คอนโด City Home สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์
รายละเอียดคลิก https://bit.ly/3YAPy4l
ชีวิตคนทำงานสมัยนี้มีอะไรให้คิดเยอะนะครับ จะทำอะไร อยู่ที่ไหน เดินทางยังไง แล้วจะหาอะไรกิน งานก็ต้องทำให้ดี ความฝันก็มีให้ตั้งเป้า สังคมก็ต้องเข้า แต่พื้นที่ส่วนตัวเราก็ต้องการ แค่เริ่มต้นจะใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ หนทางข้างหน้ามันช่างยาวไกลเหลือเกิน แต่สิ่งที่เป็นหนึ่งในความฝันที่หลายคนคิดอยู่เสมอก็คือการมีที่อยู่เป็นของตัวเอง หลายครั้งเวลาผมเห็นคนทำงานที่อยากมีบ้านหลังแรกก็มักจะเป็นคอนโดนี่แหละครับ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ไม่ต้องการการดูแลมาก ให้เราเดินทางไปทำงานได้สะดวก และที่สำคัญก็คือให้เราได้มีพื้นที่ ที่เป็น Safe Zone ของเราเอง ซึ่งก็มักจะมีเรื่องของการเดินทางที่สะดวก เป็นเป้าหมายให้เราได้มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นด้วย วันนี้ผมก็เลยเอาคอนโดใหม่ที่ตอบโจทย์หลายๆ ข้อของคนเริ่มทำงานมาฝากกันครับ
ที่นี่คือคอนโด ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์ คอนโดใหม่ล่าสุดจากศุภาลัย ที่อยู่บนถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ที่ตอบโจทย์ข้อแรกคือเรื่องปากท้องแบบไม่ต้องสืบ นี่เป็นคอนโดที่อยู่บนสุดยอดถนนแห่งการเพิ่มน้ำหนักสายหนึ่งของนนทบุรี ตลอดระยะทางยาวกิโลกว่าๆ ของถนนเส้นนี้ที่เชื่อม ถ.รัตนาธิเบศร์ และ ถ.นนทบุรี (สนามบินน้ำ) เข้าด้วยกัน เรียกว่าอุดมสมบูรณ์คึกคัก ฝากท้องได้ตั้งแต่หัวถนนยันท้ายถนนกันเลย ไม่ว่าจะเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ตลาดนกฮูก ตลาดฐานเพชรนนท์ สนามบินน้ำมาร์เก็ตพาร์ค และร้านอาหารเรียงรายซ้ายขวา เริ่มตั้งแต่ยังไม่ตีห้า ไปจนราวๆ เที่ยงคืน ใครที่ไม่ชอบคอนโดที่อยู่แล้วแห้งแล้งไม่มีอะไรกิน ที่นี่น่าจะตอบโจทย์ข้อนี้ได้เลยครับ
ในเรื่องของการเดินทาง ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในย่านรัตนาธิเบศร์-สนามบินน้ำ-ติวานนท์-งามวงศ์วาน เพราะถนนนำพาหากันได้หมด หรือถ้าหากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอยู่แล้ว สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สถานีแยกนนทบุรี 1 ห่างไปราว 1.8 กม. หรือนั่งรถไปไม่กี่นาที ทางโครงการมีรถ Shuttle Service ไว้คอยบริการรับ-ส่งระหว่างโครงการและรถไฟฟ้าด้วย เป็นอีกหนึ่งการเดินทางเข้าเมืองให้พอจัดสรรวางแผนเวลาได้ ส่วนถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศออกจากย่านที่อยู่ ก็วิ่งมา ราชพฤกษ์ในช่วงวันหยุด ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาให้ได้เดินเล่นหาอะไรกินและช้อปปิ้งได้เช่นกัน
มาดูเรื่องของตัวโครงการกันบ้าง
ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ – รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 558 ยูนิต และอีก 4 Shop บนที่ดินประมาณ 5 ไร่ครึ่ง มีที่จอดรถอยู่บริเวณชั้น 1 ทั้งหมด รวม 188 ช่องจอด (ไม่รวมซ้อนคัน) คอนโดนี้เน้นไปที่กลุ่มเพิ่งเริ่มต้นทำงานอย่างชัดเจนด้วย Unit Type เป็นแบบ Studio ขนาด 25.5 ตร.ม. กว่า 90% และที่เหลือคือ 1Bedroom หน้ากว้างขนาด 30.5 ตร.ม. ซึ่งห้องสตูดิโอก็จัดสรรพื้นที่ออกมาได้ดีนะครับ ฝั่งหัวนอนไม่มีเสาให้เสียพื้นที่มีให้เลือก 2 แบบคือ อยากให้ครัวอยู่ด้านหน้า หรืออยู่ด้านในห้อง ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ Living Area แตกต่างกันเล็กน้อย โดยมี Facilities ต่างๆ ประกอบด้วย พื้นที่สีเขียว สวน และพื้นที่พักผ่อน, Fitness, Co-Active zone และ Semi-outdoor Lobby สีสันใช้สีเทาเป็นหลักตัดด้วยสีเหลืองที่สะท้อนความสดชื่นและมีชีวิตชีวา
ก็กลับมาสู่คำตอบสุดท้ายคือเรื่องของงบประมาณ เพราะสิ่งสำคัญที่ทำให้เราได้ใช้ชีวิตตามความฝันได้มากขึ้นก็คือ การที่ไม่มีภาระ หรือมีให้น้อยที่สุด โครงการนี้เริ่มแค่ 1.09 ล้านบาท (ราคาเฉลี่ย 42,700 บาท/ตร.ม. ถือว่าดีที่สุดสำหรับคอนโดใหม่ที่ไม่ต้องเข้าซอยในทำเลนี้) แทบจะหาไม่ได้ในคอนโดยุคปัจจุบัน ถามว่าเค้าทำได้อย่างไร อย่างแรกคือเรื่องของต้นทุนที่ดิน ตามด้วยการออกแบบพื้นที่ห้องให้มีขนาดแบบสมเหตุสมผล และตัดทอนสิ่งที่เป็นต้นทุนเพิ่มแต่อาจจะไม่ค่อยได้ใช้ออกไป เช่น สระว่ายน้ำ ซึ่งก็ทำให้ต้นทุนอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องจ่ายทุกเดือนอย่างค่าส่วนกลางลดลงไปด้วยเหลือเพียง 32 บาท/ตร.ม. เท่านั้น
ถึงตรงนี้ผมคิดว่าหลายคนอาจจะพอเห็นภาพชีวิตอยู่ในใจ ระหว่างการเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่มากกว่านี้ มีความหรูหรา อยู่ใจกลางเมือง แต่ต้องบริหารภาระหนี้ก้อนใหญ่ให้ดี กับเริ่มต้นชีวิตเบาๆ ด้วยห้องที่มีขนาดเหมาะสม ไม่เป็นภาระหนักให้ตัวเอง และให้เราได้ออกไปใช้ชีวิตได้มากขึ้นอย่างมีอิสระ ก็อยู่ที่คุณแล้วครับ
โครงการนี้จองเริ่ม 3,900 บาท ผ่อนเริ่ม 3,900 บาท/เดือน ใครที่สนใจลงทะเบียนรับสิทธิได้ที่นี่ครับ https://bit.ly/3YAPy4l ส่วนตัวโครงการจะหน้าตาเป็นยังไงบ้าง ผมขอพาไปดูผ่านการใช้ชีวิต 2 แบบ 2 สไตล์ของสาวสวยกาสะลอง ซ้องปีบ เด็กใสวัยเริ่มทำงานด้านในกันเลย
#LivingSneakPeek #รีวิวคอนโด #CityHomeสนามบินน้ำรัตนาธิเบศร์ #ศุภาลัย
วันนี้ผมจะพาทุกคนมาชมบรรยากาศและการใช้ชีวิต ถ้าได้อยู่ในโครงการ ‘Supalai City Home สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์’ กันครับ มีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปชมกัน
มาถึง Sales Gallery ที่เค้าทำสไตล์คาเฟ่น่ารักๆ สะท้อนงานดีไซน์หลักของโครงการ คุณน้องก็ไม่รอช้า ต้องขอสแนปภาพซักหน่อย ก็เค้าตกแต่งได้น่ารัก สีสันสดใสขนาดนี้ อดใจไม่ถ่ายยังไงไหว
ห้องที่นี่เกือบทั้งหมดจะเน้นรูปแบบ Studio มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 25.5-26.5 ตร.ม. ซึ่งจะมี 2 เลย์เอาต์ให้เลือก คือแบบครัวหน้าและครัวติดระเบียง ที่เหลือคือห้องรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตร.ม. (ซึ่งไม่มีห้องตัวอย่างนะครับ) มากับเพดานสูง 2.5 ม. โดยห้องที่ผมจะพามาดูวันนี้เป็นรูปแบบ Studio ทั้ง 2 แบบ ไปดูกัน
ห้องแรกจะเป็นรูปแบบ Studio ขนาด 25.5 ตร.ม. ที่เป็นครัวติดระเบียงครับ ผมขอยกห้องนี้ให้เป็นห้องของสาว Extrovert ผู้ชอบการสังสรรค์และชอบแฮงเอ้าท์กับเพื่อนสาว
ภายในห้องมีความรู้สึกกว้างขวาง สไตล์ของ Studio ก็คือส่วน Living Area แบบเปิด ซึ่งที่นี่ก็จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ดูได้ครบทุกฟังก์ชั่นเลยนะ
วันหยุดว่างๆ น้องกาสะลอง สาว Extrovert คนนี้เค้าก็ไม่รอช้า ตื่นขึ้นมานั่งแชทกับเพื่อนๆบนโซฟาข้างเตียง ดูเป็นวันหยุดที่สะดวกสบายดีนะ
โทรให้เพื่อนมาแฮงเอ้าท์กันซักหน่อย ห้องกว้างๆ อยู่คนเดียวมันเหงา มาเม้าท์คนข้างบ้านกันมั้ยจ้ะ
ปลายสายไม่รอช้า บอกว่าจัดไป กาสะลองก็แต่งหน้าแต่งตัวฉีดน้ำหอมรอ ถึงอยู่ติดห้องก็ต้องเป๊ะแบบนี้แหละ
เข้าห้องน้ำมาเซทผมซักหน่อย เดี่ยวเพื่อนจะรู้ว่าเพิ่งตื่น ยังไม่อาบน้ำ
ห้องน้ำก็กว้างขวาง แยกโซนเปียกแห้งมาให้เรียบร้อย พร้อมดีเทลล์เล็กๆน้อยๆอย่างช่องเปิดเพื่อระบายอากาศ เพื่อให้ห้องน้ำไม่อับ เป็นสิ่งที่ผมชอบทุกครั้งที่ดูโครงการของศุภาลัยครับ
ฝั่งตรงข้ามเตียงยังมีพื้นที่จัดเป็นโต๊ะกินข้าวได้ด้วยอยู่ติดกับส่วนครัวเลย นี่แหละสเตชั่นสำหรับเผาชาวบ้านที่กาสะลองชอบนัดเพื่อนสาวมา
อุ๊ยตาย เร็วไวดั่งโกหก เพื่อนมาถึงนี่แล้ว หุงหาอาหารให้เพื่อนได้กินข้าวกินปลา ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันซักหน่อย
เสร็จแล้วก็ใช้ให้เพื่อนช่วยเก็บจานชามแก้วน้ำต่อ เป็นเจ้าบ้านที่ดีจริงๆ
ห้องครัวที่อยู่ถัดกับโซนกินข้าวนี่สะดวกดีนะ เค้ามีชุดครัวมาให้ (ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า) ตรงนี้ใครสายทำอาหารหน่อยก็เปิดบานเลื่อนระเบียงระบายอากาศได้เลย ระยะดูน่าจะกั้นบานเลื่อนให้เป็นครัวปิดอีกชั้นได้ด้วย
เสร็จแล้วก็มาเม้าท์เรื่องเสื้อผ้ากันตามประสาผู้หญิงรักสวยรักงาม เพื่อโชว์ว่าตู้เสื้อผ้าชั้นที่อยู่หน้าห้องน้ำนี้เสื้อเต็มตู้แต่ไม่รู้จะใส่อะไร
สุดท้ายเมื่อเพื่อนที่อยู่เล่นด้วยกันมาทั้งวันตายใจ ก็ได้โอกาสถามว่า ‘อยากหาเงินด้วยเวลาว่างวันละ 2-3 ชั่วโมงมั้ย?’ ผ่าม! อะล้อเล่น ก็พาเพื่อนย้ายมานั่งโซฟากันชิลล์ๆ เปิดตลกคาเฟ่ให้เพื่อนดู ขำกันใหญ่เลย ได้ 1 ฮาก่อนกลับบ้านครับ
และนี่ก็เป็นชีวิตสุดเอนจอยของน้องกาสะลองกับเพื่อนสาวในห้องสตูดิโอแบบแรก
มาต่อกันที่ห้องรูปแบบ Studio 25.5 ตร.ม. อีกแบบกันบ้าง แต่ห้องนี้ย้ายตำแหน่งครัวมาอยู่ด้านหน้าครับ เป็นห้องของน้องซ้องปีบสาว Introvert รักน้ำ รักปลา รักซากุระกันบ้าง
เข้ามาก็เจอกับครัวก่อนครับ ตกแต่งได้เป็นสัดส่วนเช่นเดียวกัน โซนด้านหน้านี้เป็นครัวและห้องน้ำ ก็จะสะดวกเวลากลับมาจากข้างนอก เข้ามาวางของล้างมือล้างเท้าให้สะอาดก่อนเข้าโซน Living ที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา
วันหยุดสบายๆแบบนี้ ซ้องปีบไม่รู้จะไปไหน ก็ตื่นมาทำความสะอาดบ้าน ล้างจานปัดกวาดเช็ดถูห้องซักหน่อย ทำเป็นจับขวดก็ได้หนึ่งภาพไปอวดชาวโซเชียลแล้ว
ฝั่งนี้วางเฟอร์นิเจอร์เรียงกันได้เยอะเลยไล่มาตั้งแต่ครัวตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวี จากนั้นก็เปิดพัสดุลองดูเสื้อที่เอฟมา ตรงปกรึป่าวน้า
เอาล่ะเหมือนกับที่เคยเอฟมาก่อนหน้านั้น ถือว่าตรงปก เอาไป 5 ดาว ว่าแต่เอฟเสื้อสีขาวมีกี่ตัวแล้วนี่ฉัน
พื้นที่อีกฝั่งก็วางเตียง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งข้างหน้าต่างก็เป็นพื้นที่ไว้วางโซฟารับแสงธรรมชาติยามเช้าได้ครับ เป็นมุมพักผ่อนมุมโปรดของห้องนี้เลย
เสร็จแล้วก็มานั่งลง Skincare บำรุงผิวหน้า แน่นอนว่าต้องเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิค จากธรรมชาตินะ เรียกว่าเป็นสิ่งเดียวที่เป็นธรรมชาตินอกนั้นทำทั้งหน้า
มาดูตรงมุมนี้ที่เค้าจัดไว้ให้วาง Daybed ลงได้เหมาะเจาะ จะบิวท์โต๊ะติดผนังไว้นั่งทำงาน อ่านหนังสือแบบนี้ก็ได้ เป็นเหมือนสเตชั่นส่วนตัวครับ พร้อมหน้าต่างรับแสงธรรมชาติบานใหญ่ ผมชอบตรงนี้มากเลย
ทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็มานั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ ดูจรรโลงจิตใจได้ดีนะ แถมทำเป็นถ่ายรูปข่มนังกาสะลองได้ด้วยว่าชั้นอ่านเตรียมสอบ ป.โทล่วงหน้าหล่อนไปแล้ว
พื้นที่โต๊ะตรงนี้นอกจากจะเป็นมุมโปรดยามพักผ่อน ยังเป็นพื้นที่เก็บเป้าหมายในชีวิตให้ได้โฟกัสกับสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า การเริ่มต้นชีวิตของตัวเองในพื้นที่ของเราที่จัดสรรได้อย่างลงตัวแบบนี้ ก็ทำให้ซ้องปีบมีความสุขได้มากเลยล่ะครับ
ก่อนกลับผมก็สแนปภาพสิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกนี้มาให้ทุกคนชมเพิ่มเติม ตามที่บอกว่าตลอด 2 ข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด และคอมมูนิตี้ มอลล์ ฝากท้องได้แบบไม่ต้องไปไหนไกลเลย มีทั้ง Bottomless Cafe สวยๆ มีสุกี้จินดายอดฮิตและอื่นๆ อีกมากมาย
มาตอนกลางวันก็ได้แวะที่นี่ ตลาดฐานเพชรนนท์เองก็มีครบทุกอย่างทั้งอาหารคาวหวาน อาหารสดและสำเร็จรูป จะซื้อไปทำเองหรือซื้อพร้อมทานก็ได้ อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการเลย สะดวกมากครับ
และนี่ก็คือเรื่องราวของโครงการ “City Home สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์” ในคอนเซปต์ ค้นพบชีวิตที่ใช่ในแบบของคุณ ที่พวกเราพาชมในวันนี้นะครับ จะเห็นนะครับว่า แม้รูปแบบโครงการ และห้องที่นี่จะดูเรียบง่าย แต่ก็คิดมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตในวัยเริ่มต้นทำงานไว้เรียบร้อย พร้อมฟังก์ชันให้จัดสรรได้ ตั้งแต่มุมทำงาน มุมนั่งเล่น ไปจนถึงมุมพักผ่อน ได้ในตัว แล้วยังมากับราคาดี๊ดีแบบที่หาได้ยากที่ 1.09 ล้านบาทเท่านั้นครับ ใครที่สนใจก็คลิกลงทะเบียนรับสิทธิจากโครงการได้ที่นี่เลยครับ https://bit.ly/3YAPy4l
ห้องที่อยู่ชั้น 1 ที่นี่มี Green Terrace ส่วนตัว และปลอดภัยเพราะมีประตูกั้นเปิดปิดได้
มีการใช้สีสันที่สดใสสะท้อนชีวิตกลุ่มคนรุ่นใหม่มาทำให้แบรนด์ City Home มีชีวิตชีวามากขึ้น
มีฟิตเนสให้ใช้งาน
ส่วน Co-Active ด้านนอกที่เชื่อมโยงกับฟิตเนส
ส่วน Walkway ก่อนเข้าอาคารจะเน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติภายนอก
มีห้องพักบริเวณชั้นล่างด้วยครับที่จะได้พื้นที่สีเขียวส่วนตัว
สิ่งที่ศุภาลัยทำในทุกโครงการคือมุ่งเน้นการประหยัดพลังงานในทุกรายละเอียด
ห้องยืดหยุ่นสามารถเลือกวางเฟอร์นิเจอร์เพื่อปรับ Layout ตามที่เราชอบได้
มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่รอบๆ ในระยะเดินทางไม่กี่นาที
จุดเด่นของถนนเลี่ยงเมืองคือของกินเพียบบแบบเดินได้ครับ
มีโซน Playground และพื้นที่สีเขียวต้อนรับบริเวณทางเข้าครับ