รีวิวคอนโด dcondo calm รามคำแหง 40 ใกล้รถไฟฟ้า ราคาเป็นมิตร เริ่ม 1.59 ล้าน*

ดีใจจังที่วันนี้ได้มาดูโครงการคอนโดใหม่ในย่านรามคำแหงกันอีกรอบ เพราะช่วงที่ผ่านมาไม่มีโครงการเปิดใหม่บนถนนเส้นนี้มาสักพักละครับ คิดว่าส่วนนึงก็คงเป็นเพราะรถไฟฟ้าสายสีส้มที่เตรียมพุ่งทะยานใหม่ ความหวังอันสดใสของคนรามคำแหงต้องชะลอการเดินรถออกไปอีกสักพัก หลังจากต้องอดทนฝ่าฟันวันเวลารถติดแสนสาหัสในช่วงที่เตรียมทำสถานี จนตอนนี้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วก็ได้แต่ร้องเพลงรอกันไปก่อน ขอให้ฮึบอีกนิดยังไงก็มาแน่ ในอีกแง่มันก็เป็นข้อดีของคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อนะ เพราะตอนนี้มีคอนโดใหม่ในซอยมาเป็นตัวเลือกด้วย ในราคาเบากว่าโครงการหน้าถนนใหญ่ที่ราคาเฉลี่ยใกล้แสนกันหลายโครงการ และนี่ก็คือ dcondo calm รามคำแหง 40 โครงการ Low Rise ในบรรยากาศสงบ หลบซ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ จากแสนสิริครับ

​รามคำแหงเป็นอีกหนึ่งย่านที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ที่ใดมีผู้คนที่นั่นมีข้าวปลาอาหาร ไม่ว่าจะร้านค้า อาคารพาณิชย์โดยเฉพาะฝั่งตรงข้ามรามคำแหง มีตลาดใหญ่อย่างตลาด กกท. มีห้างสรรพสินค้าโดยเฉพาะโซน The Mall บางกะปิที่อยู่ใกล้ที่ตั้งโครงการไปแค่ไม่กี่นาที ตอนนี้ปรับปรุงใหม่ในรอบ 30 ปี มีร้านค้าใหม่ๆ ของกิน ร้านดองกิมาลงเพียบ รองรับประชากรโดยรอบรัศมี 10 กม. กว่าล้านคน มีทั้ง Makro, Lotus’s บางกะปิ, Happyland Center นี่ยังไม่รวมการปรับปรุงเดอะมอลล์รามคำแหงใหม่ด้วยนะ อยู่แถวนี้มีของกินช้อปได้ตลอดเลยครับ และที่สำคัญสำหรับคนเดินทาง ซ.รามคำแหง 40 นี้ ปากซอยเดินขึ้นรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีรามคำแหง 34 ได้เลย แถมยังใกล้กับสถานี Interchange ของรถไฟฟ้า 3 สายที่แยกลำสาลี ที่สีคุมโทนกันเหลือเกิน ทั้งสายสีเหลือง สีส้ม และสีน้ำตาล รวมทั้งมีตัวเลือกการเดินทางด้วยเรือแสนแสบที่ท่าเรือบางกะปิอีกด้วย ผมว่าในวันที่รถไฟฟ้าสีส้มเดินขบวนได้ สบายกว่าเดิมมากแน่นอน

คอนโด dcondo calm รามคำแหง 40

​ดีคอนโด คาล์ม รามคำแหง 40 ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 40 จากตรงนี้ออกไปสู่ ถ.รามคำแหงราว 650 ม. ครับ และสามารถไปออก ถ.หัวหมากด้านท้ายซอยในระยะ 350 ม. มีพื้นที่ราว 3 ไร่ เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 399 ยูนิต โครงการนี้ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ได้อยากอยู่ติดถนนใหญ่ที่มันพลุกพล่าน หรือไม่ค่อยอยากวุ่นวายกับคนเยอะเกินไป บรรยากาศที่อยู่ในตึกเตี้ยก็จะสงบให้ฟีล Homey มากกว่า และก็เข้ากันกับคอนเซปต์การออกแบบที่เป็น “Hideaway Home” ให้อยู่หลบซ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พื้นที่สีเขียวจึงเป็นหัวใจของโครงการนี้ ด้วยการออกแบบให้พื้นที่คอร์ตด้านในเป็นสวนขนาดใหญ่ มีที่นั่งพักให้เพลิดเพลินไปกับความเขียวขจี อยู่คู่กับสระว่ายน้ำเป็นโซนพักผ่อนหลักของโครงการ ซึ่งดีคอนโดโครงการนี้มีสวนที่ยกระดับไปอยู่ชั้น 2 ด้วย รวมถึง Facilities อื่นๆ อย่าง Co-working Space ที่ให้ Vibe ละมุนสไตล์ Café, Fitness และ Lobby ที่จัดวางให้ชมสวนได้เต็มตา ส่วนใครใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็มี EV Charger ให้มา 2 ช่องจอดครับ

​โครงการมีห้องให้เลือก 4 Type ได้แก่

  • 1 Bedroom ขนาด 24.50 – 24.75 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ ห้องนี้เค้ากั้นโซนครัวเป็นครัวปิดบริเวณด้านหน้า ส่วนพื้นที่ด้านในจะเป็นพื้นที่เปิดแบบ Open Plan มีทั้งส่วนนั่งเล่น เตียงนอน และโต๊ะทำงานหน้ากระจกบานใหญ่อยู่รวมกันด้านใน โดยเค้าทำบิวท์อินชั้นวางรองเท้ามาให้ด้วย
  • 1 Bedroom ขนาด 29.25 – 30 ตร.ม. เป็นห้องโหมดหลักของโครงการที่เค้าทำเป็นห้องตัวอย่าง และจัดวางฟังก์ชันมาสวยครับ ด้วยห้องสไตล์หน้ากว้างก็เลยได้ส่วน Living Area ที่อยู่สบาย ได้พื้นที่ครัวปิดขนาดใหญ่พอจะใส่โต๊ะกินข้าวลงไปได้ด้วย อยู่ติดกับระเบียงเปิดระบายอากาศง่าย และก็ได้ห้องนอนที่เป็นผนังทึบ มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องนี้ลงตัวและขนาดกำลังดี บางยูนิตจะมีมุมกระจกข้างหัวเตียงเพิ่มมาให้ด้วยครับ
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 34.75 ตร.ม. เป็นห้อง 1 ห้องนอนที่ได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเกิดจากการจัดสรรพื้นที่แบบ Open Plan รวมส่วนของ Kitchen + Living + Dining Area เข้าด้วยกันเป็นพื้นที่เปิดโล่งกว้างๆ แบบวางโต๊ะกินข้าวได้ 3 ที่นั่ง การทำแบบนี้ทำให้ได้ห้องนอนเล็กเพิ่มมาอีกห้อง และก็มีระเบียงส่วนตัวในห้องนอนครับ
  • 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 45.50 ตร.ม. เห็นตัวเลขพื้นที่แล้วก็มาดูอีกทีว่าจัดได้ 2 ห้องน้ำเลยหรอ ก็จะคล้ายๆ กันกับห้องที่แล้วครับ เน้นการออกแบบที่เป็นครัวเปิดอยู่ร่วมกับส่วน Living Area ก็ได้ห้องนอน Master ที่มีห้องน้ำในตัว และอีกห้องนอนที่ขนาดนี่ไม่ต่างกันเลย โดยมีห้องน้ำกลางห้องที่เข้าออกได้ทั้ง 2 ทาง เป็นความสะดวกในการใช้งานของทั้ง 2 ห้องนอน ใครเลือกห้องนี้ก็จะได้วิวด้านในทั้งหมดครับ

​ผมขอสรุปสเปคของที่ได้ในห้องเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ที่นี่ขายแบบ Fully Fitted ครับ ตกแต่งส่วนครัว และห้องน้ำมาแล้ว สำหรับครัวได้เคาน์เตอร์ครัวที่เป็นท็อปแบบ Solid Surface, มี Hob / Hood แบบหมุนเวียนมาให้ อุปกรณ์ใช้แบรนด์ Teka ทั้งหมด ได้ประตูที่มาพร้อมกับ Digital Door Lock 5 ระบบ ทั้งสแกนนิ้ว, รหัส, Key Card, กุญแจ และ Bluetooth ไม่ต้องกังวลเลยเข้าได้แน่ๆ สักวิธี และมีค่าส่วนกลางอยู่ที่ 49 บาท/ตร.ม. สำหรับ 2 ปีแรกครับ และคนที่ไม่ได้ขับรถ เค้ามี Shuttle Service รับส่งสู่ถนนใหญ่ทั้ง 2 ฝั่งเลย ไม่ว่าจะ ถ.รามคำแหง หรือ หัวหมาก ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยราว 68,500 บาท/ตร.ม. สามารถคลิกรับสิทธิจากโครงการได้ที่นี่เลยครับ https://siri.ly/VPju1M6

​ผมว่าอยู่ที่นี่ได้ความสงบต่างจากถนนใหญ่นะ คือมัน Trade Off กันอยู่ที่เราตัดสินใจ อยู่ถนนใหญ่ใกล้กว่าแต่ก็พลุกพล่าน อยู่ในซอยมันได้ความนิ่งมากขึ้น ก็เดินทางเพิ่มอีกนิด เลือกตามจริตได้เลยครับ แล้วที่นี่เหมาะกับใคร? ถ้าเป็นคนเพิ่งทำงานมาไม่นาน อยู่ออฟฟิศใกล้ๆ อย่าง กกท., โอสถสภา, ไทยน้ำทิพย์ แล้วอาจจะมีแพลนซื้อบ้านในอนาคต ผมว่าก็เหมาะสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใกล้ที่ทำงานด้วยคอนโดที่มีขนาดกำลังดี ไม่ต้องซื้อห้องใหญ่ให้เป็นภาระ กำเงินมาล้านกว่าได้คอนโดภายใต้แบรนด์แสนสิริ ได้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ LIV24 เหมือนโครงการอื่น ก็ดูสมเหตุสมผลดี ยังไงขอเชิญไปดูห้องที่ Sales Gallery ก่อนจะตัดสินใจ แต่ตัวสำนักงานขายอยู่คนละที่กับไซต์โครงการนะครับ จะตั้งอยู่ใกล้กับทางปากซอยฝั่งรามคำแหงมากกว่าในระยะประมาณ 300 ม. เดี๋ยวผมแปะพิกัดไว้ให้ใน comment ครับ

​ถ้าพร้อมแล้วเข้าไปชมภาพสวยๆ จากโครงการที่เราเอามาฝากกันได้เลยครับ

พาทุกคนหลบหลีกความวุ่นวายมาชมโครงการเงียบสงบที่ “dcondo calm Ramkhamhaeng 40” ครับคอนโดสไตล์รีสอร์ต ให้ความผ่อนคลายโอบล้อมด้วยธรรมชาติได้ทุกวัน สะดวกทั้งการเดินทางด้วยรถ เชื่อมได้ทั้งถนนหัวหมากและถนนรามคำแหง แถมยังใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย ในราคาเริ่ม 1.59 ล้านบาท* ครับ

พรีวิวด้วยรูปการใช้ชีวิตในห้องซักหน่อย

เป็นห้องที่ออกแบบพื้นที่ได้ดี มีมุมให้ชมวิวธรรมชาติ

ที่นี่เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวมทั้งหมด 399 ยูนิต จำนวนนี้ลดทอนความวุ่นวาย ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นครับ ออกแบบทั้งภายนอกและภายในด้วยการใช้สีน้ำตาลดูสงบนิ่งเหมือนชื่อโครงการ ผสมผสานสีเขียวและต้นไม้ชะอุ่มให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

เข้ามาถึงที่ Sales Gallery ที่เค้าจำลองบรรยากาศภายในโครงการไว้ให้ดู ถ้าอยากเห็นแนวงานดีไซน์ในล็อบบี้ก็ประมาณนี้ครับ เดี๋ยวเราพาไปดูห้องตัวอย่างด้านใน

รูปแบบห้องของที่นี่ มีตั้งแต่ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus ไปจน 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 24.5-45.5 ตร.ม. เลยครับ ส่วนห้องตัวอย่างวันนี้คือห้องที่เป็นโหมดหลักของโครงการครับ

เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 29.75 ตร.ม. จัด Layout มาได้ครบฟังก์ชันให้ความรู้สึกกว้างกว่าตัวเลขที่เห็นนะ

เข้ามาก็นั่งเอนกายสบายๆ ในโซน Living ก่อนเลย เค้าตกแต่งได้โฮมมี่ดีจัง และจุดเด่นของห้องหน้ากว้างห้องนี้ก็ระยะดูทีวีเลยครับ มันกว้างดีมาก มีพื้นที่โล่งๆ แบบนี้ก็จะทำให้ห้องอยู่สบาย

ห้องนั่งเล่นนี้เป็นอีกโซนที่ได้ใช้งานกันบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน เค้าวางโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมตู้รองเท้าที่วางของได้ไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง

ซึ่งตู้เก็บรองเท้าเนี่ยสำคัญสำหรับชีวิตมาก ห้องจะเรียบร้อย ก็เกิดจากตู้เก็บรองเท้าที่ Proper แม้เราจะมีเท้า 2 ข้าง แต่เราใช้รองเท้าได้หลายคู่

มีระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีพอสมควรเลย พื้นที่ว่างตรงนี้จะปูเสื่อโยคะออกกำลังกายตามคุณเบเบ้ หรือจะยืดเหยียดกล้ามเนื้อเบาๆ ก็ได้ ส่วนน้องบอกขอปูเสื่อจกข้าวเหนียวส้มตำดีกว่า ผมเลยสะกิดบอกว่าเค้ามีที่วางโต๊ะกินข้าวสบายๆ อยู่ในห้องครัวโน่น ฮ่าๆ ข้างกันก็เป็นห้องน้ำที่เข้าได้จากโซนนี้ครับ

ห้องน้ำก็จะตกแต่งให้มาแบบนี้เลย ได้กระเบื้องสีครีม-เทาตัดกับสีเขียวอ่อน พร้อมชั้นวางของในโซน Shower หยิบอุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวก

มาดูที่ห้องครัวซึ่งเป็นโซนที่ผมชื่นชอบ ไม่ใช่ชอบกินนะครับ ชอบการจัดพื้นที่ของเค้านี่แหละ ขนาดกำลังดี ยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะกินข้าว 2 ที่นั่ง ทำกับข้าวพร้อมทานกันให้จบที่ตรงนี้ ให้ห้องเราเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น แถมยังได้นั่งมองตายิ้มหวานใส่กัน กับข้าวน่าจะอร่อยขึ้น 100%

ส่วนนี้ได้เป็นครัวปิดติดกับระเบียง กั้นด้วยบานเลื่อนกระจก มีทั้งเตาและเครื่องดูดควันก็ติดตั้งให้พร้อม เป็นของ Teka ครับ เปิดระบายอากาศทางนี้ได้เลย ห้องนี้ออกแบบมาเพื่อคนชอบทำกับข้าวด้วย

อีกจุดที่เห็นแล้วชอบคือประตูบานเลื่อนกระจกที่กั้นทั้งโซนครัว และระเบียงนี่เป็นประตูที่เปิดได้ 2 ฝั่งทั้งหมดนะ เพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น จะเปิดจากซ้ายก็ขวาก็ได้ เราก็จะเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ได้ทั้ง 2 ฝั่งเลย และก็เป็นบานเลื่อน 3 ตอนทั้งคู่ด้วย เปิดออกมาเข้าออกได้ง่ายมาก

พื้นที่ระเบียงเค้าก็เอาคอมเพรสเซอร์แอร์ขึ้นข้างบนเรียบร้อย มีที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ และก็ยังเป็นจุดที่มายืนรับลมชมวิวสวนสีเขียวของโครงการด้วย

มาที่ห้องนอนกันต่อ เป็นโซนที่โปรดปรานที่สุดสำหรับคนรักการนอนอย่างผม 555 เค้าจัดโทนสีมาได้เหมาะกับการพักผ่อนเลย วางเตียง 5 ฟุตแบบนี้ได้สบายๆ ข้างเตียงยังมีพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างเตียงได้ครับ

เตียงที่ให้มาก็มีลิ้นชักเก็บของด้วยนะ

อีกจุดที่ดีของห้องก็คือได้หน้าต่างบานใหญ่ ได้นอนชมวิวฝนพรำกับต้นไม้สีเขียวคงเพลินไม่ใช่น้อย เป็นบานเลื่อนเปิดรับลมระบายอากาศได้ 2 บาน ใครซื้อยูนิตวิวสวนและสระว่ายน้ำส่วนกลางน่าจะถูกใจเลย

อีกฝั่งเป็นตู้เสื้อผ้าที่ดูจากพื้นที่แล้วก็จุของได้ดีอยู่นะครับ ห้องนอนสำหรับ Layout นี้ได้เป็นประตูบานทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัว

ก็ครบแล้วครับกับห้องตัวอย่างในวันนี้ แต่ผมยังมี Unit Plan ของห้องอื่นๆ มาให้ทุกคนชมกันด้วยครับ

ห้องรูปแบบเริ่มต้น คือ 1 Bedroom ขนาด 24-24.75 ตร.ม. เข้าห้องมาเจอกับโซนครัว ซึ่งกั้นด้วยบานเลื่อนกระจกเป็นครัวปิดเช่นกัน ด้านในเป็นโซน Living และห้องนอน ที่เป็น Open Plan มีพื้นที่ข้างหน้าต่างให้จัดวางเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ครับ

ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็เป็นห้องรูปแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34-34.75 ตร.ม. เค้าจัดสรรครัวเปิดอยู่รวมกันกับส่วน Living Area เป็น Open Plan กว้างๆ การออกแบบพื้นที่ด้วยวิธีนี้ทำให้ได้พื้นที่ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา โดยระเบียงจะย้ายไปอยู่ฝั่งห้องนอนครับ

และรูปแบบใหญ่ที่สุดของที่นี่คือ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 45.5 ตร.ม. เปิดมาด้วยความหน้ากว้าง เข้าไปเป็นส่วนครัวรูปตัว L ต่อเนื่องกับส่วนกินข้าวที่จัดวางโต๊ะได้ถึง 4 ที่นั่ง เชื่อมไปกับ Living Area ครับ มีห้องนอนหลักพร้อมห้องน้ำในตัว ส่วนอีกฟากนึงก็เป็นห้องนอนรองแต่ดูขนาดสิ ใกล้เคียงกันเลย ห้องนอนนี้มีระเบียงส่วนตัว และห้องน้ำที่เข้าได้จากทั้งในห้องนอนและห้องนั่งเล่นด้วย ไปๆ มาๆ เลือกไม่ถูกแหะว่าจะนอนห้องไหนดีกว่ากัน รูปแบบนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กได้เลยครับ

ต่อไปจะพาไปชม Facilities กันต่อครับ มีทั้ง Indoor & Outdoor ครบทั้งการพักผ่อน ออกกำลังกาย และทำงาน

ต้องรับด้วยความอบอุ่นที่ Lobby ที่ตกแต่งในสีเอิร์ธโทนอย่างโซฟาสีเขียว พร้อมกระจกบานใหญ่ให้เพลินกับธรรมชาติด้านนอก

Co-Working Lounge เค้าดูน่ารักทีเดียว จัดโต๊ะและเก้าอี้หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน ดีไซน์ด้วยกระจกโค้งและทรงกลมเพิ่มความละมุน จะมาทำงานอ่านหนังสือคนเดียว หรือมาทำโปรเจคกับเพื่อนก็มีที่นั่งให้พร้อม โทนสีครีมตัดกับสีส้มอ่อน สบายตา ให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในคาเฟ่สวยๆ

มี Paronamic Gym พร้อมกระจกรอบ ได้วิวสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวให้ได้ออกกำลังกายเหมือนอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ จะมาคาร์ดิโอ หรือเวทเทรนนิ่งก็มีอุปกรณ์ให้ครบ มีสีสันเพิ่มความกระฉับกระเฉงกันหน่อย

และนี่ก็คือพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นเสมือน Oasis ใจกลางโครงการครับ มีทั้งสวนที่ชั้นล่างและสวนที่ยกระดับอยู่ด้านบนฟิตเนส ตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำให้แช่กันเย็นๆ ขนาดยาว 25 ม. พร้อมกับพื้นที่พักผ่อนกระจายอยู่โดยรอบ บรรยากาศดีน่าดู

มาดูทำเลที่ตั้งของโครงการกันบ้างครับ ที่นี่ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 40 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถเดินทางเชื่อมได้ทั้งถนนรามคำแหงและถนนหัวหมาก ใกล้ห้างและแหล่งไลฟ์สไตล์อย่าง The Mall บางกะปิ หรือจะไปในโซนรามคำแหงอย่าง Big C, Foodland และ The Mall รามคำแหง ก็ไม่ไกล และเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ถึง 3 สายที่สถานีลำสาลี โดยมีสายสีส้ม สถานีรามคำแหง 34 อยู่บริเวณปากซอยหน้าโครงการครับ

นี่ก็ถือว่าเป็นอีกโครงการที่น่าอยู่จากแสนสิริ อย่าง “ดีคอนโด คาล์ม รามคำแหง 40” ก็สมชื่อนะ ถ้าใครอยากได้มุมสงบนิ่งในความคึกคักของย่านรามคำแหง ที่นี่น่าจะตอบโจทย์คุณได้ ในราคาเริ่ม 1.59 ล้าน* ครับ

สำนักงานขายอยู่ตรงนี้ครับ https://maps.app.goo.gl/UMHX6n6hhgbtEDCs7