ่ายภาพ Live Streaming ก็ได้ทั้งนั้นเพราะห้องนี้คือห้องต้องประสงค์ของเรา ห้องนี้มีความพิเศษสังเกตทางขวาให้ดีๆ

เราสามารถออกไปสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นที่ส่วนระเบียงได้ครับ เป็นระเบียงที่เข้าออกได้ทั้ง 2 ทาง ถ้าหากถึงเวลาต้องเซอร์วิสแอร์ ก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนหลัก ถือว่ามีประโยชน์

อีกฝั่งของทีวีคือห้องนอนของเราครับ

ห้องนี้สลับกับห้องแรกคือตำแหน่งห้องนอนอยู่ติดกับบานเลื่อนระเบียงเลย ได้ช่องแสงที่มากขึ้น ตำแหน่งแอร์ก็เหมาะเจาะนะ นอนสบายครับ

จัดวางเรียงตำแหน่งใช้สอยในห้องนอนเช่นเดิม

เพิ่มเติมคือห้องน้ำเข้าได้ทั้ง 2 ทางครับ ทั้งจากในห้องนอนและห้องนั่งเล่น ยืดหยุ่นกว่าเดิม หากจะมีแขกมาที่ห้องก็เข้าจากประตูข้างนอก ไม่ต้องมาเห็นชุดนอนไม่ได้นอนของเราในห้องนี้

ห้องน้ำขนาดเดียวกันครับ

ตำแหน่งทางเข้าจากห้องนั่งเล่นก็คือหน้าตู้เย็นนั่นเองครับ

จบแล้วสำหรับ 2 ห้องหลักที่เราเก็บภาพมาทุกซอกมุม เดี๋ยวจะมี Bonus Track เป็นของแถมให้ชมอีก 2 ห้องด้วยครับ

นั่นก็คือห้องแบบ 1 Bedroom 32 ตร.ม. ห้องนี้วิวสวยมากตามไปชมด้านใน

ด้วยความที่เป็นห้องหน้ากว้าง เค้าจัด Layout อีกแบบมาให้ที่เป็น กั้นห้องนอนด้วยกระจกบานเลื่อนใสครับ

ฝั่งหลังทีวีจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ และมีพื้นที่หน้าครัวเพิ่มอีกเยอะเลย ก็เลยสามารถจัดวางครัวไว้ในตำแหน่งที่ซ่อนเข้าไปได้แบบนี้ครับ

ตู้เย็นก็จะอยู่ไกลประตูออกมาหน่อยนะ กลับมาห้องหยิบของกินเลยแบบห้องก่อนหน้านี้ไม่ได้แล้ว

ห้องนอนโปร่งมากเพราะมีช่องแสง 2 ช่องเต็มๆ ทั้งกระจกและบานเลื่อนระเบียง

เป็นห้องที่หันเข้าสู่ Facilities ก็จะสวยแบบนี้แหละครับ

ห้องสุดท้ายคือ 2 Bedroom 46 ตร.ม. ครับ เป็นห้องที่หน้ากว้างที่สุดของโครงการถึง 8 เมตร เมื่อกว้างขนาดนี้อะไรก็จัดสรรได้ง่าย เริ่มต้นด้วยโต๊ะกินข้าว Full Function ขนาด 4 ที่นั่ง ด้านในเป็นมุมนั่งดูทีวี แล้วก็ห้องนอนที่ 2 ครับ

มุมนั่งดูทีวี ติดกับกระจกบานใหญ่เช่นเคย โทนสีของห้องนี้ผมชอบนะ เขียวเหนี่ยวทรัพย์

ห้องนอนนี้แต่งมาสำหรับเด็กน้อย แต่ก็ถือว่าใหญ่อยู่มาก เหมาะกับเลี้ยงดูได้ถึงวัยประถม – มัธยมกันเลย

อีกฝั่งนึงก็จะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ ที่เข้าได้แบบ Double Access เช่นกันครับ คั่นไว้ด้วยครัวก่อนถึงห้องนอน ห้องนี้เป็นเลย์เอาท์แบบครัวปิดครับ

ทุกอย่างก็ครบจบในตัว พื้นก็ทำมาเฉพาะสำหรับพื้นที่ซักล้างและมีแววว่าจะโดนน้ำได้ง่าย ได้เป็นกระเบื้องมาเลย เปิดระบายอากาศได้สะดวกด้วยครับ

ด้านในคือ ห้องนอน Master ที่จัดตกแต่งมาได้ Minimal น่ารักมากครับ

ห้องเวลาเราซื้อมันก็แบบนึง แต่สิ่งที่จะทำให้ห้องเต็มศักยภาพได้ก็มาจากงานตกแต่งและบิวท์อินเหมือนกันนะครับ ถ้าอยากได้อารมณ์เหมือนห้องตัวอย่างก็ต้องลงทุน เรามาดูตัวอย่างที่เค้าทำไปใช้ได้เลยครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือ “Aspire Erawan Prime” ที่ Living Sneak Peek พามา Sneak ให้ชมกันครับ ถือว่าเป็นแอสปาย โฉมใหม่ที่ดูสวยงาม มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย ประยุกต์เอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย และยกระดับความปลอดภัยให้กับสุขภาพของเราที่ยังต้องสู้ต่อไปกับสถานการณ์ในปัจจุบันด้วย ใครที่สนใจสามารถเข้าชมโครงการได้ทุกวันนะครับ ถ้าหากคุณมองหาโครงการติดรถไฟฟ้าสายหลัก ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้าน หรือมีงบ 2 ล้านเศษ แต่อยากได้ห้องใหญ่แบบ 1 ห้องนอน พลัส ลองมาดูที่นี่กันครับ
คลิกรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่ >> https://bit.ly/3szsX9m