“คอนโดมิเนียม” ยังคงเป็นที่ต้องการอันดับต้นๆ ของผู้ที่กำลังมองหา “ที่อยู่อาศัยเพื่อเช่า” โดยเฉพาะโครงการในทำเลศักยภาพต่างๆ ที่มี Facility ช่วยอำนวยความสะดวก สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว เช่น Co-Working space, คลับเฮ้าส์ พื้นที่สีเขียว, Fitness, Meeting Room รวมไปถึงพื้นที่เพื่อเอาใจเหล่า Pet Lover เป็นต้น แต่นอกจากแรงจูงใจในเรื่องของ โลเคชั่นและ Facility แล้ว รูปแบบห้องพักและการตกแต่งภายในก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการตัดสินใจเช่า
แต่งคอนโด อย่างไรให้ปล่อยเช่าได้ชัวร์
บริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด บริษัทย่อยในเครือ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ในฐานะผู้ให้บริการคำปรึกษา การออกแบบภายในที่อยู่อาศัย การตกแต่งติดตั้ง ให้แก่เจ้าของโครงการและลูกค้ารายย่อย ได้รวบรวมประสบการณ์ด้านงานตกแต่งในแบบที่ผู้เช่าชื่นชอบ มาฝากเหล่านักลงทุนปล่อยเช่าให้ได้นำไปใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งผ่าน “5 ทริคเด็ดแต่งคอนโดฯ อย่างไรให้ลงตัว ปล่อยเช่าได้ชัวร์…ลงทุนได้ราคา”
- เลือกใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน : พื้นห้องควรเลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อการขูดขีด และง่ายต่อการทำความสะอาด เช่น กระเบื้อง ชิ้นส่วนต่างๆ ของอุปกรณ์ภายในห้องก็ต้องมีความแข็งแรง เช่น มือจับบานตู้ บานประตู บานพับต้องเปิดได้กว้าง ชั้นวางของ และขาของเฟอร์นิเจอร์มีความมั่นคง โซฟาไม่ควรใช้แบบผ้าซึ่งเป็นวัสดุที่ดูแลทำความสะอาดยาก หรือ โต๊ะทานข้าวที่เป็นกระจก ซึ่งมีโอกาสแตกหักได้ง่าย และที่สำคัญวัสดุอุปกรณ์ที่มีการเสื่อมสภาพตามการใช้งานควรใช้รุ่นที่หาซื้อเปลี่ยนได้ง่าย เพื่อความสะดวกในการหาอุปกรณ์และไม่ต้องรอของนาน อาจทำให้เสียโอกาสในการปล่อยเช่าได้
- เลือกขนาดเฟอร์นิเจอร์เหมาะสมกับขนาดห้อง : คอนโดมิเนียมปล่อยเช่ามักมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ การทำให้ห้องดูโล่ง โปร่ง สบาย จึงเป็นเรื่องสำคัญ ส่งผลให้การเลือกเฟอร์นิเจอร์เป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฟอร์นิเจอร์ควรมีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เช่น เตียงนอนไม่ควรมีขนาดเกิน 5 ฟุต เพราะเกินความจำเป็น ทีวี ตู้เสื้อผ้า ชั้นรองเท้า ชั้นวางของ แม้กระทั่งชุดครัว แนะนำให้เป็นแบบบิวท์อินติดผนัง เพราะสามารถกำหนดขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ห้องและความต้องการได้ เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย หากเป็นเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปที่วางขายทั่วไป อาจมีปัญหาขนาดเฟอร์นิเจอร์ไม่พอดีกับพื้นที่
- เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย : นอกจากเรื่องขนาดเฟอร์นิเจอร์แล้ว ฟังก์ชันการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นมีฟังก์ชันในการใช้งานที่หลากหลายก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับห้อง เช่น โต๊ะทานอาหารแบบติดผนัง สามารถพับเก็บได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย, โซฟานั่งดูทีวี สามารถปรับเป็นเตียงนอน เมื่อมีแขกมาเยี่ยมเยือนได้ หรือตู้เสื้อผ้าที่ดีไซน์ให้สามารถเก็บได้มากกว่าแค่เสื้อผ้า เช่น มีพื้นที่เก็บกระเป๋าเดินทาง เป็นต้น
- เลือกแต่งห้องด้วยโทนสีกลางๆ : การเลือกใช้สีทาห้องน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของห้อง เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกใช้สีแบบไหนดีถึงจะถูกใจผู้เช่า โดยโทนสีที่อยากจะแนะนำคือ โทนสีกลางๆ ที่ทาแล้วทำให้ห้องดู โล่ง โปร่ง กว้าง และดูสว่าง อย่างโทนสีขาว ครีม สีเทาอ่อน เป็นต้น
- มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน : ผู้เช่าส่วนใหญ่มักต้องการห้องที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อมที่จะหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที เช่น ทีวี แอร์ ตู้เย็น โซฟา ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า ตู้เสื้อผ้า ที่นอนพร้อมฟูก ชั้นวางของ โต๊ะ-เก้าอี้ โต๊ะทานข้าว ผ้าม่าน เป็นต้น ซึ่งการที่เจ้าของห้องมีอุปกรณ์ต่างๆ ให้ครบ นอกจากจะสร้างความน่าสนใจให้กับห้องแล้ว ยังสามารถเพิ่มค่าเช่าได้อีกด้วย
นอกจาก 5 ทริคเด็ดที่นำเสนอไปแล้วนั้น เรื่องที่เจ้าของห้องต้องคำนึงถึงควบคู่กันไปก็คือ เรื่องงบประมาณการตกแต่งและเรื่องกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ในด้านงบประมาณ หากเจ้าของห้องใช้งบเกินที่ตั้งไว้มากเกินไป ก็อาจจะไม่คุ้มกับราคาค่าเช่าที่ได้รับ สำหรับด้านกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูง การตกแต่งก็อาจเน้นความหรูหรา, กลุ่มชาวต่างชาติ แต่งแบบมีสไตล์, กลุ่ม First jobber เน้นฟังก์ชันการใช้งาน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้ห้องตอบโจทย์ทั้งเจ้าของและผู้เช่ามากที่สุด และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการตกแต่งห้องปล่อยเช่าโดยตรง ทำให้คุมงบประมาณได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องคุมงานและหาผู้รับเหมาเอง ประหยัดเวลา สามารถวางแผนในการปล่อยเช่าได้ชัดเจน และยังมีบริการถ่ายภาพสวยๆช่วยในการปล่อยเช่าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย