ผมกลับมาเยือนขอนแก่นอีกรอบด้วยการบินลัดฟ้าแลนดิ้งลงมายังสนามบินนานาชาติขอนแก่น มาทีไรก็รู้สึกว่าสนามบินนี้สะดวกสบาย สะอาด สวยงาม สมกับความเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดของภาค แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่ามีผู้คนแออัดกันเมื่อเทียบกับขาไปจากดอนเมือง คราวนี้นอกจากจะมาดูคอนโดพร้อมอยู่จากแสนสิริ (ที่ทำให้รู้สึกเวลาผ่านไปไวเหลือเกิน เพราะเผลอแป๊บเดียวก็สร้างเสร็จแล้ว) ผมก็ได้โอกาสชวนน้องไปอัพเดทกันว่าวัยรุ่นแบบผม เค้านิยมไปไหนกันบ้าง จนได้มาตื่นตาตื่นใจว่าที่นี่มีร้านอาหาร และคาเฟ่สวยตะลึงอยู่หลายที่ซะด้วย
จากสนามบินฯ เรามุ่งหน้าสู่ใจกลางตัวเมืองขอนแก่นที่ตั้งของศาลหลักเมือง และเซ็นทรัลขอนแก่น จากตรงนี้ เราอยู่กึ่งกลางของ 4 บึงใหญ่ประจำเมือง ทั้งบึงทุ่งสร้าง บึงแก่นนคร บึงหนองโคตร และบึงสีฐาน เป็นย่านชุมชนที่มีแหล่งท่องเที่ยวสไตล์นักกินนักช้อป ทั้งถนนคนเดิน, ตลาดโต้รุ่ง,คาเฟ่, และร้านกินดื่มสุดฮิตมากมาย เสียดายว่าไม่ได้มีเวลาอยู่จนถึงได้เห็นแสงสียามค่ำคืน แต่ก็ได้เห็นความคึกคักของการจราจรที่บ่งบอกว่าคนแถวนี้อยู่กันหนาแน่นด้วยหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเพราะการมี ม.ขอนแก่นเป็นเหมือนศูนย์กลางการศึกษาของอีสาน, มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่เยอะ ไม่ว่าจะ รพ.กรุงเทพ, รพ.ราชพฤกษ์, รพ.ขอนแก่นราม รวมทั้งมีศูนย์ราชการที่อยู่ในโซนใกล้กันหลายแห่ง ผมแวะเติมพลังกันที่ร้านขวัญใจทัวริสต์อย่างบ้านเฮงสักนิด ก่อนเข้าไปดู “เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น” กันสักที
จากถนนศรีจันทร์เส้นเดียวกับหน้าเซ็นทรัลขอนแก่น เลี้ยวเข้าซอยสุภธีระที่มี Hugz Mall อยู่หน้าปากซอยนิดเดียว ก็จะเห็นคอนโดสีส้มอิฐที่ Inspire มาจากบล็อกช่องลมโดดเด่นมาแต่ไกล (โครงการยังเข้าออกได้จาก ถนน 5 พฤศจิกาไปถนนเทพารักษ์ได้อีกทาง) นอกจากจะทำให้ตัวอาคารดูโดดเด่นแล้ว ก็ยังช่วยพรางสายตาเวลานั่งในสวนต้อนรับด้านหน้าจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ตัวคอนโดมีทั้งหมด 3 อาคาร เป็นตึกสูง 8 ชั้น 2 อาคาร และอีกหนึ่ง Clubhouse 2 ชั้นตั้งอยู่ตรงกลางพื้นที่ อยู่ตึกไหนก็มาใช้งานได้สะดวก แถมยังเป็นวิวภายในที่สวยงาม บริเวณคลับเฮ้าส์นี้ ชั้นล่างเป็น Lobby เอาไว้พบปะเม้ามอยนั่งทำงาน ส่วนชั้น 2 เป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำพร้อมที่นั่งพักผ่อน และฟิตเนสที่สเกลขนาดใหญ่เหมือนในคอนโดตึกสูงเลยครับ
งานดีไซน์ถือว่าเป็นจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลางที่นี่ ที่มีทั้งความโค้งละมุน ตัดกับสีสันจัดจ้าน ยิ่งเค้าตกแต่ง Landscape ด้วยพืชพันธุ์สีสันสดใสก็ทำให้น่ามอง โดยเฉพาะการเลือกไม้ดอกมาให้เข้ากับธีมสีโครงการ นี่มันช่างน่ารัก การตกแต่งภายในก็มีมุมมีจุดที่สามารถไปนั่งแชะถ่ายภาพสวยๆ ได้เยอะ ไม่ว่าจะในล็อบบี้ หรือโซนที่นั่งริมสระ อย่างในฟิตเนสเองก็เลือกใช้ซีรีย์ทีวีที่เป็นเสมือนกรอบภาพตั้งโชว์ ทำให้บรรยากาศภายในโครงการก็ได้ฟิลบูธีคโฮเทลอยู่เหมือนกัน
สรุปรายละเอียดโครงการกันสักหน่อย เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น มีทั้งหมด 478 ยูนิต (ที่จอดรถ 30%) มี Facilities ประกอบด้วย Welcome Courtyard, Main Lobby, GYM, Swimming Pool, Sunken Seating, Outdoor Seating รวมทั้งพื้นที่สีเขียวโดยรอบอาคาร อ้อ เค้ายังติดตั้ง EV Charger ไว้ให้ 2 ช่องด้วยครับ เผื่อวันไหนลูกบ้านอยากใช้รถ EV ในคอนโดก็ไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม นอกจากนี้ลักษณะการจัดวางผังอาคารยังคำนึงถึงเรื่องทิศทางการไหลเวียนของลมให้โปร่งสบาย มีการออกแบบที่รองรับ Universal Design และยังอยู่ภายใต้การรักษาความปลอดภัยแบบ LIV24 ที่ผสานพลังของระบบ AI คอยดูแลเราตลอด 24 ชม.
รูปแบบห้องที่นี่แบ่งเป็น 2 Type คือแบบ 1 ห้องนอน และแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
- แบบ 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 21.75 – 24.75 ตร.ม. ห้องนี้มีให้เลือก 2 Layout สิ่งที่เหมือนคือการออกแบบพื้นที่ส่วนพักผ่อน Living & Bedroom อยู่ด้วยกัน แต่กั้นครัวแยกไว้ให้เป็นสัดส่วน ส่วนสิ่งที่ต่างคือ ห้องที่ใหญ่ขึ้นมาจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานริมหน้าต่างให้ด้วย
- แบบ 1 ห้องนอน ขนาดกลาง พื้นที่ 30.75 – 31.25 ตร.ม. จะเป็นห้อง 1 Bedroom ที่กั้นแบ่งห้องนอนเป็นผนังทึบเพิ่มความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่ครัวปิด และยังมีมุมทำงานริมหน้าต่างลงตัวทุกฟังก์ชัน แถมบางห้องจะได้ระเบียงโค้งตามดีไซน์ของอาคารด้วย
- แบบ 1 ห้องนอน ขนาดใหญ่ พื้นที่ 38.25 ตร.ม. เป็นห้องยูนิตพิเศษ 1 ห้องต่อชั้น (มีเฉพาะอาคาร A อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ) จะเป็นห้องรูปแบบหน้ากว้างน้องๆ 2 Bedroom ได้ครัวปิด แถมระเบียงโค้งสวยงาม
- แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ตั้งแต่ 42.75 – 47.50 ตร.ม. จุดเด่นคือ ขนาดของห้องนอนทั้ง 2 ห้องนี้ใหญ่ใกล้เคียงกัน ห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวแบบไม่ต้องแชร์กับใคร ส่วนห้องนอนที่ 2 อยู่ติดกับห้องน้ำที่เข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากในห้องนอนและห้องนั่งเล่น 2 Bedroom นี้จะเป็นห้องรูปแบบครัวเปิดทั้งหมดครับ
เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบเซ็ต ไม่ว่าจะชุดครัว พร้อม Hob & Hood, ชั้นวางทีวี, ตู้เสื้อผ้า, ตู้รองเท้า, โซฟาพร้อมโต๊ะกลาง, ฐานเตียง และโต๊ะทำงาน (จะแตกต่างกันไปนิดหน่อยตาม Layout ของห้อง) แถมช่วงนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษมาพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า* ทั้งตู้เย็น ทีวี ไมโครเวฟ รวมถึงสามารถเลือกรับทองคำแท่งได้อีก 1 บาท* ในราคาเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท*ครับ ใครที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่นี่เลย https://siri.ly/YPmOx33
ผมจะพาทุกคนทัวร์รอบๆ โครงการ แล้วจะทิ้งท้ายด้วยร้านคาเฟ่สุดแจ่มที่ขอนแก่นก่อนกลับ ไปชมกันเลยครับ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
พาขึ้นเครื่องบินมาขอนแก่น จังหวัดยอดฮิตของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันนี้พามาชมบรรยากาศ “THE BASE Downtown Khonkaen” คอนโดใหม่จากแสนสิริ ใจกลางเมือง อยู่ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์และคาเฟ่ในขอนแก่นมากมาย พร้อมห้องแต่งครบ กับราคาเริ่ม 1.65 ล้านครับ
นี่แหละครับสีสันที่โดดเด่นของโครงการดูก็รู้เลยว่าวันนี้สนุกสนานแน่ๆ
สีส้มอิฐนี้เป็นจุดเด่นอาคารที่เห็นได้จากระยะไกล มีดีไซน์ที่ดูแล้วอินสไปร์มาจากบล็อกช่องลมเป็นลูกเล่นของ Façade
และก็มีส่วนกลางสวยๆ ให้ได้สแนปรูป กลับไปหลากหลายมุมแน่นอน
ผมขอเปิดมาที่ Clubhouse ใจกลางโครงการก่อนนะครับ เพราะเป็นจุดที่ผมชอบที่สุด อยากจะนำเสนอ ที่นี่เค้าตกแต่งใช้สีส้มอิฐเป็นหลัก กับดีไซน์ตัวอาคารด้วยการซ้อนทับของเส้นสาย กับความโค้งมน ออกมาสวยงาม
ข้างใน Lobby โปร่งสบายมากๆ มีแสงแดดธรรมชาติเข้าเต็มที่ มองเห็นวิวต้นไม้และดอกไม้ของโครงการได้เลย เฟอร์นิเจอร์เค้าก็น่ารักให้อารมณ์ Mid Century Modern แต่งแต้มด้วยสีสันสดใส
ตรงล็อบบี้สามารถเปิดประตูบานพับให้เป็น Semi Outdoor รับลมเย็นๆ ได้ด้วยนะ หรือจะไปนั่งชมวิวด้านนอกเลยก็ได้ฮะ แต่ดูจะเหมาะกับช่วงพระอาทิตย์ตกมากกว่าแดดเปรี้ยงช่วงเที่ยงนะ
กดลิฟท์ขึ้นไปดูชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์กันครับ สีสันจัดจ้านถึงใจดีจริงๆ หน้าลิฟต์นี้มีเต่าบินให้บริการด้วย
ด้านบนเป็นโซนสระว่ายน้ำ และฟิตเนสครับ มีมุมนั่งพักผ่อนริมสระหลากหลายสไตล์ จะมาเป็นกลุ่ม เป็นคู่ หรือมาคนเดียวก็เลือกมุมได้
ส่วนผมไม่ได้นั่งครับ ต้องถ่ายรูปให้นางก่อน 555 สวยทุกมุม สระว่ายน้ำเค้าหันหน้าเข้าทิศเหนือ ระหว่างวันก็จะมีมุมที่มีเงาบดบังแดด สามารถมาว่ายน้ำได้แบบไม่ต้องกลัวแดดร้อนครับ
อากาศบ้านเรานี่มันฮ้อนนนน เห็นสระยาวๆ แบบนี้แล้วอยากกระโดดน้ำมาก น่าว่ายจังเลย
เข้ามาดูฟิตเนสขนาดกว้างขวางของเค้าครับ เป็นกระจกรอบเลย จะออกกำลังกายตรงเครื่องไหนก็มองเห็นวิวด้านนอกได้แบบโปร่งโล่ง
แน่นอนครับว่ามีฝั่งที่มองเห็นวิวสระว่ายน้ำเมื่อกี้ได้เต็มตา แสงและวิวแบบนี้เหมาะกับการทำคอนเทนต์ออกกำลังกายแบบคนสุขภาพดี ดูทีวีที่เค้าเลือกใช้อันนี้ก็กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องไปด้วยเลย
ออกกำลังกายเหนื่อยแล้วก็มานั่งพักตรงนี้ได้นะ ได้มุมถ่ายรูปอีกละ แต่งมาถูกใจ
ใครอยู่ตึก A จะสามารถถ่ายรูปวิวคลับเฮ้าส์จากมุมนี้ได้นะ สวยงามเลยครับ หรือจะส่องดูว่ามีคนว่ายน้ำอยู่เยอะมั้ย ก่อนจะลงไปว่ายก็ได้
พาไปดูรอบๆ โครงการกันต่อ แม้แต่ทางเดินระหว่างอาคารเค้าก็ไม่ทิ้งสีส้ม ซึ่งเข้ากันกับพุ่มไม้ดอกที่เห็นบนพื้นข้างล่าง
บริเวณทางเข้าโครงการจะมี Welcome Courtyard เป็นส่วนพักผ่อนที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการ ติดกับตึก A ก็มีสวนพร้อมที่นั่งแบบนี้อีกจุด มาชมนกชมไม้กันได้
ผมชอบเส้นสายความโค้งและ Element ของตัวตึกมากๆ สีส้มตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้ายิ่งดีเข้าไปอีก
ผนังสีเข้มขับสีเก้าอี้โดดเด้งถึงใจ
ที่นี่ยังมีช่อง EV Charger มาให้ 2 ช่องนะ อยู่ที่ตึก A เลยครับ รองรับเทรนด์การใช้ EV ในปัจจุบัน
ก่อนจะขึ้นไปดูห้องตัวอย่าง ก็เดินผ่าน Mail Box ตกแต่งน่ารักๆ แบบนี้ก่อน มีทั้ง 2 ตึกแยกกันเลยนะ
มาที่ห้องแรก ผมขอเริ่มที่ห้องขนาดใหญ่อย่าง 2 Bedroom ขนาด 47 ตร.ม. ก่อนนะครับ เป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำเลย อยู่กันแบบครอบครัวเล็ก หรือหารกันกับเพื่อนก็สบาย เพราะห้องนอนใหญ่พอๆ กัน
เข้ามาเจอกับส่วน Living Area ของเค้าที่เป็นแบบ Open Plan มีพื้นที่ส่วนครัว – Dining – Living รวมเข้าด้วยกัน ส่วนนี้จะอยู่บริเวณตรงกลาง คั่นระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ที่อยู่คนละฝั่ง
เค้าให้เฟอร์นิเจอร์ครบเลยนะ ตรงทางเข้ามาก็จะได้ตู้เก็บรองเท้า พร้อมวางของได้ เดินลั้ลลาเข้ามาวางทุกอย่างแล้วโดดลงโซฟาไปเลยสบายใจ
ห้องนี้ตกแต่งสีน้ำเงินตัดเทา เต็มไปด้วย Masculine Energy ดีนะ ซึ่งสีเฟอร์นิเจอร์ที่เค้าให้มาก็เป็นสีไม้อ่อน เข้าได้กับหลายสีเลย ห้องนี้มีระเบียงที่ห้องนั่งเล่นรับแสงรับลมธรรมชาติ
มาดูโซนครัวกันต่อครับ กลางห้องวางโต๊ะกินข้าวพร้อมเก้าอี้ที่เค้าให้มาได้ 4 ที่นั่งเลย กินข้าวได้พร้อมหน้าพร้อมตาอบอุ่น ผมชอบห้องที่จัดฟังก์ชั่นแบบนี้นะ
เคาน์เตอร์ครัวก็ให้มาครบทั้งเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน พร้อมช่องวางเครื่องซักผ้าตรงนี้ครับ
ข้างกันกับห้องครัว ก็มีห้องน้ำที่เข้าได้ทั้งจากโซน Living และห้องนอนที่สองครับ ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีฟ้าอมเขียวเปลี่ยนอารมณ์ซักหน่อย พร้อมกระจกที่มีช่องวางอุปกรณ์ในห้องน้ำได้สะดวกแบบนี้ เค้าติดตั้งกระจกกั้นเปียกแห้งมาให้ไว้แล้ว
มาที่ห้อง Master Bedroom กันต่อครับ สเปซกว้างเลยล่ะ ซ้ายขวาและปลายเตียงก็เดินหมุนตัวได้รอบ เค้ามีทั้งฐานเตียง, ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะนั่งทำงานมาให้แล้วครับ ง่ายเลย มีห้องน้ำในตัวนะ
ติดกับหน้าต่างบานใหญ่กำลังดี ก็มีโต๊ะพร้อมเก้าอี้ที่เค้าจัดเป็นโต๊ะทำงานให้ดู มุมแบบนี้เหมาะสำหรับทำงานพอๆ กับการแต่งหน้า ฮ่าๆ
มาดูที่ห้องนอนที่สองต่อครับ ห้องนี้แต่งแบบน่ารักกุ๊กกิ๊กสีชมพูเหลือง ขนาดก็กำลังดีเลยนะ
มาดูที่ห้องนอนที่สองต่อครับ ห้องนี้แต่งแบบน่ารักกุ๊กกิ๊กสีชมพูเหลือง ขนาดก็กำลังดีเลยนะ
นี่คือห้อง รูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม. ห้องนี้ได้ครัวปิด ทำอาหารไม่ต้องกังวลกลิ่นและควัน แต่ถ้าจะตำส้มตำแซ่บๆ อาจจะต้องเบามือหน่อยนะ
เข้ามาเจอกับโซนครัวก่อนเลยครับ มาครบ มีช่องวางเครื่องซักผ้าเช่นกัน ผมเปิดตู้เก็บของและรองเท้าให้ดู เก็บได้เยอะดีเลยนะ เหมาะกับสายสนีกเกอร์ ที่ทุกรอบ วันที่ 3 เดือน 3 หรือ 4 เดือน 4 จะต้องได้ช้อปออนไลน์
เข้ามาที่ส่วนพักผ่อนด้านใน ที่รวมพื้นที่ Living & Bedroom อยู่ด้วยกัน ดูท่าแล้วการกระดึ๊บขึ้นลงระหว่างเตียงกับโซฟาสะดวกมาก ถ้าจะทำงานอย่าคิดนั่งโซฟา ไม่น่ารอด
และมุมพิเศษเช่นเคย คือ Working Station ติดหน้าต่างครับ นอกจากทำงาน ก็ยังไว้ตั้งไฟวงไลฟ์สด ถ่ายคอนเทนต์ได้แบบแสงสวยๆ หรือจะแต่งหน้าตรงนี้ก็ได้หลายฟังก์ชั่นเลย สายรีวิวบิวตี้ต้องชอบแน่นอน
ฝั่งตรงข้ามเตียงก็มีชั้นวางทีวีมาให้ คิดว่าถ้าไม่มี Work Station ก็คงได้นั่งทำงานตรงนี้แหละ ที่อยู่ข้างกันเป็นตู้เสื้อผ้า แน่นอนว่าตัวแม่ก็ต้องมีเครื่องแต่งกายเยอะหน่อยเป็นธรรมดา มาพร้อมกระจกเช็คความเรียบร้อย สวยแล้วออกได้
ข้างตู้เสื้อผ้าก็คือห้องน้ำนั่นเอง Flow การใช้งานทำได้ดี อาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวกเลยเด้ออ
แถมให้กับห้องสุดท้ายครับ เป็นรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม. ที่ Layout คล้ายกับห้องเมื่อซักครู่เลยครับ แต่ขนาดใหญ่ขึ้นนิดหน่อย และตกแต่งสีสันน่ารัก
สาวกสีเหลืองเลม่อนต้องชอบการตกแต่งห้องนี้แน่นอน ดูกระชุ่มกระชวยมี Energy ดีนะ ห้องนี้เข้ามาเจอกับครัวปิด กั้นกระจกบานเลื่อนให้เช่นกัน
ถ่ายรูปกันซักช็อต 3 2 1 Cheese
ตรงข้ามกันก็เป็นที่วางทีวี ที่ปรับเป็นโต๊ะแต่งหน้าก็ได้ พร้อมตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำที่ฝั่งซ้าย และระเบียงที่ฝั่งขวาครับ
ครบแล้วครับกับส่วนกลางและห้องตัวอย่างทั้งหมดของที่นี่ อย่างที่บอกว่าโครงการเค้าตั้งอยู่ใจกลางขอนแก่น ก็จะรายล้อมด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย ผมจะพาไปเที่ยว หาอะไรอร่อยๆ กินกันสักนิดก่อนกลับครับ
มาที่คาเฟ่แรก “Refill Coffee” เป็นที่รู้จักในนามคาเฟ่ของแบงค์ ธิติ Vibes ดีมากกก
ด้านในมีโซนที่นั่งมากมาย โดยเฉพาะฝั่งนี้ที่เหมือนนั่งดู Terrarium ขนาดยักษ์ ให้ความรู้สึกชุ่มชื่นสบายตาดีนะ แม้ว่าข้างนอกจะร้อนดังกับไฟเยอร์
ขอแวะร้านสุดท้าย “Godfather” เป็นคาเฟ่สไตล์ลอฟท์ที่เข้ามาในร้านแล้วเหมือนหลุดไปอยู่ในผับบาร์เวลาค่ำคืน แต่จริงๆ แล้วมันยังกลางวัน ต้อนรับด้วยเพลงจังหวะสนุกๆ จนอยากจะลุกขึ้นเต้น ถ้าแฟนโทรมาถามว่าอยู่ไหน แล้วตอบว่าอยู่คาเฟ่ อาจจะต้องเคลียร์กันยาว 555
นอกจาก Mood ร้านดีแล้ว เค้าก็ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟด้วย ไม่ว่าจะเป็น Drip หรือ Cold Brew แต่เสียดายวันนี้ผมไม่ได้ลอง เพราะใจสั่นกับการเคลียร์กับคนที่บ้านเมื่อกี้
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวความน่าสนใจของโครงการ ‘เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น’ และบรรยากาศรอบๆ ที่ได้พาทุกคนมาชมครับ เรียกได้ว่าอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่สะดวกสบาย ได้ฟิลการพักผ่อน ส่วนกลางออกแบบได้สวยน่าใช้ เข้าอยู่ได้ง่ายด้วยเฟอร์นิเจอร์ให้ครบ ในราคาเริ่ม 1.65 ล้านครับ ใครที่กำลังมองหาคอนโดกลางขอนแก่นขอเชิญเข้าไปชม