ออลล์ อินสไปร์ฯ เปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ “ไรส์ เวนเจอร์” ตัวจริงด้านการจัดการอสังหาฯ
การันตีคุณภาพด้วยศักยภาพทีมงานการตลาด – การขาย ทั้งในและต่างประเทศ
บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ ดิ เอ็กเซล ไรส์ และอิมเพรสชั่น โชว์ศักยภาพธุรกิจอสังหาฯ มองเห็นโอกาส และช่องว่างทางการตลาด ประกาศเปิดตัวธุรกิจใหม่ “ไรส์ เวนเจอร์” ตัวจริงด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ โดยการเข้าลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นที่สร้างเสร็จแล้ว นำมาเพิ่มมูลค่าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่ ด้วยการบริหารจัดการของทีมงานการตลาดและการขายทั้งในและต่างประเทศที่มีคุณภาพ ทีมออกแบบตกแต่งภายใน และทีมดูแลลูกค้าหลังการขายที่แข็งแกร่ง เป็นการใช้ความชำนาญที่มีอยู่สร้างโมเดลธุรกิจที่มีความแตกต่าง ตั้งเป้ายอดรายได้ 500 – 1,000 ลบ. มั่นใจดีมานด์ยังมีอย่างต่อเนื่องทั้งลูกค้าไทยและต่างชาติ
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีแผนในการรุกตลาดอสังหาฯ มากขึ้น โดยเพิ่มช่องทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลัก ที่เดิมจะใช้วิธีการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ขาย และรอรับรู้รายได้เมื่อโอน แต่พบว่ายังมีช่องว่าง ซึ่งมองเห็นเป็นโอกาสทางธุรกิจ เกิดเป็นบริษัท ไรส์ เอสเตท จำกัด ภายใต้ชื่อ “ไรส์ เวนเจอร์” เป็นบริษัทในเครือ บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโมเดลใหม่เข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระยะสั้น เพื่อสร้างโอกาสทำกำไรให้มากขึ้น เร็วขึ้น แต่มีความเสี่ยงน้อยลง โดยที่ผ่านมานั้น ออลล์ อินสไปร์ฯ มีทีมขายในประเทศ และมีบริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งทำหน้าที่ในการขายโครงการของ ออลล์ อินไสปร์ ในต่างประเทศที่มีคุณภาพ และทีมการตลาดที่แข็งแกร่ง มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะจากการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศทำให้ทราบว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดของลูกค้าที่ต้องการอสังหาฯ สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ในทำเลต่างๆ อยู่อีกมากมาย ดังนั้น บริษัทฯ จึงต้องการตอบสนองดีมานด์ดังกล่าว ได้อย่างทันท่วงที จึงลงทุนในทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างแล้วเสร็จจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นที่ต้องการระบายสต๊อก โดยเลือกสรรเป็นรายห้อง เลือกห้องที่มีศักยภาพทำเลดี และต่อรองราคา หลังจากนั้นนำมาเพิ่มมูลค่า เช่น ตกแต่งเพิ่มเติม เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการ และนำมาเสนอให้กับลูกค้าในราคาที่คุ้มค่า ภายในเวลาที่ลูกค้าต้องการเข้าพักอาศัย ซึ่งทางบริษัทฯ มีทีมงานที่มีประสบการณ์สูง คลุกคลีอยู่กับข้อมูลของวงการธุรกิจนี้มานาน จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน
ซึ่งลูกค้าที่ซื้ออสังหาฯ จาก “ไรส์ เวนเจอร์” การันตีได้เลยว่า นอกจากจะได้ของที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่าแล้วนั้น ยังได้รับบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพในการแนะนำทั้งเรื่องการขายต่อและการปล่อยเช่า นอกจากนี้ในเรื่องของผลประโยชน์ สิทธิพิเศษยังเทียบเท่ากับลูกค้าที่ซื้อโครงการของ ออลล์ อินสไปร์ฯ ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็คือลูกค้า “ไรส์ เวนเจอร์” จะได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิก “อินสไปร์ ฮับ” สามารถร่วมกิจกรรม รับสิทธิพิเศษ ใช้บริการเลาจน์ที่สยามพารากอนได้ เป็นต้น เรียกว่าเป็นมืออาชีพในการนำเสนออสังหาริมทรัพย์ ให้แก่ลูกค้าที่ต้องการที่จะอยู่อาศัยบนทำเลต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น โดยลูกค้าจะมีทางเลือกที่หลากหลายและมั่นใจได้ว่าจะได้อสังหาริมทรัพย์ตามความต้องการอย่างแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันมีโครงการต่างๆ ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เป็นจำนวนมาก
ขณะนี้ “ไรส์ เวนเจอร์” มีอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่พร้อมขายและที่นำมาพัฒนาใหม่แล้วประมาณ 130 ล้านบาท อยู่ในทำเลที่ลูกค้าต้องการ อาทิ โครงการคอนโดพร้อมอยู่ตามเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 500 – 1,000 ล้านบาท
“ปัจจัยที่ทำให้ ออลล์ อินสไปร์ฯ ประสบความสำเร็จในธุรกิจจนถึงปัจจุบันคือการเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง โดยมีแนวคิดที่ต้องการตอบโจทย์ทั้งเรื่องแบรนด์ดิ้งและความเป็นแมสพรีเมียม ในการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าในราคาที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งการเปิดตัว “ไรส์ เวนเจอร์” ในวันนี้ จึงถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของการดำเนินธุรกิจของ ออลล์ อินไสปร์ฯ ที่ต้องการตอบโจทย์ลูกค้าให้ตรงใจมากที่สุด เพื่อที่จะครองใจลูกค้าที่ต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่ดีมีคุณภาพ ในราคาสมเหตุผล” นายธนากร กล่าวตอนท้าย