แอบดูคอนโด Atmoz Sriracha คอนโดใหม่ตรงข้าม ม.เกษตรฯ ศรีราชา จัดเต็ม Facilities ราคาดีเริ่ม 1.59 ล้าน

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก >>> https://bit.ly/335d7KZ​

มาทุกคนไปยลคอนโดใหม่ล่าสุดกันที่ ศรีราชา หนึ่งในทำเลหัวใจ EEC ของไทย แหล่งงานเกรดเอที่ได้รับการอุ้มชูพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลายด้าน ไม่ว่าจะรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ปรับปรุงท่าเทียบเรือรองรับการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก สมัยผมทำงานบริษัทเคมีภัณฑ์ย่านนั้น ก็เคยเห็นว่าเพื่อนวิศวะที่ทำงานแถวนี้รายได้ดีจัง มาอยู่ในวันทำงาน เหงาๆ เสาร์อาทิตย์ก็กลับบ้าน กทม. ติดก็แค่ว่าไม่ค่อยมีตัวเลือกที่อยู่ดีๆ เท่าไหร่ แต่คอนโดที่จะให้ชมกันในวันนี้นี่แหละจะเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจครับ​

ทำเลที่ตั้ง​

คอนโดแอทโมซ ศรีราชา ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ตรงข้าม ม.เกษตรฯ ศรีราชาเลยครับ อย่างที่เกริ่นไปเบื้องต้นที่นี่เป็นแหล่งงานชั้นดี นอกจากจะมีบริษัทน้ำมัน-เคมีภัณฑ์ มีนิคมใกล้เคียงอย่างแหลมฉบัง และนิคมปิ่นทองแล้ว แถวนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Thailand Digital Valley เมืองนวัตกรรมที่จะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ศูนย์รวมความพร้อมสำหรับทดสอบนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูง มุ่งสู่การเป็น Digital Hub ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน อารมณ์แบบ Silicon Valley ของเรา (คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายใน 2 ปีจากนี้ครับ)​

สิ่งอำนวยความสะดวกในย่านก็ยังมีทั้ง โรงพยาบาล โรงเรียน แหล่งช้อปปิ้ง อย่างโรบินสัน ศรีราชา, ตึกคอม, แม็คโคร, ฮาร์เบอร์ มอลล์ หรือจะหาของกินใกล้เคียงก็เพื่อนบ้านใกล้ชิดเรานี่เองที่ Portobello Sriracha ครับ​

​ภาพรวมโครงการ​

เวลาที่ผมไปดูคอนโดนอกกรุงเทพ ก็มักเห็นว่าโครงการจะทำแบบลดนั่นทอนนี่ไปนิดๆ หน่อยๆ ให้ราคาไม่สูงเกินไป แต่สำหรับที่นี่พูดได้ว่า จัดเต็ม Facilities เป็นการยกระดับคุณภาพให้เท่ากับคอนโดในเมืองเลย โดยผสมผสาน Urban Lifestyle เข้ากับความพิเศษของศรีราชาเอาไว้ด้วยกันครับ​

Atmoz Sriracha เป็นคอนโด 8 ชั้น 3 อาคาร รวม 539 ยูนิต บนพื้นที่เกือบ 4 ไร่ ดีไซน์หลักจะเน้นเส้นสายแบบ Mid-Century Modern ไม่ว่าจะรูปทรง Arch ความโค้งเว้า เพิ่มมิติและดูเรียบหรูในเวลาเดียวกัน ตัวอาคารใช้โทนสีอ่อนทั้งขาวและครีม โดยมีไฮไลต์คือ การปูพรม Facilities กว่า 20 รายการ ให้ใช้งานครบทุกความต้องการแถมบางห้องก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบใช้งานให้แตกต่างกันได้ทั้งกลางวัน-กลางคืน​

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ​

นี่คือจุดเด่นที่สุดของโครงการนี้ครับ มีทั้ง Facilities หลักที่รวมกันอยู่ในอาคาร Cruise Club อารมณ์เรือสำราญ ที่มีพื้นที่ดาดฟ้าเป็นสวน, ลานโยคะ, ที่นั่งพักผ่อน มีพื้นที่ภายในเป็นฟิตเนสขนาดใหญ่ และมี Balcony ให้ยืนรับลมชมวิวสระว่ายน้ำ (เหมือนได้ไปยืนที่หัวเรือแบบแจ๊คกับโรส) ที่มีทั้ง Jacuzzi, Shallow Pool และ Aqua bikes ให้ออกกำลังในตัว อยู่เคียงข้างพื้นที่ Pool Bar & Waterfall ควบคู่กับการจัดสรรปันส่วนเป็นห้อง Game Room, VR Room, Think Space สำหรับนั่งทำงาน และยังมีฟังก์ชั่นที่สามารถ Twist ปรับได้ตามใจ ทั้ง Karaoke & Theater Room และ Co-Kitchen & Party Room ครับ เรียกว่าความบันเทิงและการพักผ่อนอยู่ในโซนเรือสำราญนี้ครบถ้วน​

ยังไม่พอนะ ยังมี Facilities กระจายไปอยู่ตามอาคารที่พักอีกทั้ง 3 Tower​

• Tower A ที่ตั้งของ Lobby หลักขนาดใหญ่แบบ Double Volume, Inspiration Room, Co-creative Space และ Sunken Courtyard ​
• ​Tower B รองรับคนแอคทีฟบนชั้น Rooftop ทั้ง Jogging Track, Climbing และลานออกกำลังกลางแจ้ง​
• ​Tower C เอาใจสายชิลล์ ทั้ง Cinema Wall, Sunken Seat, Camping Pad ควบคู่ไปกับสวนที่อยู่รวมกันอยู่บนชั้นดาดฟ้าอย่างกลมกลืน ซึ่งทั้งอาคาร B และ C มีทางเดินเชื่อมกัน รวมเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ให้เลือกใช้งาน​

​Unit Type ​

ที่นี่มีห้องหลักๆ ทั้งหมด 5 Type ภาพรวมคือ ทุกห้องเป็นครัวปิดหมดเลยแม้แต่ห้องขนาดเริ่มต้น แถมยังได้เฟอร์นิเจอร์ครบแบบ Fully-Furnished ครับ ​

1. ห้องเริ่มต้นขนาด 22.80 ตร.ม. ที่โครงการเรียกว่า 1 Bedroom เป็นห้องที่รวมพื้นที่ส่วน Living Area & Bedroom เข้าด้วยกัน แต่แยกฟังก์ชั่นของครัวออกมาให้เป็นสัดเป็นส่วน โดยมีบานเลื่อนกั้นเป็นห้องครัวปิด เพื่อไม่รบกวนการพักผ่อนด้านใน​

2. ห้อง 1Bedroom Extra ขนาด 24.80 ตร.ม. เป็นห้องตอนลึกที่กั้นพื้นที่ ครัว – Living Area – ห้องนอน เป็นสัดเป็นส่วนครับ​

3. ห้อง 1Bedroom Exclusive ขนาด 27.30 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้าง ได้พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ สบายขึ้นเยอะ ส่วนครัวอยู่ติดกับระเบียงเปิดระบายอากาศได้สะดวก​

4. ห้อง 1Bedroom Exclusive Private ขนาด 27.30 ตร.ม. ห้องนี้เหมาะสำหรับใครที่อยากได้ห้องนอนเป็นส่วนตัวแบบผนังทึบ และก็ยังสามารถเข้าห้องน้ำได้ 2 ทางแบบ Double-Access อีกด้วย​

5. ห้อง 1 Bedroom Plus Type ใหญ่ที่สุดของโครงการ ขนาด 35.80 ตร.ม. นำข้อดีของทุกแบบมาไว้ด้วยกัน และได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มอีกห้องที่ใส่เตียงนอนขนาดเล็กลงไปได้ครับ​

ตัวอาคารเป็นแบบตอนลึกเข้าไปจากหน้าถนน ห้องโดยส่วนใหญ่จะค่อนข้างหันหน้าเข้าสู่ทิศเหนือและทิศใต้แบบเฉียงๆ นิดหน่อย ด้านทิศเหนือที่หันออกนอกโครงการส่วนใหญ่เป็นห้องขนาดเล็กคือ 1 Bedroom / 1 Bedroom Extra ส่วนทิศใต้นี่ได้วิว Facilities สระสวยๆ ในโครงการด้วย เกือบทั้งหมดเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive ขึ้นไป แต่ยังมีห้องขนาดเริ่มต้นจำนวน 2-4 ห้องสำหรับฝั่งนี้ โดยห้องมุมในชั้นสูงจะได้พื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่พิเศษด้วยชั้นละ 2 ห้องครับ​

​สำหรับคนที่สนใจโครงการนี้ก็ ไปชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายกันได้แล้วทุกวันครับ มีให้ดูถึง 4 ห้อง 4 รูปแบบ โครงการขายแบบ Fully-Furnished พร้อมส่วนกลางอลังการจัดเต็มแบบไม่น้อยหน้าใคร ในราคาเริ่มต้น เพียง 1.59 ล้านครับ โดยโครงการจะจัดงาน Presales ในวันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค. นี้ครับ คนที่สนใจและเห็นจากเพจ Living Sneak Peek สามารถลงทะเบียนรับส่วนลดและสิทธิในการเลือกห้องสวยก่อนใครได้ที่นี่เลย >>>https://bit.ly/335d7KZ​

ที่ตั้งสำนักงานขาย >> https://goo.gl/maps/wL8YgEkigbrG6czq6​

#LivingSneakPeek #SneakReview​ #AssetWise #AtmozSriracha

วันนี้พากันมานอก กทม. กับพิกัดแหล่งงานย่าน EEC กันที่ศรีราชาครับ

ผมจะพามาดูห้องตัวอย่างที่นี่และภาพจากโครงการสวยๆ กันด้วยครับ

นี่คือภาพ Perspective ของโครงการ Atmoz Sriracha เมื่อแล้วเสร็จครับ ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูผสมเข้ากับ Arc โค้งดูสวยเข้ามกันดีนะครับ สีละมุนดูเด่นจากหน้าถนนเลย ที่ด้านหน้าเราจะเห็น Double Volume Lobby ส่วนด้านข้างก็จะเห็นภาพ Cruise Club ที่ตั้งของ Facilities หลักของโครงการด้วยครับ เดี๋ยวไปชมกันบ้างว่าห้องตัวอย่างที่จัดไว้ที่สำนักงานขายเป็นยังไงบ้าง

เริ่มกันด้วยห้อง Type 1Bedroom Extra ขนาด 24.8 ตร.ม. ใครที่อยากได้ห้องที่จัดแบ่งสัดส่วนแต่ละพื้นที่ชัดเจนก็ต้องเริ่มที่ Type นี้แหละครับ ในไซส์นี้เค้าแบ่งห้องตอนลึกตามฟังก์ชั่นไล่เรียงกันไป จากครัวและห้องน้ำจัดไว้ด้านหน้า กั้นปิดด้วยบานเลื่อนลดปัญหากลิ่น ห้องนั่งเล่นอยู่ถัดเข้าไป และห้องนอนกับมุมทำงานอยู่ด้านในสุด ซึ่งมีบานเลื่อนกั้นไว้ถึง 2 ชั้นถัดจากประตู ลดเสียงรบกวนจากโถงทางเดินได้ดีครับ

อย่างที่บอกโครงการนี้จัดเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully-Furnished นะ จากประตูเราก็มี Digital Door lock ติดมาให้แล้ว ครัวนี่โครงการก็ทำมาให้พร้อมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง Hob / Hood จาก MEX ครับ มีตู้สำหรับเก็บของด้านบน Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ใช้งานได้เต็มที่ มี Backsplash กันกระเด็นด้วยกระเบื้อง หน้าบานสีเทาอ่อน มีฟังก์ชั่นลิ้นชักดึงเปิดสำหรับเพิ่มที่เตรียมอาหารไว้ให้ด้วย ถือว่าครบถ้วน อยู่คนเดียวนี่สบายๆ เลยครับ นอกจากห้องน้ำและระเบียงนี่เป็นพื้นลามิเนตสีเดียวกันทั้งห้องนะครับ ถ้าเป็นในส่วนครัวก็ระมัดระวังอย่าให้เปียกน้ำนานครับ

ห้องน้ำอยู่ในบริเวณนี้เช่นเดียวกัน ส่วนตัวผมชอบการจัดห้องน้ำไว้ห่างห้องนอนหน่อย ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่น แต่ถ้าใครชอบเข้าห้องน้ำกลางคืนบ่อยๆ มี Type อื่นที่จัดห้องน้ำไว้ใกล้ห้องนอนครับ อุปกรณ์ในห้องน้ำก็มาครบถ้วนแล้ว มีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือพร้อมกับกระจกบานสูง กั้นส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยกระจกเฟรมสีอ่อน ตกแต่งกระเบื้องสีเข้มลายหินขึ้นมาหน่อยให้ห้องไม่เรียบเกินไป และส่วนอาบน้ำก็เจาะช่องสำหรับวางโน่นนี่ไว้ด้วยแล้ว ก็สะดวกดีไม่ต้องเจาะชั้นวางอะไรเพิ่ม สุขภัณฑ์และ Faucet เป็นของ Cotto ครับ

สิ่งที่ผมชอบนะคือการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างตู้เก็บรองเท้า ที่เราไม่ต้องไปหาที่ทางมัน ยิ่งห้องมีพื้นที่จำกัดยิ่งต้องใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า ตำแหน่งก็คือบานกระจกฝั่งซ้ายมือของครัวนี่แหละครับ เดี๋ยวเราไปดูส่วน Living Area ด้านในต่อกันบ้าง

ไอเดียของห้องนี้คือการจัดสัดส่วนแต่ละพื้นที่ชัดเจนครับ ตอนกลางของห้องก็เป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น มีฟังก์ชั่นของโซฟาและชั้นวางทีวีอยู่ด้วยกัน เฟอร์นิเจอร์เค้าจัดมาให้ครบนะครับ แค่ว่าดีไซน์ของในห้องตัวอย่างเค้าทำมาให้สวยงามหน่อย แต่ฟังก์ชั่นเดียวกันครับ

มีแอร์อยู่ในห้องนั่งเล่นด้วย ติดตั้งในตำแหน่งโซฟาพอดี นั่งสบายๆ เลย ห้องไซส์แบบนี้บางที่ต้องแชร์แอร์กัน 2 ห้องจากในห้องนอน จัดมาแบบนี้ผมว่าดีมาก ถ้าอยู่ห้องใดห้องหนึ่งก็ประหยัดไฟกว่า

เข้ามาในส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ ห้องนี้มีจุดน่าสนใจคือ กระจกเยอะ ทั้งระเบียงและจากบานหน้าต่าง ได้ทั้งวิวและแสงธรรมชาติเต็มๆ มีมุมนั่งทำงาน และตู้เสื้อผ้ายังใหญ่สะใจครับ ฐานเตียงมีฟังก์ชั่นไว้เก็บของด้วย แต่ก็ต้องรักษาความสะอาดกันดีๆ นิดนึง ตำแหน่งแอร์อยู่ข้างๆ เตียงกำลังดี ไม่ลงหัว เย็นตัวหลับสบาย

มุมแบบนี้ถือว่าดีที่สุดเลยสำหรับการแต่งหน้า เพราะแสงธรรมชาติช่วยให้ไม่ผิดเบอร์ แถมยัง Twist เป็นมุมทำงาน มุม Hobby เพลินๆ ครับ

ผมชอบตู้เสื้อผ้าแบบบานโปร่งแบบนี้นะ ทำให้ห้องไม่แคบด้วย และยังทำหน้าที่ช่วยแต่งห้องให้ดูสวยงาม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝีมือ และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของตัวเราเองแหละ ฮ่าๆ Trade off กันกับการที่ไม่มีจุดวางทีวีในห้องก็จะได้ตู้เบ้อเร่อเต็มพื้นที่ หันไปดูทีวีจากห้องนั่งเล่นแทนแล้วกันนะครับ ตำแหน่งกำลังชดเชยกันได้

ระเบียงขนาดใช้งานได้เลยครับ จัดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบน ตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าก็ตรงนี้นี่แหละครับ แต่ถ้าใครไม่ได้อยู่ตลอด เปิดเอาไว้โล่งๆ ไว้มารับลมชมวิวก็โปร่งดี

จบจากห้องนี้แล้วไปชมห้องที่ 2 ต่อกันเลย

ห้องนี้คือแบบ 1 Bedroom Exclusive ขนาด 27.3 ตร.ม. ครับ จุดเด่นคือจะเป็นห้องหน้ากว้าง ขนาดใหญ่ขึ้นและใส่ฟังก์ชั่นได้ครบสำหรับ 1 ห้องนอนครับ จะสลับตำแหน่งบางฟังก์ชั่นกับห้องที่แล้วนิดหน่อยเรามาดูกันครับ

จากหน้าห้องคือตำแหน่งตู้เก็บรองเท้าและของจุกจิกหน้าห้อง ถัดไปเป็นส่วน Living Area เป็น Layout มาตรฐานที่เราคุ้นเคยกันดีกับห้องแบบ 1 ห้องนอน

ฟังก์ชั่นที่เค้าเพิ่มลงไปสำหรับห้องนี้คือ โต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่ง ดูเหมาะกับพื้นที่ ซึ่งเราก็เอาไว้ใช้นั่งทำงานได้ด้วย กั้นสัดส่วนระหว่าง 2 ห้องด้วยบานเลื่อนสีขาว ห้องนอนสำหรับห้องนี้ก็จะได้ตู้ที่มีขนาด 2 หน้าบานนะครับ ย่อมกว่าห้องแรกหน่อย แต่ดีไซน์เดียวกันครับ

เดี๋ยวเข้าไปชมในห้องนอนกันบ้าง

ห้องนอนอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ สำหรับผมขนาดนี้โอเคเลยสำหรับคอนโดนอกกรุงเทพฯ ตำแหน่งตู้เสื้อผ้าแบบนี้ก็จะมีทีวีติดอยู่ฝั่งปลายเตียงครับ (แอร์ก็เช่นกัน) นอนดูทีวีในห้องนอนได้แล้ว

สิ่งที่แตกต่างใน Layout เราจะเห็นตรงนี้แหละครับ ห้อง Living Area ที่จะทางเดินเล็กๆ เชื่อมไปอีกฟากของห้อง ที่สุดทางเดินเค้ามีตู้เก็บของมาให้ใช้งาน ฝั่งซ้ายมือหลังทีวีคือตำแหน่งห้องน้ำ และฝั่งขวามือคือตำแหน่งของครัวครับ ห้องน้ำตรงนี้ก็จะใช้งานจากทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นสะดวกนะ เมื่อเทียบกับห้องแรก

ห้องน้ำก็เป็นฟังก์ชั่นและดีไซน์เดียวกันครับ

ส่วนครัวจะอยู่ติดกับระเบียง อันนี้เป็นตำแหน่งของครัวที่ดี เหมาะสำหรับคนชอบทำอาหาร ต้มผัดแกงทอดหอมอร่อยในพริบตา เปิดระบายอากาศง่าย และยังช่วยนำทางโฟลวของอากาศเวลาอยากให้ห้องน้ำไม่อับชื้นได้ด้วย

จบทั้งหมดในห้องนี้ไปต่อห้องถัดไปกันเลย

ห้องดีไซน์ร้อนแรงจัดจ้านนี้เป็น Type 1Bedroom Exclusive Private ขนาด 27.3 ตร.ม. ครับ จะสังเกตเห็นว่าขนาดห้องเท่ากับห้องที่แล้วนี่แหละครับ แต่ด้วยความ “Private” เค้าปรับห้องนี้สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวในห้องนอนครับ คือจะได้ห้องนอนเป็นผนังทึบ ถ้าดูจากภาพนี้ก็จะเห็นว่าสุดทางของห้อง ฝั่งนึงเป็นครัว อีกฝั่งที่เป็นประตูนั่นก็คือห้องนอนครับ

จริงๆ ห้องมันก็ทำหน้าที่สร้าง Space กำหนดฟังก์ชั่นคร่าวๆ ให้เราได้ใช้ตามที่ดีไซเนอร์ออกแบบมา แต่ความร้อนแรงจัดจ้านนี่ก็ตกแต่งได้ตามใจผู้อยู่เนาะ อย่างห้อง Living Area นี้ก็ฟังก์ชั่นเหมือนห้องที่แล้วเลยครับ

จุดเด่นเดียวกันคือได้ครัวปิด ติดระเบียง ทำกับข้าว ซักผ้า ตากผ้า จบอยู่ฝั่งนี้ ตำแหน่งครัวติดกับโต๊ะทานข้าว ก็สะดวกในการใช้งาน หรือนั่งกินจุบจิบก็เหมาะดี มีหนมอยู่ใกล้มือ

ไปต่อกันในห้องนอนกันเถอะ

สิ่งที่แตกต่างกับห้องที่แล้วคือ ห้องนี้มีพื้นที่สำหรับจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งลงไปข้างเตียงด้วย สะดวกดีใช้ได้หลายฟังก์ชั่น นั่งทำงานก็ได้

จัดเรียงกันไปแบบนี้แหละครับ สีสันเยอะ แต่ก็ดูเข้ากันดีนะ ส่วนผมวัยกลางคนแล้ว ขอแต่งสีเบาๆ แบบมินิมอลก็พอ ฮ่าๆ

อีกข้อนึงที่ดีสำหรับห้องนี้คือ ห้องน้ำเข้าได้แบบ 2 ทางครับ จากห้องนอนก็ได้ ห้องนั่งเล่นก็ได้ สะดวกสำหรับทุกสถานการณ์เลย

จบจากห้องนี้ไปต่อห้องสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดกันครับ

คือแบบ 1Bedroom Plus ขนาด 35.8 ตร.ม. ครับ

ห้องนี้รวมข้อดีหลายๆ แบบ และเพิ่มฟังก์ชั่นได้มากขึ้น ก็ด้วยพื้นที่นี่แหละครับ มีครัวปิดอยู่ด้านหน้าห้อง (บานเลื่อนฝั่งซ้ายมือ) ถัดไปเป็นห้องน้ำที่เป็นแบบ Double Access ทั้งจากห้องน้ำและห้องนั่งเล่น ห้องนอนเป็นส่วนตัว และที่เห็นห้องอยู่ด้านหลังโซฟานั่นคือห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาให้ใช้ครับ

ส่วน Living Area ก็ออกแบบมาให้ฟังก์ชั่นของโต๊ะทานข้าวหันเข้าหาทีวีวางอยู่หลังโซฟาด้วย ซึ่งจาก Layout ก็ต้องจัดแบบนี้นี่แหละครับที่จะได้ใช้งานต่างๆ ตามพื้นที่ให้ได้ประโยชน์ที่สุด

อีกฝั่งนึงคือพื้นที่ห้องครัวและห้องน้ำครับ ตำแหน่งแอร์ก็อยู่ตรงนี้ ซึ่งแม้จะดูพอดี๊พอดีไปนิด แต่สะดวกเวลา Service นะครับถ้าเทียบกับบางที่ที่อยู่เหนือทีวีพอดี

ห้องครัวได้ใหญ่สะใจเลยครับมีทั้ง 2 ฝั่ง พื้นที่ตู้เก็บของก็มีมากขึ้น และเค้าก็ขยับตำแหน่งเครื่องซักผ้ามาไว้จุดนี้ เวลาเรามาดูห้องตัวอย่างก็จะได้ไอเดียในการใช้พื้นที่ต่างๆ นะ สังเกตดีๆ ข้างเครื่องซักผ้าเค้าจัด Shelf ล้อเลื่อนที่ใส่เข้าไปได้พอดิบพอดี เพิ่มพื้นที่ไว้เก็บอุปกรณ์ Laundry ต่างๆ เอาไอเดียไปใช้ได้เลย

ห้องน้ำนี่ผมถ่ายรูปจากประตูฝั่งห้องนั่งเล่น ที่เราเห็นตู้สีน้ำตาลอ่อนทางขวามือก็คือประตูจากห้องนอนครับ ห้องนี้ในห้องน้ำไม่ได้เจาะช่องวางของมาให้ด้วยตำแหน่งของพื้นที่ เราก็ต้องมี Shelf วางของเพิ่มไว้หน่อยอย่างห้องตัวอย่างครับ

ไปดูในห้องนอนกันต่อเลย

ห้องนอนจัดไว้ในสุดชิดกับบานหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่เปิดเป็นบานกระทุ้งไว้ระบายอากาศ สีสันกับโทนห้องนี้ก็ดูสุขุมขึ้นมานิดนึง ดูเป็นวัยผมดีครับ

ด้วยพื้นที่ก็สามารถจัดวางได้ทั้งโต๊ะแป้ง และตู้เสื้อผ้าไว้ในห้องนอนได้เลย ติดกับทางเข้าห้องน้ำนี่แหละครับ โต๊ะเครื่องแป้งในห้องนี้ก็ไม่ต้องหลากฟังก์ชั่นแล้วเพราะว่าเรามี..

ผ่ามพ้าม! ห้องอเนกประสงค์นั่นเองครับ ห้องนี้เค้าลองแต่งเป็นห้อง Workstation และห้องอ่านหนังสือไว้ในคราวเดียวกัน อยู่ติดกับระเบียง ห้องมาตรฐานไม่ได้ติดตั้งแอร์ในห้องนี้ ก็เปิดระเบียงรับลม หรือว่าแชร์มาจากห้องนั่งเล่นเอาครับ

มุมทำงานนับวันก็ยิ่งสำคัญสำหรับคนที่ Work From Home นะ ห้องนี้น่าจะตอบโจทย์สำหรับวิถีชีวิตยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปได้ดีครับ

เอาล่ะ ครบจบทุกห้องกันแล้วนะครับ ต่อไปผมขอทิ้งท้ายด้วยภาพรวมโครงการกันอีกสักนิดครับ

Facilities คือจุดเด่นที่สุดของที่นี่กันเลยครับ มีให้เลือกใช้ละลานตา แล้วแต่ Lifestyle ของแต่ละคนเลย และมีกระจายให้ใช้กันทุกอาคาร รวมกับ “Cruise Club” ที่เป็นอาคารหลักด้วยครับ

Lobby สูงโปร่งแบบ Double Volume

มีสระว่ายน้ำ พร้อมห้องสำหรับทำกิจกรรมสนุกๆ

รวมถึงมุมนั่งพักผ่อนในสไตล์แคมป์ปิ้ง ชิลล์ๆ ท่ามกลางสวน

หรือจะเน้นออกแรงสไตล์คนแอคทีฟก็มีทั้ง Outdoor และ Indoor ครับ