จังหวัดอะไรเอ่ย อยู่ติดกรุงเทพแต่ไม่ใช่ปริมณฑล มีผู้คนทำงานในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง นามแฝงคือเมืองแปดริ้ว มีร้านนั่งชิลล์ริมแม่น้ำบางปะกง จุดแวะลงสักการะหลวงพ่อโสธร ที่ตั้งของโรงเรียนสมัยละอ่อนของอั้ม พัชราภา ติ๊กต่อกๆ ผมว่าทุกคนคงใช้เวลาคิดไม่นานใช่มั้ยครับ เพราะเมื่ออ่านถึงคำว่า “แปดริ้ว” ก็น่าจะตอบกันได้ว่า ผมหมายถึงจังหวัด “ฉะเชิงเทรา” นั่นเอง และนี่คือหมุดหมายที่สามของผมในทริป #อภิทาวน์ทั่วไทย x เชฟกะปอม ครับ
ผมขับรถมุ่งหน้าสู่ประตูแห่งภาคตะวันออก ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเศษก็ถึงโครงการ “อภิทาวน์ ฉะเชิงเทรา” เพื่อตามมาดูบ้านที่ AP Thailand บอกว่าอยู่ใกล้กับโรบินสันไลฟ์สไตล์ ศูนย์รวมความบันเทิงของชาวฉะเชิงเทราที่สุด ซึ่งก็ดูแล้วจริงอย่างที่ว่า เพราะนี่เป็นโครงการบ้านที่อยู่ติดถนนใหญ่สาย 314 ฉะเชิงเทรา – บางปะกง หรือ ถ.สิริโสธร เพียงโครงการเดียวก่อนจะผ่านไทวัสดุและถึงโรบินสันในระยะแค่ราว 700 ม. สะดวกมาก
ตำแหน่งที่ตั้งโครงการนี้ ผมว่าเหมาะสำหรับคนทำงานไม่ว่าจะในโรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ หรือนิคม TFD ที่อยากจะใช้เวลาช่วงว่างอยู่ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ มากกว่าอยู่ชิดติดกับที่ทำงานนะ ใกล้แหล่งช้อปปิ้งทั้งไทวัสดุ โรบินสัน บิ๊กซี โฮมโปร ซึ่งอยู่บนถนนเส้นเดียวกันจากหน้าโครงการทั้งหมด หรือจะไปวัดโสธรวรารามวรวิหารก็ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที มีโรงเรียน และโรงพยาบาลอยู่ในระยะเดินทางง่าย เห็นพ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นคนทำงานโซนนี้มาซื้อบ้านที่นี่ก็เพราะส่งลูกๆ ไปเรียนอินเตอร์ทอทส์ก็มีครับ
เมื่อเข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายในโครงการ ก็เป็นบ้านคุณภาพครบครัน ตามมาตรฐานของอภิทาวน์ คือความสงบเป็นระเบียบเรียบร้อย ถนนหลักของโครงการกว้างมาก มี Facilities ให้ใช้งานในคลับเฮาส์ทั้งสระว่ายน้ำ และฟิตเนสที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จากความเข้าใจคนทำงานเป็นกะ ไม่ว่าจะกลับบ้านเวลาไหนก็มาออกกำลังกายได้ มีพื้นที่สีเขียวสร้างความร่มรื่น รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ไว้ใจได้ ควบคู่กับ KATSAN เทคโนโลยีเฉพาะของ AP ผมรู้สึกแบบนี้นะ ไม่ว่าเราจะอยู่จังหวัดไหน ถ้าอยากได้ที่อยู่อาศัยมาตรฐานแบบเดียวกับที่กรุงเทพฯ อภิทาวน์ให้สิ่งนั้นได้ครับ
โครงการอภิทาวน์ ฉะเชิงเทราเป็นโครงการแบบ Mixed Product มีทั้งทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว ถ้าเป็น Junior หน่อยเพิ่งทำงานไม่นาน เลือกดูทาวน์โฮมก็จะราคาเป็นมิตรมาก ราคาใกล้เคียงกับคอนโด 2 Bedroom แต่อันนี้ได้บ้านพร้อมความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก และสังคมคุณภาพ เริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้าน ส่วนบ้านที่ขนาดใหญ่ขึ้นไปหน่อยก็จะขึ้นอยู่กับความจำเป็นในชีวิตของแต่ละครอบครัว ถ้ามีลูกน้อย หรืออยากได้พื้นที่ มีเลี้ยงสัตว์ด้วย บ้านใหญ่ก็อยู่สบายมากขึ้นครับ
ผมสรุป Product ของที่นี่ให้อ่านกันสักนิด โครงการมีทั้งหมด 448 ยูนิต แบ่งเป็น 4 รูปแบบบ้านให้เลือก ได้แก่
- แบบ LYN เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. ตั้งอยู่บนที่ดินเริ่มต้น 16.5 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอย 93 ตร.ม. แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แค่บ้านเริ่มต้นก็จอดรถได้ 2 คันหายห่วงแล้วครับ บ้านแบบนี้ชั้นล่างก็จะเป็น Living Area ขนาดใหญ่แบบ Open Plan รวมฟังก์ชันของส่วนนั่งเล่น, ส่วนทานอาหาร ครัว พร้อมห้องน้ำ และด้านบนก็มีอีก 2 ห้องนอนครับ ราคาเริ่ม 1.99 ล้าน เรียกว่าสูสีกับคอนโด 2 Bedroom เลยครับ น่าจะตัดสินใจไม่ยาก
- แบบ LINA เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดินใหญ่ขึ้นเป็น 18 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 107 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน ความแตกต่างคือจะมีพื้นที่ชั้นล่างที่กว้างขึ้น ส่วนด้านบนก็มีห้องนอนเพิ่มขึ้นมาอีกห้อง ส่วนห้องนอนหลักมีพื้นที่ทำมุม Walk-in Closet ในตัวได้ นี่เป็นบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมหลังแรก ราคาเริ่ม 2.29 ล้าน
- แบบ JAYDEN เป็นบ้านแฝดหน้ากว้าง 9 ม. บนที่ดินเริ่มต้น 35.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 133 ตร.ม. แบบ 2 ห้องนอน 1 พื้นที่อเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ และจอดรถได้ 2 คัน บ้านนี้จะเป็นรูปแบบบ้านสไตล์ใหม่ ที่พอขึ้นไปชั้น 2 แล้วไม่ใช่มีแต่ห้องอย่างเดียว แต่เค้าแบ่งพื้นที่ส่วนนึงออกเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ จะเอาไว้เป็น Living Area ส่วนตัวชั้นบน หรือเป็นมุมทำงาน มุม Hobby จะเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ตามใจเรา ราคาเริ่ม 2.99 ล้าน
- แบบ AVID เป็นบ้านเดี่ยว พื้นที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ ตั้งอยู่บนที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.ว. รวมพื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน แน่นอนว่าพอเป็นบ้านเดี่ยวนี่คือพื้นที่ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ชั้นล่างได้สเปซกว้างขวาง โดยเฉพาะครัวไทยที่กั้นเป็นสัดส่วน ส่วนด้านบนก็ได้ถึง 3 ห้องนอน โดย Master Bedroom มีระเบียงและห้องน้ำส่วนตัวให้ด้วย เป็นบ้านตัวอย่างหลังที่สองที่เราพาชมเหมือนกันครับ
นอกจากตามมาดูโครงการสวยๆ ผมก็ไม่พลาดตามเชฟกะปอมมาชิมอาหารด้วย ซึ่งที่นี่เชฟได้ไปสัมผัสรสมือแม่สไตล์ครัวคนแปดริ้วที่อยู่กับสายน้ำและธรรมชาติ ได้ลงมือพายเรือเอง ตกปลาเอง เพื่อเอาวัตถุดิบมาปรุงกินกันในครัวที่เป็นเสมือนศูนย์รวมความอบอุ่นในบ้าน จนออกมาเป็นเมนูที่เราคุ้นเคย แต่วิธีการปรุงนั้นเหลือเชื่อมาก อยากรู้ว่าเป็นยังไงผมจะแปะคลิปไว้ให้ชมในคอมเมนต์นะครับ
และนี่ก็เป็นโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับทริปอภิทาวน์ทั่วไทย x เชฟกะปอม คราวหน้าเราจะไปปิดจ๊อบแบบฟินาเล่กันที่ภาคอีสานบ้านเกิดเชฟกะปอมกันที่ “อภิทาวน์ อุบลราชธานี” ติดตามได้ที่นี่เหมือนเดิมครับ
ส่วนใครสนใจอภิทาวน์ ฉะเชิงเทรา ก็คลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้เลยครับ >>> https://apth.ly/v3gh
วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมบ้านสวยๆ กันที่ “อภิทาวน์ ฉะเชิงเทรา” ที่เค้าใช้คอนเซปต์น่ารักๆ ว่า จุดศูนย์กลางความสุขของทุกคน รอบนี้ผมพาคนข้างๆ และน้องวิ้งกี้ลูกสาวสุดที่รักมาด้วยครับ
บ้านที่นี่ตกแต่งได้น่ารัก และก็เน้นให้ได้สัมผัสธรรมชาติเป็นอย่างดี เข้ามาก็รู้สึกถึงการได้พักผ่อนครับ
ส่วนอาหารรสมือเชฟที่ได้ Inspired มาจากรสมือแม่วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งของดีฉะเชิงเทราเป็นกุ้งแม่น้ำย่าง กินคู่กับน้ำพริกมันกุ้งและข้าวหมกน้ำมันกุ้ง เรียกว่าเหมือนได้ลงน้ำกินกุ้งกันเลยทีเดียว
ซึ่งเชฟได้เล่าให้ฟังว่า พื้นที่ของฉะเชิงเทรามีความผสมผสานระหว่างภาคกลางและภาคตะวันออก ใครเดินทางมาที่นี่ก็ต้องเรียกร้องหากุ้งแม่น้ำ เพราะความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำบางปะกง เลยเกิดเป็นเมนูนี้ขึ้นมาครับ
เอาล่ะครับได้เวลาชมโครงการ ขอเริ่มกันจากบรรยากาศหน้าโครงการกันสักหน่อย ซุ้มประตูทางเข้าสวยเด่นเป็นสง่า ส่วนถนนภายในโครงการก็กว้างขวางสะดวกมากครับ
บ้านแรกที่เราจะชวนไปดูคือแบบ LINA ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. บนที่เดินเริ่มต้น 18 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 107 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน ดูดีไซน์หน้าบ้านแล้วมีการเล่นสีสันเล็กน้อยให้ความรู้สึก Modern
เมื่อผ่านประตูบานเลื่อนเข้ามาด้านใน เค้าก็ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์มินิมอล ซึ่งผมก็ว่าเข้ากับพื้นที่ของตัวบ้านดี ทำให้ดูโปร่ง จะสังเกตเห็นว่าด้านหน้าและด้านหลังบ้านเป็นบานเลื่อนเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั้งสองทาง ถ้าเปิดคู่กันลมคงจะ Flow ดีน่าดู
ด้วยระยะลึกของบ้านก็จัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นฟังก์ชันต่างๆ ที่จำเป็นได้ครบเลยครับ ไล่ไปตั้งแต่โซฟาด้านหน้า มีมุมกินข้าว และก็เคาน์เตอร์ขนาดกะทัดรัดให้ใช้งานด้านหลัง
บันไดจะอยู่บริเวณด้านหน้าบ้านนี่แหละ ทีวีในบ้านนี้มีระยะห่างดีเลยนะครับใช้งานได้สบาย และก็มีห้องน้ำอยู่ตรงกลาง
เป็นห้องน้ำชั้นล่างที่ทั้งอาบทั้งเข้าส้วมได้ครบหมด ตำแหน่งบ้านนี้อยู่มุมก็จะมีช่องเปิดระบายอากาศได้ด้วย
ที่พิเศษคือ ชั้นล่างเค้ามีพื้นที่หลบมุมอยู่ตรงด้านหลังนี้ด้วย จริงๆ ใน Plan เป็นส่วนของครัวนะ แต่ถ้าเราไม่ได้ทำครัวมาก เราเอาตรงนี้เป็นเหมือนพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่าง จัดเป็นอย่างอื่นก็ได้ ก็ได้มุมทำงานกะพักผ่อนส่วนตัวด้านในอีกมุมนึง
ถ้ามองจาก 2 ฝั่งก็คือ เค้าย้ายไปทำเคาน์เตอร์ล้างจานฝั่งโต๊ะกินข้าวนั่นเองครับ ถ้าเราไม่ได้ทำอาหารกินเองจะทำแบบนี้ก็ได้ แต่ใครให้น้ำหนักกับการเข้าครัว ก็มีพื้นที่นี้ที่เค้าวางระบบไว้ให้แล้ว ทำครัวใหญ่ได้เลย
น้องวิ้งกี้มาสำรวจแล้ว ถูกใจค่า
ด้านหลังบ้านก็ออกผ่านทางบานเลื่อนนี้ได้เลยครับ
โซนด้านนอกก็มีพื้นที่ใช้งานได้ดีเลยนะ เค้าจะวางแทงค์น้ำไว้ตรงนี้ก็เป็นส่วนซักล้างนั่นเองครับ
เดี๋ยวเราไปดูชั้น 2 กันต่อครับ อ้อ ข้างๆ ทีวีนี่เป็นห้องเก็บของใต้บันไดนะ เค้าทำซ่อนไว้สวยงาม
จุดสำคัญของทาวน์โฮมก็คือ เรื่องของแสงธรรมชาติ เค้าทำช่องกระจกไว้บริเวณบันไปทั้งชั้นบนและชั้นล่างเลย
ด้านบนนี้มีอีก 3 ห้องครับ เห็นหลังแค่นี้ก็แบ่งห้องได้เยอะเลยนะ
ขอพาเข้าไปดูห้องส่วนตัวสำหรับเจ้าของบ้านกันก่อน น้องวิ้งกี้มารอเรียบร้อย
ตำแหน่งของห้องนอนจัดวางไว้บริเวณหน้าบ้าน พร้อมช่องแสงธรรมชาติเยอะเลย
ด้วยความเป็นบ้านแปลงมุม ก็จะได้ช่องกระจกบริเวณหัวเตียงอีก 2 ตำแหน่งคู่กัน พื้นที่ข้างเตียงยังเหลือสำหรับวาง Daybed ได้อีกนะ
และที่ซ่อนอยู่ตรนี้ก็คือมุม Walk-in Closet ครับ ซึ่งเราสามารถทำตามเค้าได้เลยด้วยการบิวท์อินผนังเบาพร้อมชั้นวางของขึ้นมากั้นเป็นสัดส่วน เก็บของได้เยอะเลยนะในนี้ น่าจะถูกใจสาวๆ
ส่วนอีกห้องนอน เค้าก็ลองปรับฟังก์ชันดูทำเป็นห้องทำงานก็เหมาะครับ พื้นที่นี้จะใช้เป็นอะไรก็แล้วแต่ความชอบเรา จะเอาไว้ทำเป็นห้องเกมรูม จัดโชว์ Art Toy ตามกระแสก็เหมาะอยู่น้า
อีกห้องเค้าจัดเป็นห้องหนูน้อยหวานแหวว พอวางเตียงขนาด 3 ฟุตสำหรับเด็ก ก็เติมฟังก์ชันโน่นนี่ลงไปได้อีก ก็ครบแล้วสำหรับบ้านหลังนี้นะครับ เหมาะสำหรับคนโสด หรือเพิ่งสร้างครอบครัวเตรียมพร้อมสำหรับเจ้าตัวเล็ก
ส่วนบ้านตัวอย่างอีกหลังต้องนี่เลย บ้าน Type ใหญ่ที่สุดของโครงการ เป็นบ้านเดี่ยวแบบ AVID บนที่ดินตั้งแต่ 50 ตร.ว. ขึ้นไป มีพื้นที่ใช้สอยรวม 160 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน ดูลักษณะดีไซน์บ้านแล้วจะเรียบขึ้นมาบ้าง สมวัย
สิ่งที่ผมชอบที่สุดสำหรับบ้านนี้คือ แสงธรรมชาติครับ กระจกเต็มไปหมดเลยไล่ไปตั้งแต่หน้าบ้าน ตลอดแนวด้านข้าง ถ้าเราจัดสวนสวยๆ เอาไว้ก็นั่งดูได้เพลินทุกตำแหน่ง
ประตูหลักทางหน้าบ้านก็เป็นกระจกเหมือนกัน นอกจากได้ชมธรรมชาติแล้ว ยังสว่างตอนกลางวันโดยไม่ต้องเปิดไฟเยอะ
บ้านสวยๆ แบบนี้หนูช้อบชอบ ถ้าพ่อมาทำงานฉะเชิงเทรา มาดาวน์ให้หนูสักหลังนะคะ วิ้งกี้กระซิบ พร้อมกระดิกหางดุ๊กดิ๊ก
จากส่วนนั่งเล่นหน้าบ้าน สู่ตำแหน่งโต๊ะกินข้าวกลางบ้าน ที่วางไว้หน้าบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดออกไปสู่สวนข้างบ้านได้ สวยเลยตรงนี้ อยากดูทีวีก็นั่งฝั่งนึง อยากชมสวนก็นั่งอีกฝั่ง
และส่วนด้านในสุดหลังบ้านก็ยังมี Space นะครับ เค้าทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์เอาไว้ชงชา ต้มกาแฟ เหมือนมีคาเฟ่ส่วนตัวในบ้าน คือ สเปซต่างๆ เหล่านี้เราจะจัดวางยังไงลองเลือกดูตามจริตตามความชอบเราเอง
บันไดอยู่กลางตัวบ้าน มีห้องน้ำชั้นล่างที่เห็นอยู่ด้านข้างบันได และมีห้องครัวไทยเป็นสัดส่วนอยู่ฝั่งขวามือครับ
ห้องน้ำชั้นล่างนี้เป็น Powder Room นะครับ เป็นเฉพาะส่วนของโถสุขภัณฑ์ และเค้าก็ยังไม่ลืมใส่บานเปิดระบายอากาศมาให้ด้วย
ครัวที่อยู่ข้างกันก็เชื่อมต่อออกไปสู่ด้านหลังบ้านได้ เปิดระบายอากาศได้ด้วย ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับทำอาหารได้สนุก เอาไว้แข่งกับเชฟกะปอม ฮ่าๆ
เดี๋ยวขึ้นไปชั้น 2 กันก่อนนะครับ ก่อนเดินขึ้นไปจะเห็นประตูอีกบานที่เชื่อมต่อจากส่วนจอดรถ ก็เข้าบ้านตรงนี้ตรงขึ้นสู่ชั้น 2 ได้เลย
คุณพ่อจะขึ้นไปคนเดียวไม่อุ้มหนูไปด้วยหรอคะ? วิ้งกี้กล่าวด้วยสายตาออดอ้อน แล้วผมจะทนไหวได้ยังไง
ตรงบันไดนี่ก็เป็นช่องแสงธรรมชาติมาให้ด้วย ตกแต่งได้น่ารักเข้ากับบ้านมาก ขึ้นมาด้านบนก็จะมีพื้นที่บริเวณโถงทางเดินใหญ่ขึ้นนะครับ บนนี้มี 3 ห้องนอนด้วยกัน ฝั่งด้านหลังบ้านมี 2 ห้องนอนที่แชร์ห้องน้ำร่วมกัน
ขนาดใหญ่ขึ้นใช้งานสะดวก ตกแต่งมีดีเทลล์สไตล์เดียวกัน
ส่วนฝั่งหน้าบ้านเป็นตำแหน่งของ Master Bedroom ที่กว้างขวางอยู่สบาย รายล้อมด้วยกระจก
แถมพื้นที่กลางห้องโล่งเลย นั่งเล่นกะลูกได้สบายในพื้นที่ส่วนตัวของเรา
ส่วนฝั่งปลายเตียงนี่ก็จัดวางได้ครบเลยครับ ตั้งตู้เสื้อผ้า และส่วนของโต๊ะแป้ง ที่มีมุมแสงธรรมชาติมาช่วยแต่งหน้าได้พอดี เพอร์เฟกต์ มีระเบียงส่วนตัวมาให้ด้วย
ได้ออกมาสูดอากาศแบบนี้ วิ้งกี้กดไลค์เลยค่า ขออภัยที่มองไม่ออก นิ้วหนูมันติดกัน
อีกฟากนึงที่เป็นโซนด้านหลังก็มีห้องนอนอีก 2 ห้อง ห้องแรกนี้เค้าจัดทำเป็นไว้เป็นห้องเอนเตอร์เทนเหมือนมีโรงหนังส่วนตัว กระจกเยอะดีอีกและชอบ
ส่วนอีกห้องนึงเค้าทำไว้เป็นห้องเด็กน้อย ซึ่งวันนี้เรามีเด็กน้อยขนฟูอายุ 8 เดือนเป็นนางแบบจำเป็น
พื้นที่กว้างขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เป็นแค่ห้องนอน แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งจินตนาการ การเรียนรู้สำหรับเจ้าตัวเล็กของเราได้อีกด้วย
นี่เผลอๆ ใส่ตู้เสื้อผ้าได้พอๆ กะห้องพ่อแม่เลยนะเนี่ย เอาละครับแล้วเราก็พาดูบ้านตัวอย่างครบทั้งสองหลังเรียบร้อย
ก่อนกลับจะแวะพาไปโซนคลับเฮาส์สักนิด ที่นี่ฟิตเนสเปิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับสระว่ายน้ำใหญ่เบิ้ม
มุมนี้สวยพอดีขอเก็บไว้หนึ่งแชะ
ใหญ่เบ้อเร่อเลยครับ มีสระดีๆ แบบนี้ก็ไม่ต้องไปหาว่ายที่ไหนแล้วแหละ อยู่ในบ้านเราเองก็พอ
และทั้งหมดนี้ก็คือจุดศูนย์กลางความสุขของทุกคนที่อภิทาวน์ ฉะเชิงเทรา ไม่ว่าบ้านจะเล็กหรือใหญ่ ผมว่าเราเลือกให้เหมาะกับชีวิตก็พอ เพราะความสุขนั้นเราสามารถสร้างขึ้นมาได้ เมื่อได้อยู่ในบ้านที่ออกแบบมาอย่างดีและมีความปลอดภัย ซึ่งมาตรฐานนี้เลือกได้จากบ้าน “อภิทาวน์” ครับ