AIRI Sukhumvit-Bangna KM.5 บ้านเดี่ยวพร้อม Courtyard (Inner Garden) ส่วนตัวเพียง 40 ยูนิต

ถ้าลองนึกว่าอยากจะหาบ้านเดี่ยวที่ได้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่ มีอะไรที่ต้องการบ้างครับ แน่ละ ทำเลจะต้องสุด แบบเพียบพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งเดินทางง่าย, ดีไซน์ก็ต้องสวย ไม่เหมือนใครยิ่งดี, แต่ก็อยากมีบรรยากาศสงบๆ เป็นส่วนตัว รวมทั้งต้องมั่นใจได้ในคุณภาพและการบริการ วันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูบ้านที่เค้าพัฒนามาเพื่อรองรับความต้องการทั้งหมดนี้ที่ ​ AIRI Sukhumvit-Bangna KM.5 บ้านเดี่ยวหรู โครงการใหม่จาก Ananda Development ครับ

​ก่อนอื่นคงต้องพูดเรื่องทำเลเป็นอันดับแรก “บางนา” นี้มีแต่การเติบโต และมีองค์ประกอบเพื่อการอยู่อาศัยครบถ้วน อย่างเรื่องการเดินทางที่มีทั้งถนนสายหลักสำคัญหลายสายเชื่อมต่อถึงกันได้ไม่ว่าจะเป็น ถ.บางนา-ตราด, ถ.ศรีนครินทร์, ถ.สุขุมวิท, ถ.กาญจนาภิเษก มีทั้งทางด่วนบูรพาวิถี มีทั้งรถไฟฟ้าวิ่งคู่ขนานกัน 2 สายทั้งสายสีเขียวบน ถ.สุขุมวิท และสายสีเหลืองบน ถ.ศรีนครินทร์ มี Mega Project ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่าง Bangkok Mall, Mega Bangna มีห้างและคอมมูนิตี้มอลล์เรียงรายทั้งเซ็นทรัลบางนา, Big C, Index, Little Walk, Chic Republic มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่อยู่ใกล้มือ และยังเต็มไปด้วย รร.ชาติเพียบ แล้วโครงการนี้ก็ตั้งอยู่ในซอยบางนา-ตราด 37 แบบใกล้ชิดกับ รร.นานาชาติ 2 แห่ง ทั้ง รร. ICS และ Raffles American School เป็นพิกัดที่กำลังดี เดินทางไปยังสิ่งต่างๆ ในย่านบางนาได้แบบสะดวกโยธิน

​ลองนึกภาพง่ายๆ ว่า ตื่นเช้ามาเราสามารถไปส่งลูกเรียนได้ภายใน 1-2 นาที แบบไม่ต้องคิดเรื่องการเดินทางเลย อยากจะไปรถไฟฟ้า (สถานีศรีเอี่ยม) อยากไปหาหมอที่ รพ.สินแพทย์ อยากไปเดินเล่นให้ชุ่มปอดในสวนหลวง ร.9 หรือในวันหยุดอยากพาครอบครัวไปหาของกินที่เมกาบางนาทั้งหมดนี้อยู่ในระยะเดินทางช่วงรถไม่ติดราว 10 นาที แล้วพอมีวัน Holiday สวยๆ ทั้งที อยากจะบินไปเที่ยวให้หนำใจก็ไปสนามบินสุวรรณภูมิได้สบายในระยะครึ่งชม นี่มันเป็นทำเลชัยภูมิที่เราสามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้จริงๆ

​AIRI สุขุมวิท – บางนา กม. 5 เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทางอนันดา หมายมั่นปั้นมือเพื่อเป็นอีกหนึ่ง Milestone สำคัญในการปักธงตลาด Luxury Home ของตัวเอง เป็นบ้านเดี่ยวที่ดีไซน์ใหม่หมด โดยใช้คอนเซปต์สำคัญ 2 เรื่อง คือ สวยเด่นไม่เหมือนใครแต่อยู่ได้นาน และฟังก์ชันบ้านครบครันอยู่สบาย สไตล์การออกแบบที่นี่ดูแล้วไม่มีเบื่อแบบ Timeless เป็นการผสมผสานความโดดเด่นของ 2 ยุคสมัย ไม่ว่าจะอยากได้ความคลาสสิค หรือโมเดิร์นก็ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว เมื่อรวมกับ Façade ที่มีมิติลูกเล่นด้วยวัสดุโลหะดัดโค้งก็ยิ่งทำให้บ้านโดดเด่น ส่วนเรื่องฟังก์ชันเค้าเน้นตัวบ้านใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ เพราะให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่รองรับการอยู่พร้อมหน้าหลายเจเนอเรชั่น สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ และยังใกล้ชิดกับธรรมชาติ ที่สำคัญมีเอกสิทธิ์ส่วนตัวเพียง 40 ครอบครัวเท่านั้นครับ

​โดยสิ่งอำนวยความสะดวกในส่วนกลางนี้จะเห็นได้ตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ เมื่อขับผ่าน Main Gate อลังการลูกบ้านก็เข้าออกได้สะดวกด้วยระบบตรวจจับป้ายทะเบียน ส่วนแขกของลูกบ้านก็มีระบบ VDO Door Phone ที่เอาไว้พูดคุยกับลูกบ้านเพื่อขออนุญาตเข้าพื้นที่ได้โดยตรง ด้านในจะมีอาคารคลับเฮ้าส์ สีสันสวยเด่นด้วยสีเขียว Jade Green ซึ่งมีทั้ง Lobby Lounge ห้อง Kid’s Room, สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก, Fitness และสวนสีเขียวหลักที่อยู่ถัดไปในบริเวณใจกลางพื้นที่โครงการ

​โครงการนี้มีแบบบ้านให้เลือก 2 Type ครับ ซึ่งเค้าทำเป็น Show Unit ทั้งคู่ ได้แก่

  • ​แบบ Maroon เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดินเริ่มต้น 61.1 ตร.ว. รวมพื้นที่ใช้สอย 322 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน และจอดรถได้ 3 คัน จุดเด่นของบ้านคือการออกแบบพื้นที่ Terrace ให้พักผ่อนแบบใกล้ชิดกับสวน มีห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างที่มีพื้น Soft Floor ลดแรงกระแทกพร้อมห้องน้ำในตัว แม่บ้านสามารถเข้า Service ทางครัวหลังบ้านได้เลยโดยตรง ส่วนห้องนอน Grand Master Bedroom กว้างขวางมาก ได้ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ และระเบียงบนชั้น 2 ที่เชื่อมโยงต่อเนื่อง 2 ห้องนอนเกือบตลอดแนวกว้างของตัวบ้านสามารถ Take View ได้แบบ Panopramic View
  • แบบ Lapis เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดินเริ่มต้น 73.8 ตร.ว. รวมพื้นที่ใช้สอย 369 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คัน จุดเด่นของบ้านนี้คือมี 360 ° Courtyard (Inner Garden) กลางบ้านที่เป็นจุดศูนย์รวมของทั้ง 2 ชั้นให้เชื่อมต่อเข้ากับธรรมชาติภายนอกได้ มีกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่รองรับแสงธรรมชาติได้ในส่วน Dining Area ที่เด่นมาก Wide Frame Window ที่เป็นหน้าต่างกว้างถึง 5.8 m. ​ ซึ่งการออกแบบเรื่องของช่องแสงแบบนี้ยังนำไปใช้กับส่วนของ Common Area บนชั้น 2 ด้วย ทำให้เราได้พื้นที่นั่งพักผ่อนใช้เวลาในครอบครัวแบบเป็นส่วนตัวที่โปร่งสบาย

​โดยสิ่งที่ทุกบ้านมีร่วมกันคือ การออกแบบ Junction รองรับการติดตั้ง EV Charger แบบ 3 เฟส, ได้ Concrete Stamp บริเวณส่วนจอดรถ, ได้ประตูบานทึบจาก Tostem สำหรับประตูหลักด้านหน้า และติดตั้ง Digital Doorlock มาให้สำหรับประตูทางเข้าจากที่จอดรถ ส่วนระบบความปลอดภัยก็ใส่มาให้ครบทั้งระบบ Shock & Magnetic Sensor ของหน้าต่างและประตูทุกบาน ซึ่งจะแจ้งเตือนไปยังป้อม รปภ. และ Smart App ทันทีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด, มีกล้อง CCTV 1 ตัวบริเวณจุดจอดรถ และระบบ Smart Home ที่สามารถควบคุมไฟในบ้านได้ทุกดวง (ยกเว้นส่วนครัวและห้อง Maid) ได้สะดวกบนมือถือครับ

​สรุปของโครงการนี้คือ เป็นบ้านที่ดีไซน์ออกแบบมาได้สวยโดดเด่น อยู่ในทำเลที่ดีงามของบางนา เหมาะสำหรับครอบครัวที่กำลังเติบโต ได้อยู่ใกล้โรงเรียนสำหรับเด็กๆ และใช้ชีวิตได้ท่ามกลางแหล่ง Lifestyle ที่พัฒนาอย่างไม่หยุด โดยยังคงความเป็นส่วนตัวได้อย่างดี ถ้าใครที่สนใจโครงการนี้มีช่วงราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 20 – 35 ล้านบาท ใครที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษจากโครงการและนัดหมายเข้าชมได้ที่นี่เลยครับ https://anan.ly/4edI3Z3

​ถ้าพร้อมแล้วตามไปชมบ้านตัวอย่างทั้ง 2 หลัง และบรรยากาศภายในโครงการกันเลยครับ

อีกหนึ่งโครงการที่เข้ามาแล้วต้องว้าวกับความสวยงามน่าอยู่ ที่ “AIRI Sukhumvit-Bangna KM.5” บ้านเดี่ยวหรูดีไซน์ใหม่ กับ Timeless Design ที่สวยเหนือกาลเวลา พร้อมฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบมาได้ดีงาม จะเป็นยังไง ไปชมกันครับ

Facade นอกจากสวยโดดเด่น ยังมีความดีงามซ่อนอยู่

วันนี้เราจะได้เห็นบ้าน 2 รูปแบบ ที่มีสีสันแตกต่างกัน หลังแรกมาในสีน้ำเงินให้ความสุขุม และอีกหลังตกแต่งด้วยโทนสีแดงดูมีพลัง แต่ความน่าอยู่และการจัดสรรพื้นที่ดีทั้งคู่

จุดเด่นของบ้านขนาดใหญ่ที่สุด ดูร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติแม้อยู่ในบ้านด้วย 360 ° Courtyard (Inner Garden) ไปชมเต็มๆ กันได้เลย

หลังแรกที่ผมจะพาชมเป็นหลังใหญ่ที่สุด รูปแบบ Lapis มีพื้นที่ใช้สอย 369 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ ตกแต่ง ผนังตรงลานจอดรถด้วยสีน้ำเงินเข้มอย่าง Sapphire Blue ให้ความรู้สึกสงบ และน่าค้นหา ซึ่งตัว façade อาคารทำจากดินเหนียวดัดแปลงที่ช่วยซับความร้อน และชะล้างตัวเองได้ด้วยน้ำฝน มีอะลูมิเนียมโค้งสีทองตกแต่งบดบังสายตา ได้ความไพรเวทเพิ่มด้วย

พรีวิวกันเล็กน้อยด้วยจุดเด่นของบ้านรูปแบบนี้ คือเค้ามี 360 ° Courtyard (Inner Garden) กลางบ้านที่สามารถปลูกต้นไม้ นอกจากให้ความร่มรื่น ยังมีช่องแสงธรรมชาติเพิ่มขึ้นเพราะตรงนี้เป็นกระจกที่มองวิวได้จากหลากหลายพื้นที่ในบ้าน เค้าทำทางลาดส่วนหน้าบ้านให้ใช้รถเข็นได้สะดวกแบบส่งตรงได้ถึงห้องนอนชั้นล่าง และยังมีส่วน Common Area โปร่งสบายชั้น 2 สำหรับพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว

ตามคุณน้องเข้าไปชมภายในบ้านกันเลย นี่ราศีเจ้าของบ้านจับแล้วนะ

เข้าบ้านมาก็พบกับความโปร่งสบาย ที่นี่เค้าเน้นหน้าต่างบานใหญ่ในทุกพื้นที่ ลองดูสิครับ แค่ส่วนแรกที่เป็น Living Area มีทั้งข้างๆ ประตูหลัก จาก 360 ° Courtyard และด้านหลังโซฟา แสงธรรมชาติช่วยให้บ้านเราน่าอยู่ขึ้นมาก ผมคอนเฟิร์ม

นั่งพักบนโซฟานุ่มๆ ขนาดใหญ่กันตรงนี้ กลับบ้านมาก็คงหายเหนื่อยแล้วล่ะ

จากโซนนี้ด้านในจะเชื่อมต่อกับส่วน Dining Area แบบ Open Plan มีห้องนอนด้านล่างที่อยู่หลังกำแพงด้านขวา ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วน Terrace ด้านนอกให้ออกมาสูดอากาศธรรมชาติได้ครับ ซึ่งเค้าออกแบบบ้านให้มีชายคา แสงที่เข้าจะเป็นแสงธรรมชาติไม่ได้กระทบโดยตรง ก็จะไม่ร้อนนะ

นั่งมองจากตรงโซฟาส่วนนี้เห็นในบ้านได้โปร่งเลย

มาดู Dining Area ด้านในกันต่อ สเปซกว้างขวางมากกกเหลือเกิน วางโต๊ะทานข้าวได้แบบ Long Table เลย ครอบครัวใหญ่ได้ทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันสบายๆ และด้านหลังก็มีกระจกบานใหญ่ Wide Frame Window เป็นช่องแสงด้านหลังบ้านที่กว้าง 5.8 เมตร ให้เราสามารถเทควิวสวนได้จากในบ้าน นี่เค้าตกแต่งด้วยน้ำตกยิ่งทำให้ดูเย็นสบายเข้ามาก นอกจากนี้ทางโครงการยังมีการออกแบบซ่อนเสา-คาน ให้เนียนตาไปกับผนังและฟังก์ชัน จึงทำให้โถงกลางบ้านดูกว้างขวางโปร่งโล่ง และสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายครับ

ส่วนด้านหน้าก็หันไปให้ชื่นชมสวนและต้นไม้หลักใน Courtyard สวยๆ ของบ้านเรา ตรงนี้วาง Day Bed ไว้ให้เป็นที่พักเบรกได้ทอดสายตา เหมาะเจาะเลย

ขอพาเข้าไปดูห้องนอนที่อยู่หลังผนังข้างๆ ส่วนนั่งเล่นกันต่อครับ

ในห้องนี้จะไม่มีสเตปเลยนะ และพื้นเป็นแบบ Absorption Floor ที่ช่วยกันกระแทกด้วยล่ะ จากที่ผมบอกว่าสามารถเข็นรถเข็นสะดวก มาถึงห้องนี้ได้เลย เพราะเค้ามี Terrace เชื่อมโยงจากหน้าบ้านมาสู่บานเลื่อนที่เราเห็นข้างเตียงนี่เลยครับ ส่วนนี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ เช่น ห้องทำงาน หรือห้องดูหนังก็ได้

เป็นโซน Semi-Outdoor ให้ทุกคนในบ้านไปนั่งพักผ่อน เพลิดเพลินกับธรรมชาติได้ทั้งเช้าเย็น เรามองมาจากในโซน Living ก็สามารถเห็นกันได้ตลอดเวลา

ห้องด้านล่างนี้ก็มีห้องน้ำในตัวครบฟังก์ชัน ที่ติดตั้งเป็นประตูบานเลื่อน รองรับรถเข็นของผู้สูงอายุให้เข้าใช้งานได้สะดวก ห้องน้ำเป็นแบบ Universal Design ไม่มี Step พร้อมช่องแสงเปิดระบายอากาศได้ด้วย

กลับมาที่ส่วนทานข้าว ไปดูอีกฝั่งกันบ้างครับ ทางนี้มีพื้นที่ให้ทำเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร พร้อม Island ให้จัดวางเครื่องดื่ม ขนมนมเนย ผลไม้ที่ชื่นชอบ เดินมาหยิบได้ง่ายๆ ประตูที่เห็นทางซ้ายก็คือทางเข้าจากโรงจอดรถครับ

เดินมาด้านในเค้าจะมีอีก 2 ห้องอยู่ทางนี้ ฝั่งขวามือไล่ไปเป็นห้องน้ำ ถัดกันเป็นห้องครัว ส่วนใต้บันไดเค้าทำเป็นห้องเก็บของมาให้ด้วย

ห้องน้ำตรงนี้เป็นแบบ Powder Room เอาไว้ใช้รับแขก กระจกบานใหญ่เลยนะ มีช่องแสงและเปิดระบายอากาศได้เช่นกัน

ถัดเข้ามาเป็นห้องครัวไทยมีขนาดกำลังพอดี พร้อมรองรับการใช้งานทำอาหารได้เต็มที่ บิ้วต์เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้เก็บของได้เยอะสะใจ ทำเป็นรูปตัว L สวยๆ แบบนี้ได้เลย และมีพื้นที่รองรับการทำโซน Laundry ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้ครบครันโดยไม่ต้องต่อเติมส่วนซักล้างเพิ่มเติม การออกแบบช่องแสง ของห้องนี้จะมาจากฝั่งประตูด้านหลังครับ

ประตูนี้ก็จะเชื่อมกับห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำที่อยู่ด้านหลังโซนซักล้างนี่แหละ เป็น Service Area ที่ทางโครงการออกแบบมาให้อยู่ใกล้กับห้องแม่บ้าน ทำให้แม่บ้านเข้าออกทำงานได้สะดวกเป็นส่วนตัวสำหรับเราด้วย ซึ่งแปลนบ้านทุกหลังในโครงการจะมีการวางบ้านเป็นแบบ Mirror ทำให้พื้นที่ Service ของบ้านทุกหลังจะหันมาชนกัน จึงไม่รบกวนการอยู่อาศัยของเจ้าของบ้านอย่างแน่นอน โดยพื้นที่ซักล้าง ทางโครงการได้ลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้านไว้ให้อีกด้วย

เอาล่ะขึ้นมาด้านบนก้นต่อ จะมีโถง Common Area ตรงกลางระหว่าง 3 ห้องนอนครับ ส่วนนี้มีความพิเศษคือมีช่องแสงทั้ง 2 ด้าน จากบริเวณด้านหลังบ้านข้างๆ โซฟา

กับอีกจุดที่เอาไว้ชม 360 ° Courtyard กลางบ้านเราได้ด้วย แสงเข้าทั้งหน้าหลังเลย เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนหลักของท่านเจ้าบ้านฝั่งซ้ายมือ กันก่อน

เป็นห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่อยู่สบาย ขนาดใส่เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ลงไปครบเซ็ต วางที่นั่งด้านข้าง และโซฟาปลายเตียงก็ยังโปร่งอยู่เลย สามารถเดินออกไปยังระเบียงส่วนตัวด้านข้างได้ นี่มีช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งด้านข้าง และมีหน้าต่างฝั่งหัวเตียงครบ

ห้องนี้ระยะมันกว้างมากรวมพื้นที่ปีกนึงของบ้านไปเลย

ส่วนนี้เค้าตกแต่งเป็นตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ฝั่ง กว้างจุกๆ ทำเป็นส่วน Walk-in Closet ได้สบายจนน้องบอกว่าอยากแต่งตัวอยู่ในห้องนี้ทั้งวัน

ส่วนห้องน้ำในตัวก็มีทั้งอ่างให้นอนแช่ตีฟอง แยกกับส่วนอาบน้ำที่มี Rain Shower มาให้เพลินใจ พร้อมกระจกบานใหญ่ และหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้ทั้ง 2 โซนเลย โดยมีอ่างล้างมือแบบ His & Her ใช้งานได้พร้อมกัน

มาที่ห้องนอนที่ 2 ของคุณลูกชายพ่อหนุ่มนักดนตรีกันต่อฮะ มีระเบียงและหน้าต่างให้เปิดชมวิวต้นไม้ใบหญ้าเช่นกัน ขนาดกว้างขวางแบบนี้ตกแต่งได้หลากหลายตามใจ

ผมชอบมุมข้างเตียงฝั่งนี้น่าจะเป็นมุมโปรดไว้นั่งเล่นดนตรี นอนอ่านหนังสือได้ เพราะมีหน้าต่างบานใหญ่และออกไประเบียงส่วนตัวได้ด้วยครับ

ส่วนแต่งตัวนี้ไม่มีใครน้อยหน้าใครเลยนะ ฮ่าๆ ห้องนี้เก็บบรรดา Sneakers สุดโปรดและอุปกรณ์เล่นกีฬาของลูกชายได้แบบจัดเต็ม

ห้องน้ำในตัวก็มีโทนสีครีมเข้มเช่นกันเดียวทั้งหมดครับ

มาต่อที่ห้องสุดท้าย เป็นห้องนอนของสาวน้อย ตกแต่งโทนสีเหลืองสดใส น่ารักมากก มีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เก้าอี้แบบแขวนนั่งเพลินๆ และโต๊ะทำการบ้านวาดรูป รวมถึงห้องน้ำในตัวครบเลย

ในบ้านทุกหลังของที่นี่จะได้หน้าจอ Home Automation แบบนี้ติดตั้งมาให้ด้วย พร้อม Shock & Magnetic Censor ทุกบานทั้ง 2 ชั้น ซึ่งเวลามีคนมาที่บ้าน เค้าจะมีระบบ Video Door Phone มาขออนุญาตเจ้าของบ้านให้แขกเข้ามาทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยและเรา confirm ได้โดยตรงครับ

มาที่บ้านอีกรูปแบบกันบ้าง กับบ้าน Maroon พื้นที่ใช้สอย 323 ตร.ม. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้ 3 คันเอกลักษณ์การออกแบบที่เหนือกาลเวลา แรงบันดาลใจจากอัญมนีสีแดง Red Ruby ที่เต็มไปด้วยพลังและแรงบันดาลใจ ได้อีกฟิลลิ่งนึงนะ ส่วน Façade บ้านก็จะแตกต่างกันเล็กน้อย

จุดเด่นคร่าวๆ ของบ้านรูปแบบนี้คือเค้ามีระเบียงหน้าบ้านยาว เดินเชื่อมกันได้ทั้ง 2 ห้องนอน ชมวิวได้ 180 องศา พร้อม Grand Master Bedroom ขนาดใหญ่สะใจเลย

เดินเข้าประตูมาครั้งนี้เจอกับเฟอร์นิเจอร์สีแดงสดใสกันบ้าง แต่หน้าต่างจัดเต็มเช่นกัน ซึ่งหน้าต่างตรงหลังโซฟานี่เปิดออกกว้างออกได้ เหมาะกับช่วงฝนตกพรำๆ อากาศเย็นสบาย รับกลิ่นไอดิน จากมุมนี้ที่เห็นเป็นห้องอยู่ฝั่งซ้ายมือด้านในคือห้องนอนชั้นล่างครับ

ส่วน Living Area เชื่อมโยงกันกันโซน Dining เหมือนกับบ้านแบบแรกครับ จากมุมนี้เราจะเห็นการจัดสรรฟังก์ชันภายในบ้านชั้นล่างได้

ห้องชั้นล่างของบ้านหลังนี้เค้าปรับให้เป็นห้องทำงาน ก็เห็นถึงความยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการล่ะ จะเป็นห้องนอน Working Area หรือ ห้องสะสมของเล่น ก็แล้วแต่เราเลย มีจุดเชื่อมโยงไปยังโซน Terrace ด้านนอกพร้อมห้องน้ำในตัว

ต่อมาที่โซนข้างบันได ใกล้กับประตูที่ออกไปสู่ลานจอดรถ เค้ามีชั้นเก็บของหรือเก็บรองเท้าบิ้วต์ไว้ให้เรียบร้อยด้วยนะครับ

ครัวก็ขนาดใกล้เคียงกับหลังเมื่อกี้เลยครับ ทำชั้นเก็บของได้เยอะเช่นกัน มีห้องแม่บ้านเปิดจากประตูนี้ออกไปได้

มาต่อที่ชั้นบนก็มี Common Area เหมือนเดิม ที่ที่ครอบครัวได้พร้อมหน้าในบ้านมีทั้งชั้นบนชั้นล่างเลย

และนี่คือ Grand Master Bedroom ระดับมงกุฎเพชร ตกแต่งด้วยโทนสีแดงให้ความ Feminine ขึ้น มีระเบียงด้านนอกยาวตลอดแนว จัดวางเตียงแล้วยังวางชุดโซฟาตัว L ขนาดใหญ่แบบนี้ได้ น้องบอกถ้าได้อยู่บ้านนี้มีคอนเทนต์ลงทุกวัน

สวยถูกใจนางเลยได้อีกหนึ่งแชะ

ผมชอบดีเทลการหยอดสีแดงลงไป มันพอดีเลยทำให้ห้องนี้มีชีวิตขึ้นมา

ห้องแต่งตัวก็จุของได้สบายๆ ทั้งของคุณชายและคุณหญิง จัดวางโต๊ะสำหรับ Accessories ตรงกลางแบบนี้ได้ จะกำไล นาฬิกา สร้อยแหวนใดๆ จัดเก็บเป็นระเบียบ มีห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำ และ Rain Shower ครบครัน

ระเบียงห้องนอนนี้ออกไปชม Landmark ของโครงการเป็นอาคารคลับเฮ้าส์สีเขียวตรงนี้ได้ได้หนำใจ เดินเชื่อมไปห้องนอนอีกห้องได้ด้วย

เนี่ยครับเดินทะลุได้มาถึงห้องนี้เลย ถ้าทะเลาะกันกับคุณภรรยาสงสัยจะได้ระเห็จมานอนที่นี่ พอคุณภรรยาหลับค่อยแอบย่องผ่านระเบียงกลับไปนอนที่ห้องมาสเตอร์ใหม่ ถ้าเค้าไม่ลืมล็อคระเบียงนะ ฮ่าๆ

ส่วนอีกห้องขนาดใกล้เคียงกันเลย เป็นห้องสาวน้อยนักบัลเล่ต์ของเราครับ เค้าแต่งห้องเด็กๆ ได้น่ารักมาก ห้องนี้วางเป็นเตียง 3 ฟุตได้ ก็จะเหลือพื้นที่เหลือเฟือให้กระโดดโลดเต้นได้เต็มที่ พร้อมห้องน้ำในตัว

จบไปแล้วครับกับบ้านตัวอย่างหลังใหญ่ทั้ง 2 หลัง ผมว่าฟังก์ชันใกล้เคียงกันเลย อยู่ที่ว่าเราอยากได้ไซส์ไหน และอยากมี Courtyard กลางบ้านมั้ย เลือกได้ทั้งคู่

มาดู Facilities กันบ้างครับ ใน Clubhouse สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ Jade Green ดูหรูหรา ไม่ค่อยเห็นใช้สีแบบนี้เท่าไหร่

ข้างในมีโถงต้อนรับ รวมถึงพื้นที่ Co-Working ให้มานั่งทำงาน หรือพักผ่อนกันพร้อมโซน Double Volume สูงโปร่งอยู่สบาย

มี Kidspire ให้ด้วยล่ะให้ได้เสริมสร้างพัฒนาการของน้องๆ หนูๆ ระหว่างรอคุณแม่ว่ายน้ำ ก็มานั่งวาดรูประบายสีในห้องแอร์เย็นๆ รอได้ มองไปทางนี้เห็นสระว่ายน้ำเต็มๆ เลย

สระว่ายน้ำตรงนี้ทำเป็นสระเด็กไว้ด้วยครับ ด้านบนยังมี Vigor Gym พร้อมกระจกให้ออกกำลังกายไปชมวิวโครงการไปครับ ทั้งวิวสระว่ายน้ำ และ สวน Serene Park

ทั้งหมดนี้ก็คือความงดงามน่าอยู่ของโครงการ ‘แอริ สุขุมวิท-บางนา กม.5’ ที่ผมพาชมกันไปครับ อยากให้ลองมาชมบ้านจริงกัน เป็นบ้านที่ออกแบบมาเพื่ออยู่กันได้ทั้งครอบครัว และอยู่ได้ทุกช่วงวัยเลยจิงๆ จะปรับพื้นที่และตกแต่งก็ได้ตามใจเรา เพราะที่นี่คือ My Place, My Attitude บ้านเพื่อทุกความเป็นตัวเองครับ อยู่ในทำเลที่หาได้ยากของย่านบางนา ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 20 – 35 ล้านบาทครับ