เดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว ร่วมทุน แสงฟ้าก่อสร้าง
เปิดตัวโครงการ CONNER Ratchathewi คอนโดระดับลักชัวรี่ มูลค่า 3.2 พันล้านบาท
ปักหมุดเส้นราชเทวี ทำเลทอง แห่งใหม่ใจกลางกรุง
พร้อมเสริมทัพด้วยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เป็นตัวแทนบริหารงานขาย
28 พ.ค. 2561 – บริษัท เดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว จำกัด เปิดตัวบริษัทฯ อย่างเป็นทางการ พร้อมจับมือ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด ร่วมทุนเปิดตัวโครงการ “คอนเนอร์ ราชเทวี” คอนโดมิเนียมสุดหรูระดับลักชัวรี่ใจกลางกรุง มูลค่าโครงการ 3.2 พันล้านบาท โดยยูนิตราคาเริ่มต้นที่ 8.1 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ และนักลงทุน ทำเลราชเทวี ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพย่านใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองด้วยคอนเซ็ปต์ “The Future is Just Around the Corner” เพียง 300 เมตรจาก BTS ราชเทวี และ 0 เมตร จาก MRT ราชเทวีในอนาคต ตั้งเป้ายอดขาย 100 % ภายใน 3 เดือน
นายชัยวัฒน์ จักรแต๋ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวบริษัทฯ ในครั้งนี้ว่า “บริษัท เดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ภายใต้โมเดลธุรกิจในรูปแบบ Dynamic Corporate บริหารงานด้วยทีมคนรุ่นใหม่ โดยเป็นเสมือนแหล่งรวมนักพัฒนาโครงการที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือเพื่อยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตด้วยการบริหารพื้นที่อยู่อาศัย ด้วยจุดขายที่แตกต่างพร้อมนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยเลือกเอเจนซี่ ที่มีประสบการณ์ในแต่ละด้านในการพัฒนากลยุทธ์ต่างๆ และการร่วมทุนกับบริษัทพันธมิตรชั้นนำ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ โดยในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่บริษัทฯ ได้ประเดิมโครงการร่วมทุนกับ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด และตั้งเป็นบริษัทในเครือภายใต้ชื่อ C09 เพื่อพัฒนาโครงการ CONNER Ratchathewi โดยเป็นที่รู้กันว่าดีว่า แสงฟ้าก่อสร้างมีความเชี่ยวชาญด้านงานก่อสร้าง ด้วยประสบการณ์ ชื่อเสียง และผลงานที่มีมากว่า 50 ปี ซึ่งยิ่งทำให้ลูกค้าได้มั่นใจในเรื่องของการก่อสร้างที่เสร็จตามกำหนดเวลา และได้คุณภาพมาตรฐานอย่างแท้จริง”
น.พ. เชิดศักดิ์ อัมพรสุขสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า “บริษัท แสงฟ้าก่อสร้างฯ มีความตั้งใจและตัดสินใจที่จะร่วมทุนกับ เดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว เนื่องจากได้มองเห็นวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐาน ตลอดจนเล็งเห็นถึงรูปแบบองค์กรของ เดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว ในการเป็นทีมบริหารรุ่นใหม่ และมุ่งมั่นนำเสนอโครงการที่แตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง เนื่องจาก แสงฟ้าก่อสร้าง ได้เคยเป็นพันธมิตรงานก่อสร้างกับทีมบริหารของเดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว ด้วยผลงานโครงการ C EKKAMAI ที่ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์วางแผนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการบริหารคน และการบริหารเวลาที่ใส่ความมุ่งมั่นไปในทุกขั้นตอน ด้วยความเชี่ยวชาญของแสงฟ้า ทำให้โครงการ C EKKAMAI สร้างเสร็จ และคาดว่าสามารถส่งมอบงานได้ก่อนกำหนดถึงครึ่งปี โดยในการร่วมทุนในครั้งนี้ CONNER Ratchathewi ก็จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะสร้างประวัติศาสตร์บนทำเลราชเทวี ของการเป็นโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอนาคต เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพในทุกตารางนิ้ว ทั้งการก่อสร้าง และการออกแบบ”
นายชัยวัฒน์ จักรแต๋ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ ครีเอเตอร์ส เอชคิว จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของโครงการ คอนเนอร์ ราชเทวี ว่า “คอนเนอร์ ราชเทวี เป็นโครงการคอนโดมิเนี่ยมระดับลักชัวรี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Future Standard of Living” เพื่อยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตแห่งอนาคตของคนเมือง โดยพัฒนาจุดขายด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมนวัตกรรม เพื่อคุณภาพชีวิตคนเมืองในปัจจุบันอย่างแท้จริงจากมุมมองผ่าน Pain-point หรือโจทย์ที่คนเมืองต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องของมลภาวะสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราตอบโจทย์ด้วยการสร้างพื้นที่สีเขียวของธรรมชาติจริง ด้วย Vertical Forest ที่มีต้นไม้มากกว่า 150,000 ต้น ที่สามารถผลิตออกซิเจนได้ถึง 121% ของจำนวนผู้อยู่อาศัยทั้งโครงการ ครอบคลุมทั้งโครงการที่มีจำนวน 294 ยูนิต เป็นการหลอมรวมธรรมชาติทั้งต้นไม้และสายน้ำเข้ามาไว้ในทุกส่วนของตัวโครงการ ความสะดวกสบายในการเดินทาง พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น การสั่งของออนไลน์ โดยมีบริการ Concierge Service และห้องเดลิเวอรี่ เพื่อรับอาหาร และของที่มาจัดส่ง โดยจุดเด่นของห้องนี้คือการที่สามารถรักษาอุณหภูมิของอาหารให้ลูกบ้านพร้อมทานอยู่ตลอดเวลา พร้อมด้วยพื้นที่สันทนาหลากหลายโซนในรูปแบบ Private และStudy Area ตลอดจนเป็นคอนโดแห่งแรกในประเทศไทยในการใช้ระบบน้ำด้วยนวัตกรรมน้ำคลื่นแม่เหล็ก HydroSmart จากประเทศออสเตรเลีย และที่จอดรถแบบ Auto Parking มากกว่า 79%เป็นต้น”
“ในด้านการตลาด โครงการ คอนเนอร์ ราชเทวี เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ทั้งลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่เอง และเพื่อการลงทุน และมีสัดส่วนที่ขายคนไทย 55% และต่างชาติ 45% ทั้งนี้ ด้วยคุณภาพและจุดขายต่างๆที่มีความคุ้มค่าสูงกว่ามาตรฐาน เมื่อเทียบกับราคาที่ตั้งไว้ ทำให้เรามั่นใจว่าเราจะทำยอดขายได้ตามเป้า ที่ได้ตั้งไว้คือ Sold-out ภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ ด้วยเศรษฐกิจปีนี้ในไตรมาสแรก ที่โตขึ้น 4.8%สูงสุดในรอบ 5 ปี โดยทุกภาคเศรษฐกิจดีขึ้นทั้งหมด และทางภาครัฐยังเตรียมปรับเป้าหมาย GDP ปี 2561ใหม่ เป็นเติบโต 4.2 ถึง 4.7% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้เรามองว่าไตรมาส 2-3 นี้ ก็จะยังจะมีกำลังซื้อต่อเนื่องสำหรับโครงการ คอนเนอร์ ราชเทวี” นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวถึงทำเลย่านราชเทวีว่า “พื้นที่พญาไท-ราชเทวี มีอุปสงค์การตอบรับคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในระดับสูง (เฉลี่ยอยู่ที่ 80-90%) สูงกว่ายอดขายเฉลี่ยของโครงการใหม่ในโซน CBD และโซนชั้นกลางในภาพรวมที่มีค่าเฉลี่ยประมาณ 66% และจากการสำรวจล่าสุดพบว่าจำนวนอุปทานคงค้างในปี 2561 เหลือเพียง 300 ยูนิต หากพิจารณาด้านผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าจะอยู่ที่ 5% (ราคาเช่าอยู่ที่ราว 20,000 – 25,000 บาทต่อเดือน) และยิ่งไปกว่านั้น โครงการคอนเนอร์ ราชเทวี ยังแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อาคารสำนักงาน อาคารมิกซ์ยูส โรงแรม และสถานศึกษา และยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นทำเลหายาก จึงมี real demand ทั้งจากผู้อยู่อาศัยจริงและนักลงทุน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนมีความน่าสนใจ เป็นทรัพย์สินที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้ ทั้งนี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะผู้บริหารงานขายและการตลาดให้กับโครงการฯ เชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในฐานะ Service Provider ทางด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร พร้อมด้วยทีมวิจัยแบบเจาะลึกที่มีประสบการณ์การลงพื้นที่ต่างๆ จะสามารถบริหารงานขายได้ตามเป้าที่บริษัทวางไว้”
ทั้งนี้ คอนเนอร์ ราชเทวี เป็นโครงการคอนโดมิเนี่ยม สูง 38 ชั้น 1 อาคาร รวม 294 ยูนิต ในพื้นที่ 1-3-21 ไร่ ราคา 8.1 – 19.8 บาท ประกอบด้วยห้องฝ้าเพดานสูง 3 เมตร (สำหรับห้องSimplex) และ 4.5 เมตร (สำหรับห้อง Loft) จำนวน 4 รูปแบบ ดังนี้: 1.) Loft 1 ห้องนอน ขนาด 30-42 ตร.ม. 2) Simplex 1 ห้องนอน ขนาด 34.9-35.5 ตร.ม. 3.) Simplex 1 ห้องนอนPlus ขนาด 50 ตร.ม. 4.) Simplex 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 69-73 ตร.ม. โดยเริ่มก่อสร้าง ไตรมาส 4 พ.ศ. 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จใน ไตรมาส 4 พ.ศ 2564