Dusit Central Park
อัพเดทภาพใหม่ล่าสุดจาก “Dusit Central Park” ผู้ปลุกจิตวิญญาณของสีลมสู่ Mixed Use ที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกชีวิต พร้อมกับ Iconic Scene ที่เชื่อมต่อวิวสวนลุมพินีให้ทอดยาวเข้าสู่กลางโครงการแห่งเดียวในไทย
ช่วงนี้ไม่มีถนนเส้นไหนที่จะน่าตื่นตาตื่นใจเท่าถนนพระราม 4 อีกแล้วครับ ตัวผมเองเฝ้ารอแล้วรอเล่าที่จะไปเดินเล่นที่ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” เพราะความเป็น “ศูนย์การค้า” หรือ ห้าง ที่เราๆ เรียกติดปาก มันคือชีวิตวันหยุดของคนกรุงเทพ นึกไม่ออกว่าจะไปไหนเราก็ไปห้าง ทั้งกิน เที่ยว ช้อปปิ้งครบ แต่ที่นี่มันจะไม่เหมือนศูนย์การค้าไหนๆ ที่เค้าเคยทำมาก่อน เพราะผสมผสานเข้ากับ Art & Culture เรียกว่าได้เที่ยวชมงานศิลป์แบบเก๋ๆ แถมมีสวนลอยฟ้าไล่ระดับเหมือน Hill อยู่ด้วยที่เดียวในกรุงเทพ!
ใครที่เคยเห็นภาพสวยๆ มาก่อนต้องบอกว่าดุสิตเซ็นทรัลพาร์คนี้เป็นผลงานการออกแบบ จากการร่วมมือของบริษัทชั้นนำของโลก และทีมระดับตำนานของไทย เช่น OMA และ Architects 49 Limited เมื่อความเป็นสากล มาผสมเข้ากับ Heritage ของความเป็นไทย นี่ก็คือการนำเอา Best of both worlds มาเจอกัน ซึ่งเราได้เห็นจากตัวอาคารอย่างโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการแล้ว ทั้งคลาสสิคร่วมสมัย โดดเด่นเป็น Landmark ของหัวมุมถนนสีลมเช่นเดิม
โครงการนี้แบ่งเป็น 4 Component ครับ ได้แก่ Hotel (โรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพ) ที่พักอาศัย (Dusit Residences) และส่วนของออฟฟิศ (Central Park Offices) โดยมีฐานที่เชื่อมโยงทั้ง 3 อาคารไว้ด้วยกันคือศูนย์ฯ Central Park ซึ่งศูนย์ฯนี้แหละคือหัวใจที่ทำให้ Dusit Central Park มีชีวิตชีวาแบบที่ไม่มีที่ไหนทำได้มาก่อน
เซ็นทรัลพาร์ค เป็นอาคาร 8 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน) ขนาดพื้นที่กว่า 130,000 ตร.ม. หรือขนาดพอๆ กับเซ็นทรัล Embassy ครับ สำหรับผมไฮไลต์ก็คือเจ้าสวนลอยฟ้าบน Rooftop ขนาดใหญ่ถึง 7 ไร่ เรียกว่าเป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เซ็นทรัลเคยทำมา เป็นพื้นที่ต้อนรับทุกคนให้มาทำกิจกรรม มาพักผ่อนหย่อนใจ และด้วยความที่เป็นสวนไล่ระดับถึง 3 ชั้น ก็สามารถออกกำลังกายได้แบบ Hiking Trail ได้ และสิ่งที่ทำให้ทุกคนจะต้องว้าวก็คือ สวนนี้ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาด เพราะเป็นการร้อยเรียงวิวสวนลุมพินีให้เชื่อมต่อเข้ามาสู่ถึงใจกลางโครงการซึ่งไม่มีมุมไหนรอบๆ ที่ทำได้แบบนี้เลย อยู่ด้านบนก็เห็นสวนทอดยาวออกไป อยู่ด้านล่างก็เห็นสวนไล่ระดับขึ้นมา
ถ้า Marina Bay เป็นมุมยอดฮิตของการไปเที่ยวชมเมืองสิงคโปร์ ที่นี่จะเป็นอีกหนึ่ง Signature Scene ของกรุงเทพที่มองเห็นนี้เมื่อไหร่ ก็แปลว่าต้องมาถ่ายไปจากเซ็นทรัลพาร์คเท่านั้นครับ
และนอกจากบรรดา Food / Fashion & Lifestyle / Sport เค้าก็ยังมีโซนที่คัดสรรค์งานศิลปะ, Global Trend ใหม่ๆ รวมทั้งงาน Collab ร่วมกับแบรนด์ระดับโลกมาจัดแสดง มีเวทีให้กับ Local Artist ของไทยได้โชว์ผลงาน ที่นี่จึงเหมือนเป็นตัวแทนการเป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ชีวิตชีวา และวัฒนธรรม
ส่วนออฟฟิศก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่อยากพูดถึงครับ เค้าได้วางให้ “Central Park Offices” เป็นสำนักงาน Prestigious Class A ที่ดีและสะดวกที่สุด พร้อมเป็น Global Professional Hub ของบริษัทชั้นนำระดับโลก รองรับเทรนด์ Flexible Workspace โดยมุ่งเป็น LEED Gold และ WELL Certified ที่จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและ Well-being ของทุกคน พอนึกภาพว่าเราได้ทำงานอยู่ที่นี่ มองออกไปเห็นสวนลุมพินีเต็มตา พักเที่ยงก็ลงมาหาของกินได้หลากหลาย ตกค่ำก็ขึ้นไปเอนเตอร์เทนที่ Rooftop Bar ชมวิวกรุงเทพได้แบบ 360 องศา เลิกงานก็มาออกกำลังกายในสวน แถมเดินทางสะดวกด้วย Skywalk สู่ BTS ไปจนถึง MRT คุณภาพชีวิตแบบนี้เพื่อนมีอิจฉาแน่นอน
นี่ก็คือส่วนหนึ่งของภาพการใช้ชีวิตใน Dusit Central Park ที่จะเกิดขึ้นจริงในปีหน้าครับ ตัวออฟฟิศเปิดก่อนประมาณกลางปีหน้า ส่วนศูนย์ฯเซ็นทรัลพาร์คจะตามมาในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเวลาคนพูดถึง Central Park ก็จะนึกถึงภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของมหานครนิวยอร์ก แต่ผมดีใจนะที่ได้เห็นการพัฒนาในเมืองไทยที่มีความทะเยอทะยานเพื่อมุ่งมั่นไปสู่ระดับเดียวกัน เป็นการเดินหน้าด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของเมือง หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ ที่ซึ่งผมพูดได้อย่างภูมิใจเหมือนในเพลงของลิซ่าว่า “This is BKK, my city!”
เท่มากนะที่ต่อจากนี้สวนลุมพินีจะไม่ได้มีแค่บนดิน แต่ยังต่อเนื่องขึ้นไปถึงเซ็นทรัลพาร์คด้วยแบบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พื้นที่แบบนี้นี่แหละคือชีวิตที่จะทำให้คนกรุงเทพฯ ได้เติมเต็มอย่างสมบูรณ์ ระหว่างนี้อดใจรอกันอีกสักนิด ผมนำภาพ Sneak Peek อัพเดทล่าสุดของศูนย์ฯเซ็นทรัลพาร์คที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อนมาให้ชมระหว่างรอครับ
ด้านหน้าสวยมาก