แอบดูคอนโด dcondo bliss sriracha คอนโดใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ ใกล้มหาลัย สไตล์รีสอร์ทก่อนจะเข้าเนื้อหาขอสรุปประเด็นความน่าสนใจสำหรับคนขี้เกียจอ่านไว้ 3 ข้อ
- คอนโดให้บรรยากาศผ่อนคลาย Hideaway แบบรีสอร์ท ได้รับการจัดวาง Landscape ลดหลั่นไปตามไหล่เขาพร้อมห้องแบบ Pool Access ที่น่าอยู่มากๆ
- นอกจากโครงการจะตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ยังเป็นเสมือนจุดเชื่อมต่อระหว่างแหล่งงานใหญ่อย่างแหลมฉบัง และแหล่งช็อปปิ้งกลางใจเมืองอย่างโรบินสันศรีราชา
- ความเติบโตอย่างโดดเด่นของทำเลยุทธศาสตร์ EEC อันประกอบด้วย ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง
วันนี้มากันที่ศรีราชาอีกแล้วครับ ถ้าใครติดตามเรามาตั้งแต่ต้นปีจะเห็นว่าเรามีโอกาสได้มาทางภาคตะวันออกนี้กันหลายรอบทีเดียว และทุกครั้งที่เรามา ก็จะเห็นการพัฒนาและความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ที่เห็นชัดที่สุดก็ถนนหนทางนี่แหละครับ จากถนนเดิมที่เคยมีเพียง 2 เลน เค้าก็ปรับเป็น 4-8 เลน ทั้งหมดนี้ก็เป็นผลจากการทุ่มงบประมาณจากภาครัฐเพื่อพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่จะดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากทั่วโลก เพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยให้แข่งขันกับนานาประเทศได้
สปอตไลท์การพัฒนาวันนี้จึงฉายมาอยู่พื้นที่ 3 จังหวัด EEC ซึ่งจะมีโครงสร้างพื้นฐานเพียบพร้อมทั้งระบบรถ ราง เรือ และเครื่องบิน อันได้แก่ การก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง การพัฒนาท่าเรือทั้งมาบตาพุด และแหลมฉบัง พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา แถมด้วยการเชื่อมต่อทั้ง 3 สนามบินด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงอีก เมื่อโครงสร้างพื้นฐานเพียบพร้อม ธุรกิจใหม่ๆ ก็เติบโต ดึงดูดบุคลากรศักยภาพเข้ามาทำงาน และสิ่งที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับคนที่จะเข้ามาในพื้นที่ก็คือ ที่อยู่อาศัยที่ดีนี่แหละครับ
หากเราเจาะลึกลงไปในเรื่องข้อมูลยิ่งจะพบว่าจังหวัดชลบุรีนั้นโดดเด่นมาก เป็นจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมากว่า 167 ล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของไทย เป็นรองก็เพียงแค่ กรุงเทพฯ และภูเก็ตเท่านั้น แต่ถ้าเราดูกันที่ตัวเลขผู้คนที่เยี่ยมเยียนเดินทางเข้ามาในจังหวัดชลบุรีเมื่อปี 62 ก็จะขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 หรือเกิน 10 ล้านคนต่อปี ตัวเลขเหล่านี้ทำให้เราพอจะเห็นทิศทางของความต้องการอุปโภคบริโภคภายในจังหวัด ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนในธุรกิจเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน หรือที่อยู่อาศัยครับ
จริงๆ เราก็ได้ไปดูโครงการที่พักอาศัยอย่างคอนโดในย่านนี้กันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูง ที่หลายคนอยากได้วิวที่ดี แต่ก็ต้องแลกมากับจำนวนยูนิตค่อนข้างหนาแน่น ในวันนี้เราจะพาไปชมโครงการในอีกอารมณ์กับคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ที่ได้สเน่ห์ของการพักอาศัยแบบรีสอร์ท และออกแบบได้สวยงามน่าอยู่ ทำให้คอนโดเป็นมากกว่าที่ซุกนอนเพียงอย่างเดียว ที่นี่ก็คือ “ดีคอนโด บลิซ ศรีราชา” จากแสนสิริครับ โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทรั้วถัดกันกับ ม.เกษตรฯ ศรีราชา ในพิกัดที่เรียกว่าเชื่อมต่อแหล่งช็อปปิ้งกลางใจเมืองศรีราชา กับ แหล่งงานที่แหลมฉบังเข้าไว้ด้วยกัน
เมื่อวันที่เราได้เข้าไปชม ก็พบว่าโครงการนี้ไม่เหมือนโครงการ Low Rise อื่นๆ อันดับแรก เมื่อเราขับรถผ่านประตูเข้าไปก็ต้องเอะใจว่า เอ๊ะ นี่เข้ามาถึงเราก็อยู่ต่ำกว่าชั้น 1 ของโครงการได้ยังไง และก็มาถึงบางอ้อเมื่อพบว่าโครงการตั้งอยู่บนเนินเขาเดิมครับ การจัดวางอาคารและ Landscape จึงไล่ระดับไปตามความสูงเนินเขา ข้อดีของเรื่องนี้ก็คือ คนที่อยู่ห้องพักบนชั้น 1 ยังอยู่สูงกว่าทางเดินและสวนด้านข้างเสียอีก ทำให้เวลามองออกมาจากห้องก็รู้สึกไม่เหมือนกับอยู่ชั้นล่างสุดครับ
การจัดตกแต่งพื้นที่โดยรอบก็ให้ความร่มรื่น โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางกว่า 1 ไร่ ที่มีทั้งสวนสีเขียว พร้อม Paviliion ที่นั่งพักให้พบปะพูดคุยกัน และมีสระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์มพร้อมจากุซซี่ พื้นที่ทั้ง 2 ส่วนนี้ได้รับการจัดวางเป็นแนวคู่เคียงตลอดความยาวทั้ง 2 อาคารเลยครับ อาคาร A จะได้วิวสวน ส่วนอาคาร B นั้นจะได้วิวสระว่ายน้ำ แถมห้อง Pool Access บริเวณชั้น 1 ยังได้รับเอกสิทธิพิเศษในการเดินลงสระน้ำได้เลย ซึ่งมีจำนวนจำกัดจริงๆ นอกจากนี้ยังมีอาคาร Clubhouse ที่แยกออกมาอีก 1 อาคาร ให้ลูกบ้านได้ใช้สอยไม่ว่าจะเป็น Co-working Space, ฟิตเนส, มินิบาร์, พื้นที่นั่งพูดคุย พักผ่อน ทั้งริมสระน้ำ และบริเวณชั้นบนของอาคาร Clubhouse ที่เปิดโล่งรับลมชมวิวภูเขา ที่อากาศ Flow ดีทั้งวัน ค่อนข้างเป็นที่เพลิดเพลินและสำราญใจของชาวคณะเราจริงๆ ครับ
รูปแบบห้องของที่นี่ดูไม่ยาก เพราะมีเพียง Type เดียว คือ Studio ขนาด 26.5 ตร.ม. สำหรับห้องปกติ และขนาด 29 ตร.ม. สำหรับห้องแบบ Pool Access (แตกต่างกันก็พื้นที่ส่วนระเบียงที่กว้างขวาง นั่งเล่นริมสระน้ำได้นี่แหละครับ) โครงการมีทั้งหมด 465 ยูนิต จัดมาเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบเซ็ต ครบถ้วนในฟังก์ชั่นการใช้งานเรียบร้อย และพร้อมเข้าอยู่ต้นปีหน้านี้แล้วครับ เมื่อดูจากทำเลแล้วก็ค่อนข้างเหมาะกับทั้งกลุ่มนิสิตผู้ปกครองที่หาที่อยู่อาศัยที่ดี ไว้ใจได้ใกล้มหาวิทยาลัย หรือคนทำงานในโซนนี้ ไม่ว่าจะเป็น Thai Oil, Exon, นิคมแหลมฉบัง, นิคมปิ่นทอง ฯลฯ ส่วนถ้าใครอยากลงทุนก็เป็นงบประมาณที่ไม่มาก แต่งครบ เริ่มต้นเพียง 1.79 ล้านบาท หรือเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 75,000 บาท/ตร.ม. ครับ
เอาล่ะ พูดมาก็ยาวแล้ว เดี๋ยวเข้าไปชมรูปสวยๆ เพื่อความบันเทิงใจไปกับเราดีกว่า ส่วนแฟนเพจที่สนใจโครงการก็คลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษกันได้ที่นี่เช่นเคย >>> http://siri.ly/p0QvtHA แถมตอนนี้เค้าก็มีโปรโมชั่นพิเศษทั้งฟรีโอน ฟรีค่าส่วนกลาง ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกด้วยครับ เท่านั้นยังไม่พอนะ ถ้าใครสนใจอยากไปดูโครงการจริงๆ แจ้งชื่อมาทาง inbox ได้ ถ้าจำนวนมากพอเดี๋ยวเราจัดทริป Exclusive พาไปชม ไปชิม ไปช้อป ดูสิ่งที่น่าสนใจแถวนั้นแบบ 1 Day Trip กันไปเลยครับ หรือถ้าใครสะดวกวันที่ 13-15 ธ.ค.62 เชิญร่วมงาน EXCLUSIVE PREVIEW มีกิจกรรมมากมาย และ ลุ้น-รับ-จับ-แจก* ตลอดทั้ง 3 วันเลยครับ
ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูรูปกันได้เลยครับ!
#LivingSneakPeek #DcondoBlissSriracha #Sansiri
อ่านข้อมูลและทำความรู้จักโครงการกันไปพอสมควรแล้ว เพื่อให้ได้อรรถรสมากขึ้น ตามเข้ามาดูภาพประกอบกันต่อดีกว่าครับ จะได้เห็นชัด ๆ ไปเลยว่าโครงการน่าอยู่ขนาดไหน แล้วที่พูดว่าอยู่แล้วฟิน เหมือนได้ซบอิงไหล่เขาจากธรรมชาติที่แท้จริงมันเป็นยังไง คลิกภาพต่อไปกันได้เลย
ประเดิมด้วยภาพวิวสวยๆ จากห้อง Pool Access ก่อนเลย ใครที่อยากเปิดประตูแล้วเอาเท้าจุ่มน้ำ ตามองวิวทิวทัศน์ ต้นไม้ ภูเขา แล้วฟังเพลงเบาๆ จาก Ed Sheeran ต้องไม่พ้นห้อง Type นี้ครับ
ห้องตัวอย่างที่จะพาไปแอบดูวันนี้เป็นห้องแบบ Studio ขนาด 26.5 ตารางเมตร ที่ทางโครงการเค้าตกแต่งมาให้ดูเป็นตัวอย่าง 2 แบบ 2 สไตล์ แต่อยู่สบายเหมือนกันทั้งคู่ครับ
เริ่มกันที่ห้องแรกมาในโทนสีเข้ม โดยเค้าใช้สีน้ำเงินมาเป็นพระเอกหลักในการสื่อความหมายของห้องๆ นี้ แสดงให้เห็นถึงความสุขุม มั่นคง สงบ เยือกเย็น ของผู้อยู่อาศัย แฝงไปด้วยความผ่อนคลายตรงที่ประตู หน้าต่างบานใหญ่ สามารถเปิดให้โล่งกว้าง เพื่อให้แสงเข้าห้องมาได้เต็มที่ พร้อมสีเขียวจากธรรมชาติที่อยู่ด้านนอกสอดแทรกเข้ามา ทำให้ห้องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น
โครงการจัดให้แบบ Fully-Furnished เลยครับ ซึ่งก็จะช่วยลดเวลาที่จะต้องมานั่งวาดภาพ ออกแบบกันให้หัวหมุน ว่าจะต่อโต๊ะ ตู้ เตียง ไว้ตรงไหนทิศไหน เหลือแค่เตรียมอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ แล้วก็จิตใจที่เบิกบาน มาเข้าอยู่ที่นี่ได้เลย
เริ่มต้นกันที่ห้องน้ำ มีอ่างล้างหน้า ล้างมือ พร้อมพื้นที่สำหรับวางขวดสบู่ น้ำยาล้างมือ แคคตัสต้นเล็กๆ เรียกความสดชื่น หรือเทียนหอมสร้างบรรยากาศในการอาบน้ำที่ดีขณะใช้งานให้เรียบร้อย โดยชุดสุขภัณฑ์ที่ให้เป็นของ American Standard ครับ ถัดเข้าไปในส่วนอาบน้ำก็ติดตั้งฉากกั้นแบบบานสไลด์ 2 ตอนไว้ให้เรียบร้อย พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้อง แต่เพิ่มความน่าสนใจด้วยการใช้ผนังเป็นลายแบบ 3D ทำให้ดูมีลูกเล่นและไม่เรียบจนเกินไป
อีกฝั่งนึงเป็นส่วนครัว ที่ใช้พื้นกระเบื้องเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด มีชุดครัวทั้งเคาน์เตอร์และตู้เก็บของด้านบนบิวท์อินมาให้เรียบร้อย หน้าบานเป็นโทนสีไม้ Top หินสังเคราะห์ ซิงค์ล้างจานจาก MEX …ส่วนใครคาดว่าจะได้ทำอาหารบ่อยหน่อยก็สามารถติดตั้งเตาไฟฟ้าหรือฮูดดูดควันเพิ่มได้ครับ แต่สมัยนี้มันง่ายครับ ทำอาหารผ่านหม้อไฟฟ้า หรือกระทะไฟฟ้าแค่เครื่องเดียว ก็ได้เมนูแสนอร่อยมาทานกันแล้วเนอะ อ้อ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าช่วงแรกนี้เค้าจัดโปรฯ แถมเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้นเราก็จะได้ TV ตู้เย็นและไมโครเวฟเรียบร้อยเลยนะคร้าบ
ในส่วนถัดมาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าว พร้อมเก้าอี้ 2 ที่นั่ง ชุดนี้โครงการให้มาแล้วเช่นกัน วันไหนต้องการโต๊ะทำงาน ก็ลองปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นที่อ่านหนังสือ วาดรูป เขียนรายงาน ทำ Thesis ส่งอาจารย์ได้ครับ
เป็นเหตุผลว่าทำไมครัวไม่ต้องใหญ่ ไม่ต้องทำประตูปิดกั้นอะไรใด ๆ เพราะเค้าต้องการให้ลูกบ้านได้ใช้พื้นที่พักอาศัยตรงนี้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือส่วนพักผ่อน… เพดานสูง 2.5 เมตร ส่วนนอนเล่น นั่งเล่น นั่งจริง หรือนอนจริง ติดกับหน้าต่างทั้งนั้น ทำให้ความโปร่ง โล่ง และ แสง ผสมผสานกันช่วยให้ห้องดูน่าอยู่ ไม่อึดอัดเลยครับ
โต๊ะกลางสมัยนี้ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้โต๊ะเล็กๆ ไว้คอยก้มหยิบ เอื้อมไปวางแก้วน้ำ แก้วกาแฟอย่างเดียว เลือกใช้เป็นโต๊ะที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานอเนกประสงค์หน่อย เลื่อนมาเขียนหนังสือก็ได้ วางของตกแต่งก็ดี หรือขยับหลบไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องเพิ่มขึ้นก็ได้ทั้งนั้นครับ
ชั้นวางของบิทว์อินไว้ให้เรียบร้อย จะได้มีพื้นที่เอาไว้เก็บหนังสือ วางรูปรับปริญญาสวยๆ หรือตั้งโชว์ใบประกาศที่เพิ่งได้ไปอบรมมาได้เลย
ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต, โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้, ตู้เสื้อผ้า โครงการให้มาครบหมดแล้ว ขาดก็แค่ฟูก เดินไปลองนอน ลองนั่งในห้างรอได้เลยครับ เจอชิ้นไหนถูกใจก็จัดไป แล้วยกมาใส่ห้องนี้ เป็นอันว่าจบ หลับสบายกันไปตลอดคืน
ระเบียงกว้างมากมาย ใช้งานได้จริงแน่นอน ดูได้จากที่เค้าเอาเก้าอี้ และกระถางต้นไม้มาตั้งไว้ให้ดูว่า พื้นที่ตรงนี้ไม่ต้องทิ้งไว้ให้ฝุ่นเกาะ หรือเสียไปเปล่าๆ ออกมานั่งรับลม ชมภูเขา ดูเต่าทองเดินตามกันต้วมเตี้ยมบนยอดกิ่งไม้ได้เลยทุกวัน คอมฯ แอร์เค้ายกขึ้นไปไว้ด้านบนเรียบร้อย ไม่ร้อนขา ไม่เกะกะทางเดินเมื่อเราออกมาอยู่ตรงระเบียงแน่นอนครับ
Digital Door Lock ประตูคู่ใจที่ทุกห้องต้องมีเพื่อความปลอดภัย สามารถใช้ได้ 3 ระบบ ทั้ง Key Card, Password และ กุญแจ
เราเดินมาดูห้องที่ตกแต่งอีกแบบว่าจะเป็นยังไงบ้าง
ชั้นรองเท้าตรงนี้ก็ให้มาด้วยนะฮะ
กลับบ้านมาเหนื่อยๆ วางแก้วชานมไข่มุก ถุงกับข้าว แขวนกุญแจอะไรให้เรียบร้อย แล้วก็เปิดตู้ เก็บวางรองเท้าให้เป็นระเบียบได้สะดวกนะ
จากนั้นก็ล้างไม้ล้างมือให้สะอาด พร้อมทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย
ก่อนจะเดินไปคว้าถุงกุ้งอบวุ้นเส้นที่เพิ่งซื้อมาร้อนๆ ตรงด้านหลัง ม. เอาไปจัดแจงใส่จานให้เรียบร้อย พร้อมเสิร์ฟสำหรับเย็นนี้
โต๊ะทานข้าวได้เช่นเดียวกับห้องแรกครับ จัดวางอาหารให้พร้อมแล้วโซโล่ให้เต็มที่ เพื่อเพิ่มพลังสำหรับค่ำคืนอันแสนยาวนานคืนนี้ เพราะท่าทางจะต้องนอนดูซีรีย์ VAGABOND จนถึงเช้าแน่ๆ
ติดราวแขวนกระเป๋า แขวนผ้าเพิ่มตรงนี้เหมือนห้องตัวอย่างก็ดีเหมือนกันนะครับ จะได้ไม่ต้องปล่อยไว้โล่งๆ แถมใช้งานได้สะดวกด้วย
ห้องนี้เลือกใช้สีโทนอ่อนในการตกแต่ง ทำให้ห้องดูอบอุ่น นุ่มนวล ชวนตื่นสายเลยครับ ฮ่าๆ แถมโซฟาที่เค้าให้มาเนี่ย สามารถปรับเอนได้ด้วยนะ เรียกได้ว่าวันไหนมีเพื่อนมาหา หรือมีใครมาเยี่ยมเยียนก็สามารถเพิ่มที่นอนได้อีกที่สองที่เลย
ระยะดูทีวีถ้าชอบไกลกว่านี้ก็ลื่นถอยออกไปได้อีกครับ พื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างยืดหยุ่นตามการใช้งาน
เช่นเคยเตียงนอนขนาด 5 ฟุต วางไว้ใกล้กับระเบียง โดยมีพื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือๆ พอให้ได้ใช้งาน ได้เดินช้าๆ เปลี่ยนอิริยาบถ หรือแม้แต่ตอนปูที่นอนก็จะสะดวกมากๆ เพราะจัดการได้รอบทิศเลยทีเดียวฮะ
ตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดาน สามารถใส่เดรสตัวยาว หรือโค้ทตัวหนาที่เตรียมไว้ไปโต้ลมหนาวที่โตเกียวสิ้นปีนี้ได้เลย
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจและสามารถใช้ประโยชน์ได้ดี คือ ลิ้นชักใต้เตียงครับ เนื่องจากฐานเตียงเนี่ยเค้าให้มาแล้วแบบนี้เลย เพราะงั้นก็ไม่ต้องห่วงว่าจะหาที่เก็บของยาก ห้องรก เก็บเท่าไหร่ก็ไม่เป็นระเบียบ เปิดปุ๊บจับใส่ไปเลยได้จุๆ
เข้าไปดูในห้องกันแบบทะลุปรุโปร่งแล้ว คราวนี้ออกมาดูรอบๆ โครงการพร้อมพื้นที่ส่วนกลางดูบ้าง… ลิฟต์โดยสารมีให้ใช้ 2 ตัวในแต่ละอาคารครับ
Mail Box จะอยู่บริเวณโถงทางเดินก่อนจะเดินเข้าไปด้านในห้องพักอาศัย พร้อมมีห้องน้ำชาย/หญิงให้ใช้ในบริเวณเดียวกันครับ
ในส่วนของ Lobby เป็นแบบ Double Volume ซึ่งก็จะสูงโปร่งเอามากๆ ล้อมรอบไปด้วยกระจกทำให้คนด้านในสามารถมองเห็นวิวสีเขียวของธรรมชาติด้านนอกได้อย่างสบายตา
ก่อนจะเดินเข้ามาในพื้นที่ส่วนกลาง จะมี Gate เล็กๆ กั้นอยู่ก่อนครับ ตรงนี้ต้องใช้ Key Card ในการ Access เข้าก่อนด้วยนะ ช่วยคัดกรองคนที่เดินผ่านไปผ่านมา มั่นใจได้ ว่าข้างในนี้มีแต่เพื่อนบ้านเราจริงๆ
โครงการเน้นความร่มรื่น สร้างอารมณ์ของการอยู่อาศัยให้กลมกลืนและเข้ากับธรรมชาติมากที่สุด โดยมีการเล่นระดับของพื้นที่ ไล่สูงขึ้นไปจากอาคาร A ไป B ตามลำดับ มีการทำเป็นเนิน ส่วนโค้ง ส่วนเว้า ให้เสมือนอยู่เนินเขา แถมยังมีพื้นที่ Pavilion ให้ลูกบ้านได้ออกมาเดินชมสวน นั่งพักผ่อน นั่งชิลล์กันด้านนอกอีกด้วยครับ (ปล.อีกหน่อยต้นไม้ก็จะขึ้นเขียวชอุ่มกว่านี้อีกนะครับ คนที่อยู่ชั้น 1 ก็หมดกังวลว่าจะได้เห็นแต่วิวกำแพงแน่นๆ จากห้องตัวเองเลย
มาต่อกันที่ Club House บนพื้นที่ 1 ไร่ ด้านในกันบ้าง
อย่ารอช้าเข้าไปดู Co-Living Space ด้านในกันดีกว่าครับ
โอ้! ห้องนี้ทำมาดี น่าใช้งานทีเดียวเลยครับ โครงการใช้สีขาวให้ดูเรียบหรู ตัดกับสีส้มที่เป็นบ่งบอกถึงความเป็น dcondo ได้อย่างชัดเจน มีมุมให้นั่งทำงานแบบส่วนตัวๆ และมุมนั่งพูดคุย ติวหนังสือกันแบบเป็นกลุ่มด้วย
พร้อมมี Mini Bar ให้ลูกค้าสามารถเตรียมน้ำผลไม้ น้ำดื่มต่างๆ มาทานได้ระหว่างคุยงาน มีตู้เย็นเล็กไว้ให้ใช้งาน พร้อมเคาน์เตอร์สำหรับตระเตรียมขนม นม เนยไว้เป็นอาหารว่างระหว่างทำงานได้ครับ
ห้องกว้างนั่งสบาย มีโซฟาเตรียมไว้ให้หลายที่นั่ง แถมยังล้อมรอบด้วยกระจกใส ให้ผู้ใช้งานได้เอาไว้พักสายตา หรือเปลี่ยนมุมมองระหว่าง จะได้ช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้นครับ
มองเห็นวิวสระน้ำสวยๆ ได้ด้วย
บริเวณ Outdoor ก็มีพื้นที่นั่งพักผ่อนเช่นกัน เหมาะมากสำหรับวันที่อากาศเย็นสบายๆ ในช่วงต้นเดือนธันวาบ้านเรานี้
บริเวณด้านบนก็มีดีไซน์โปร่ง ที่โดดเด่นด้วยเส้นสายให้เราไว้ถ่ายรูป นั่งมองเพลินๆ ได้
ที่นั่งด้านบนก็เป็นลักษณะ Outdoor Terrace นะครับ รับลมสบายๆ เห็นวิวภูเขาใกล้เคียงด้วย
มีฟิตเนสให้ใช้งานบริเวณด้านใน ชมได้วิวทั้ง 2 ข้าง
สระว่ายน้ำระบบเกลือที่นี่มีความยาว 45 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อม Jacuzzi ไว้ให้ครับ ว่ายออกกำลังกายกันได้ เช้าๆ ก็มาว่ายเพิ่มพลัง ค่ำๆ ก็มานอนลอยตัวดูดาวได้เลย
นั่งแช่จากุซซี่ในมุมสบายๆ ก็ฟินดี
มาถึงอีกหนึ่งจุด High Light ของที่นี่ คือห้อง Pool Access ขนาด 29 ตารางเมตร พื้นที่ภายในห้องก็เหมือนกับห้องอื่นๆ นะ ที่แตกต่างคือส่วนบริเวณระเบียงครับ เราหยิบเอา Layout มาให้ดูกันก่อนจะได้พอเห็นภาพครับ
ส่วนวิวที่ได้ก็ต้องนี่เลย ทั้งสระ ทั้งสวน เมฆ หมอก ท้องฟ้า อยู่ห้องนี้มองเห็นครบ ที่สำคัญ …
“เมื่อเธอทุกข์ใจให้ลองเอาเท้าจุ่มน้ำ ปล่อยความทุกข์ลอยไปกับสระน้ำและท้องฟ้าสีคราม…” เปิดเพลงเพราะๆ เคล้าคลอ แล้วค่อยๆ เดินลงน้ำไปได้เลยครับ เท่สุดๆ บอกเลยถ่ายรูปมุมนี้ลงโซเซียลไป เพื่อนไม่เชื่อว่าอยู่คอนโดแน่นอน คิดว่าหนีไปเที่ยวรีสอร์ทแถวเขาใหญ่แน่ๆ
สุดท้ายแล้วคนเราอาจจะไม่ได้ต้องการอะไรมาก ขอแค่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ที่เริ่มต้นจากที่พักอาศัยที่น่าอยู่ สะดวกสบายในการใช้งาน มาพร้อมความปลอดภัย เคียงคู่ความใส่ใจจากเจ้าของโครงการ จริงมั้ยครับ
ผมได้แนบแผนที่โครงการมาไว้ให้ตามนี้เลย เผื่อใครสนใจอยากจะแวะเวียนเข้าไปชมห้องตัวอย่าง และเห็นภาพว่าโดยรอบโครงการมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง อย่างที่บอกว่าด้านบนบริเวณ Robinson นั้นจะเป็นโซนที่คึกคักเป็น ย่าน ช็อปปิ้งหลักแถบนี้ครับมีทั้ง Max Value, ตึกคอม และเจปาร์คที่อยู่ถัดไปทางมอเตอร์เวย์ที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์ญี่ปุ่นเลย ส่วนด้านล่างก็จะเป็นโซนอุตสาหกรรมและแหล่งงานที่สำคัญของที่นี่ ตัวโครงการนั้นถือว่าอยู่บริเวณโซนตรงกลางระหว่างทั้งสองส่วนที่ว่าครับ โดยมี ม.เกษตรฯ อยู่ข้างๆ กันเลย
และทั้งหมดนี้ก็คือ ภาพรวมโครงการ dcondo Bliss Sriracha ที่ Living Sneak Peek พามาชมกันในวันนี้ครับ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้การออกแบบและสิ่งอำนวยความสะดวกก็คือเรื่องของความปลอดภัยนี่แหละ โครงการนี้ก็ได้รับการดูแลด้าน Security แบบไม่มีวันหยุด ด้วยระบบ LIV 24 จากแสนสิริ ที่เป็นการผสานการดูแลจากที่ตัวโครงการ และจากศูนย์ควบคุมที่ส่วนกลางที่จะคอยสอดส่องดูแลให้ผู้อยู่อาศัยได้อุ่นใจแบบ 24 ชั่วโมงอีกด้วยครับ ใครที่สนใจก็เข้าไปที่โครงการได้ทุกวันเลยนะครับ อ้อ แล้วอย่าลืมลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการกันได้ที่นี่ครับ >> http://siri.ly/p0QvtHA