“เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ” (THE MONUMENT THONG LO)
นิยามใหม่แห่งการอยู่อาศัยเหนือระดับด้วยพื้นที่กว้างขวาง
โอ่โถงเสมือนบ้านเดี่ยว ดึง 2 แบรนด์ลักซ์ชัวรี่ดีไซน์ชั้นนำ
“Chanintr Living” (ชนินทร์ ลิฟวิ่ง)
และ “Jim Thompson” (จิม ทอมป์สัน) รังสรรค์ห้องตัวอย่าง
เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ (THE MONUMENT THONG LO) คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ ติดถนนทองหล่อล่าสุดของแสนสิริ บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ โดยมุ่งหมายให้เป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งที่สำคัญของย่านนี้ ตัวตึกได้รับการออกแบบอย่างหรูหราและมีเอกลักษณ์ในสถาปัตยกรรมรูปทรง “โมโนลิธ” (Monolith) คือ รูปทรงอาคารเป็นแท่งสมมาตรขึ้นมาจากพื้นดินไปจนถึงยอดตึกเช่นเดียวกับอาคารสูงระฟ้าระดับไอคอนิกในมหานครใหญ่ทั่วโลก เช่น โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน นิวยอร์ค อาคารซีแกรม และตึก 432 พาร์ค อเวนิว ที่กรุงนิวยอร์ค หรืออัล ชาร์ค ทาววอร์ ที่ดูไบ ด้วยความสูงถึง 45 ชั้น สูงที่สุดในย่านทองหล่อ ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ด้วยวิวเมืองแบบพาโนรา รูปทรงสูงตระหง่านที่มั่นคงของตัวตึกแอบซ่อนพื้นที่อยู่อาศัยกว้างขวางโอ่อ่า สะดวกสบาย เป็นส่วนตัวกับจำนวนยูนิตทั้งหมดเพียง 127 ยูนิต โดยแต่ละชั้นมีไม่เกิน 4 ยูนิต และออกแบบให้ทุกองค์ประกอบบนพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางให้มีความใกล้เคียงกับบ้านที่สุด รายล้อมด้วยสวนสีเขียวขนาดใหญ่ เปรียบเสมือนโอเอซิสใจกลางเมืองที่ด้านหน้าโครงการที่สะท้อนกลิ่นอายความคลาสสิกของย่านที่เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ชูจุดเด่นดีไซน์สระว่ายน้ำระดับไอคอนิคสูงถึง 10 เมตร ที่สวยงามประดุจงานประติมากรรมชั้นยอด และบริการบัตเลอร์เหนือระดับ พร้อมดึง 2 แบรนด์ลักซ์ชัวรี่ดีไซน์ชั้นนำด้านการตกแต่ง “Chanintr Living” (ชนินทร์ ลีฟวิ่ง) และ “Jim Thompson” (จิม ทอมป์สัน) รังสรรค์โชว์รูมห้องแต่ง
เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมห้องตัวอย่างที่ตกแต่งอย่างละเมียดละไมใน 2 สไตล์ ห้องแรกตกแต่งด้วยคอนเซ็ปท์ ‘The Southern Belle’ โดยชนินทร์ ลีฟวิ่ง โดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ Hickory Chair (ฮิกกอรี่ แชร์) แบรนด์คราฟท์เฟอร์นิเจอร์ลักซ์ชัวรี่สัญชาติอเมริกาซึ่งออกแบบโดยอินทีเรียดีไซน์เนอร์ระดับโลก ‘ซูซาน แคสเลอร์’ (Suzanne Kasler) ที่มีผลงานโดดเด่นด้วยสไตล์คลาสสิค เหนือกาลเวลา ซึ่งเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นผลิตขึ้นเป็นพิเศษสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ อาทิ เก้าอี้สตูลไม้สีแดง ทำผิวสัมผัสให้คล้ายหนังปลากระเบน และโต๊ะรับประทานอาหารดีไซน์พิเศษ นอกจากนี้ ยังใช้เครื่องประดับตกแต่งห้องมาเป็นองค์ประกอบอย่างสับปะรด ซึ่งถือเป็นผลไม้หายากและเป็นสัญลักษณ์แทนความหรูหราบ่งบอกฐานะทางสังคมของชาวยุโรปในอดีต ทั้งยัง
สื่อถึงไมตรีจิตในการต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น มาใช้ประดับตกแต่งในหลายๆ มุมของห้อง ตลอดจนเครื่องประดับตกแต่งบ้านที่ล้วนคัดสรรแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เช่น หมอนอิง เครื่องใช้บนโต๊ะจาก Hermes เครื่องนอนจาก Frette และ พรมจาก Safavieh เป็นต้น
อีกห้องหนึ่งได้รับการออกแบบตกแต่งโดย “Jim Thompson” (จิม ทอมป์สัน) แบรนด์ลักซ์ชัวรี่ระดับโลกแบรนด์แรกจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘Forbidden Colour’ โดดเด่นด้วยความกล้าในการเลือกใช้สีสันที่ฉูดฉาดอย่างลงตัว เช่น การใช้สีเหลืองกับสีดำ ขาว น้ำเงินเข้ม และเขียวมรกต รวมถึงยังเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับตกแต่งที่มีความแตกต่างในเรื่องของยุคสมัย ทั้งแบบวินเทจ และสั่งทำขึ้นใหม่มาผสมผสานกันเพื่อให้ความรู้สึกแบบโมเดิร์นคลาสสิคได้อย่างลงตัว พร้อมเพิ่มความลักซ์ชัวรี่ด้วยการกรุผนังห้อง โซฟา เก้าอี้ โครงเตียงนอนด้วยผ้าไหมแท้
เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ ตีความนิยามของบ้านสำหรับครอบครัวยุคใหม่ และถ่ายทอดผ่านการหยิบจับทุกอารมณ์และองค์ประกอบที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสได้ถึงความกว้างขวาง เป็นส่วนตัว และสะดวกสบายไม่ต่างจากบ้าน มาหลอมรวมไว้ภายในทุกๆ รายละเอียดตารางนิ้วของโครงการ ความโดดเด่นของพื้นที่ส่วนกลาง ที่ตอบโจทย์การใช้งานใกล้เคียงกับบ้านที่สุด เริ่มจากล็อบบี้ส่วนกลาง เสมือนห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ของบ้าน พื้นที่ 150 ตารางเมตร โอ่โถงด้วยเพดานความสูงถึง 5 เมตรเปิดรับวิวสวนสีเขียวเต็มตา คัดสรรแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกอย่าง Fendi Casa และ Flexform มาประดับตกแต่ง โดยใช้ไม้ที่ใช้เวลาแปรสภาพถึง 300 ปี แชนเดอเลียร์จากแบรนด์ LASVIT (ลาสวิท) มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเฉพาะสำหรับโครงการนี้ ประดุจดั่งงานศิลปะด้วยเทคนิคพิเศษที่สืบทอดการผลิตแก้วจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 200 ปี และสระว่ายน้ำดีไซน์ระดับไอคอนิก สง่างามในรูปทรงของประติมากรรม แรงบันดาลใจจากต้นไม้ใหญ่ที่มีความสูงถึง 10 เมตร ตัวสระยาว 28 เมตร กว้าง 9.5 เมตร พื้นสระปูด้วยหินไวท์ คลาวด์ (White Cloud) สีขาวดุจก้อนเมฆตัดกับสีฟ้าของน้ำ รายล้อมไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจของครอบครัวยุคใหม่ ในพื้นที่ๆ เป็นโอเอซิสใจกลางเมือง (Urban Oasis) อย่างแท้จริง
มอบสัมผัสแห่งความหรูหรา กว้างขวางภายในห้องอันเป็นส่วนตัวสูงสุด ตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกมาจากลิฟต์สู่โถงทางเข้า ด้วย “Welcome Light” เปิดไฟแบบอัตโนมัติด้วยระบบโมชั่นเซ็นเซอร์ พื้นโถงปูด้วย หินอ่อนไวท์ วีนัส (White Venus) ต่อกันเป็นลวดลาย Book-matched ประตูเข้าสู่ห้องเป็นประตู บานเฟี้ยมติดกระจกฟาบริคกลาส (Fabric Glass) นอกจากนี้ ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวย ความสะดวกที่เติมเต็มนิยามความหรูหราด้วยวัสดุคุณภาพระดับเวิลด์คลาสและเทคโนโลยีเหนือระดับ เช่น สุขภัณฑ์จาก Gessi (เจสซี่) แบรนด์ระดับท็อปของอิตาลี สวิตช์พร้อมระบบอัตโนมัติจาก Legrand (เลอกรองด์) แบรนด์ฝรั่งเศสที่โดดเด่นด้วยงานดีไซน์
พื้นที่สีเขียวเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่จะทำให้ทุกที่อยู่อาศัยให้ความรู้สึกเสมือนบ้านที่แท้จริง ทางโครงการยังคำนึงถึงออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวขนาดถึงกว่า 1,000 ตรม. แบ่งเป็นสวนด้านหน้าและสวนด้านหลัง ต้นไม้ใหญ่อายุกว่า 40 ปีที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นมากกว่า 2 เมตร ถูกนำมาปลูกภายในสวนจำลอง
แบบมาจากบ้านใหญ่สมัยเก่า ที่มีสวนหน้าบ้านไว้รับแขก ส่วนสวนด้านหลังไว้ใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของครอบครัว ต้นจามจุรีที่อยู่กับที่ดินเดิมมาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี ยังคงถูกเก็บรักษาไว้ให้ความร่มรื่นกับ เป็นร่มไม้ให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น โดย เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ ได้ร่วมงานกับบริษัทออกแบบแลนด์สเคป
ชื่อดังอย่าง Tectonix ที่เคยฝากผลงานได้กับ Sofitel So Samui และ Burasiri Thakam ในการสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวที่กว้างขวางร่มรื่นที่สุด ในย่านที่มีพื้นที่สีเขียวน้อยของกรุงเทพฯ และอีกหนึ่ง ความพิเศษเหนือโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่อื่น ๆ คือ “Dog Park” ที่ออกแบบขึ้นมาพิเศษบริเวณสวนด้านหน้าสำหรับครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยง พร้อมเป็นส่วนตัวด้วยการจัดเส้นทางการใช้งานเฉพาะสำหรับสุนัขโดยสัญจรผ่านทางลิฟต์เซอร์วิส
เหนือระดับด้วยบริการบัตเลอร์ประจำโครงการ บริการ Valet Parking และบริการรถตู้ Alphad รองรับการใช้บริการสำหรับครอบครัว คอยให้บริการรับส่งตามต้องการ โดยสามารถจองการใช้งานล่วงหน้าผ่าน Home Service Application ความโอ่โถงกว้างขวางและฟังก์ชั่นการใช้งานเสมือนบ้านเดี่ยว โครงการประกอบด้วยห้องพัก 3 ประเภท คือ ขนาด 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ 124 ตรม. ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ พื้นที่ 252 ตรม. และเพนต์เฮาส์ พื้นที่ 508 – 662 ตรม. ในราคาเริ่มต้น 300,000 บาทต่อตรม. หรือ 30 ล้านบาทต่อยูนิต นอกจากนี้ ยังออกแบบพื้นที่ภายในห้องให้โอ่โถงกว้างขวางเสมือนบ้านเดี่ยว อย่างห้องนั่งเล่นเพดานสูง 3.3 เมตร ห้องน้ำในห้องนอนมาสเตอร์ของทุกยูนิตเปิดรับวิวกรุงเทพฯ แบบพาโนรามาและมีระเบียงเทอร์เรซพื้นที่ถึง 20 ตรม. ในยูนิตขนาด 3 ห้องนอน