คอนโดพร้อมอยู่ ‘Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ’ เพียง 220 ม. ถึง MRT สายสีน้ำเงิน ใกล้ห้างซีคอนบางแค เริ่ม 2.39 ล้าน

วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมคอนโดสำหรับคนที่มีงบสองล้านกว่า อยากได้คอนโดใกล้รถไฟฟ้าแบบเดินได้ อยากใช้ชีวิตใกล้ห้างใหญ่ที่มีของครบ และยังวางใจได้เรื่องอาหารการกินที่มีเพียบ นี่คือคอนโดพร้อมอยู่ “Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ” ใกล้ MRT สถานีภาษีเจริญในระยะ 220 ม. ในราคาเริ่ม 2.39 ล้าน ครับ

​สำหรับผมนะนึกถึงสถานีภาษีเจริญ ก็ต้องบอกว่าเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งบนถนนเพชรเกษม เพราะมีทั้งห้างซีคอนบางแคที่เดินทะลุเชื่อมต่อสถานีได้สบ๊ายสบาย จริงๆ แค่ห้างนี้ห้างเดียว ผมว่าก็เป็นตัวแทนความอิ่มหนำสำราญของสถานีได้แล้วครับ ตั้งแต่เห็นห้างวางรากฐานไว้เมื่อ 11 ปีก่อน มีการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อะไรไม่ดีเค้าก็หมุนเอาร้านค้า ร้านอาหารใหม่ๆ มาลง ทุกวันนี้คิดถึงญี่ปุ่นก็มีดองกี้สาขาแรกของฝั่งธนฯ อยากบินไปแผ่นดินใหญ่ก็มีซุปเปอร์หวังจงหวัง หิวข้าวก็มีสุกี้ตี๋น้อย โอ้กะจู๋ควงคู่มาเปิดให้บริการ ผสานกับอีกหลากหลายร้านละลานตา คนมีบ้านก็ได้มาช้อป HomePro มีลูกเล็กเด็กน้อยยังไม่โตก็มาเล่นใน Mega HarborLand สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ติดอันดับโลก

​นี่คือภาพของศูนย์การค้าซีคอนบางแค ที่ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 40 ไร่ และนับวันจะยังพัฒนามี Activities ใหม่ๆ ผลัดเปลี่ยนมาให้เราได้ไปทำอะไรเสมอ

​แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะสถานีนี้มีอาหารการกินอร่อยๆ รองรับทุกวันในตลาดเสนีย์ฟู้ดที่สะดวกสุดๆ เพราะอยู่ตรงทางขึ้นรถไฟฟ้าตรงข้ามห้างพอดิบพอดี ตรงนี้เป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ดอร่อยๆ ซึ่งบางร้านก็เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ยัง ยังไม่พอ เลยไปอีกนิดมี มีตังค์ พลาซ่า ที่รวมร้านอาหารไว้อีก ไม่ว่าจะย่างเนย, ถิงถิง และทีเด็ดคือ Hotpot Man ร้านขวัญใจผมเองมาเปิด ถามว่าอยู่ในสถานีภาษีเจริญจะอดไหม ก็ตอบได้ว่าไม่ แต่ให้คิดว่าจะลดน้ำหนักยังไงจะดีซะกว่า ฮ่าๆ

​เมื่อก่อนจะมาย่านนี้ก็คงมาหาอะไรกิน อะไรช้อปแล้วก็กลับไป แต่นับตั้งแต่มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินผ่านด้วยก็น่าอยู่เป็นที่สุด ที่ผ่านมาเราก็จะได้เห็นโครงการมาเปิดในโซนนี้กันบ้าง แต่ก็มักจะเป็นโครงการสเกลขนาดใหญ่หลักพันยูนิต แต่โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญนี้จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพียง 378 ยูนิต กับห้องขนาดเริ่มต้นที่มีพื้นที่ใหญ่เพียงพอกับการอยู่อาศัยสบายๆ 30.5 ตร.ม. ครับ

คอนโด Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ

บรรยากาศในคอนโดค่อนข้างสงบ แม้จะอยู่ติดถนนเพชรเกษมที่เป็นเส้นทางสัญจรสำคัญ เค้าแบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น 3 โซน คือ

  • ชั้น G ด้านหน้าอาคารมีพื้นที่สีเขียวที่ให้ความร่มรื่น และก็เป็น Buffer zone จากถนนด้านหน้า พอเข้ามาด้านในก็จะพบกับส่วนของ Lobby ที่รวมพื้นที่นั่งพักผ่อน พบปะพูดคุย หรือนั่งทำงานบนโต๊ะใหญ่สบายๆ เข้าไว้ด้วยกัน
  • ชั้น 5 ขึ้นมาที่ชั้นนี้จะเป็นส่วนของคน Fit & Firm (ส่วนผม Fat & Furious เหมาะกับของกินใกล้คอนโดมากกว่า) ​ โซนนี้มีทั้งสระว่ายน้ำ จากุซซี่ สระเด็ก พร้อมสวนและพื้นที่นั่งเล่นพักหย่อนผ่อนใจโดยรอบ ส่วนใครชอบออกกำลังกายใต้สายลม (แอร์) เย็นๆ ก็มีฟิตเนสที่ได้มองสระว่ายน้ำในแนวยาวเพลินๆ ด้วยเช่นกันครับ
  • ชั้น 24, 25 และ Rooftop นี่เป็นโซนสุดท้ายที่เค้าจัดวาง Facilities ไว้ด้านบนสุดของอาคารเพื่อวิวทิวทัศน์ที่สวยงามด้วย การนั่งชมใน Sky Lounge ที่ออกแบบมาให้มีมุมที่นั่งหลากหลาย ไม่ว่าจะนั่งเดี่ยว นั่งเป็นกลุ่ม หรือนั่งแบบส่วนตั๊วส่วนตัวจ้องตากันในซุ้มของสองเราก็มีให้ใช้ครบครับ ด้านนอกก็มีทั้งสวนสีเขียว และส่วน Sunset Bar ที่ผมว่านั่งรับลมได้เพลินๆ เลย รวมทั้งยังมีมุมลับที่ต้องขึ้นบันไดไปอีกสเต็ป เป็นส่วนของ Playground ที่รวมกิจกรรม Rock Climbing และลานสเก็ตสีสันจี๊ดใจเอาไว้ด้วยกันให้ใช้งานครับ

สุดท้ายนี้เราจะพาทุกคนไปดูห้องตัวอย่างของจริงบนตึกกันด้วยครับ สิ่งที่ผมชอบคือโครงการนี้ไม่มีห้องจิ๋ว เริ่มต้นที่ 1 Bedroom ขนาด 30.5 – 35 ตร.ม. ถัดมาเป็น 1 Bedroom Plus ขนาด 45.5 ตร.ม. (เราพาไปดูทั้งคู่เลย) และหากต้องการห้องใหญ่ไซส์ครอบครัวก็มี 2 Bedroom ขนาด 53 – 63 ตร.ม. รวมทั้งใหญ่ที่สุดคือแบบ 3 Bedroom ขนาด 80-88 ตร.ม. กันไปเลยครับ

ในห้องโปร่งด้วยระยะเพดานสูง 2.7 ม. โครงการตกแต่งชุดครัวและห้องน้ำมาให้ ได้อุปกรณ์สุขภัณฑ์สีดำเข้มขรึมพร้อมกับ Rain Shower ซะด้วย ในราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 7 หมื่นต้นๆ ต่อตร.ม. หรือในตอนนี้ที่เหลือห้องไม่มากแล้วราคาเริ่มที่ 2.39 ล้าน ซึ่งเค้าก็ฟรีค่าใช้จ่ายให้หลายรายการจะได้เข้าอยู่ง่าย ไม่ว่าจะค่าธรรมเนียมการโอนฯ ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลางปีแรก ค่ามิเตอร์ไฟ ค่ากองทุน พร้อมกับส่วนลดและของแถมอีกมากมาย ใครที่สนใจก็ลงทะเบียนรับสิทธิได้ที่นี่เลยครับ >> https://bit.ly/4e6mqdl

Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ

คอนโดนี้เป็นอาคารสูง 25 ชั้น รวมห้องพักอาศัย 376 ยูนิต พร้อมที่จอดรถ 50% ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีภาษีเจริญสมชื่อเพียง 220 ม. เดินทางง่ายแต่ก็ยังมีที่จอดรถให้ใช้ได้เลย

พื้นที่ส่วนกลางที่นี่กระจายให้ใช้งานกันตั้งแต่ชั้นล่างไปจนถึง Rooftop ขนาดใหญ่สบาย ไม่อึดอัด เดี๋ยวจะพาไปชมทั้งหมดทุกส่วนเลยครับ

เราเริ่มการสำรวจบริเวณโครงการจากสถานี MRT ภาษีเจริญกันก่อน

ติดกับสถานีเลยมีห้างใหญ่ประจำทำเลนี้อย่าง ‘ซีคอนบางแค’ อยู่ ของกิน-ของใช้-ไลฟ์สไตล์ที่นี่มีให้ครบ อะไรไม่ work เค้าเปลี่ยนตลอด และก็หาอะไรใหม่ๆ มาลงเสมอ

มองลงมาจาก BTS อีกฝั่งก็จะเจอกับตลาดเสนีย์ ฟู้ด มาร์เก็ต ตรงนี้บางร้านเปิด 24 ชั่วโมง เป็นตลาดที่ติดรถไฟฟ้าอย่างนี้สะดวกจริงๆ

ของกินทั้งในตลาดและรอบตลาดเยอะมากๆ เลือกกินไม่ถูกกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะสตรีทฟู้ดแบบไทยๆ คาเฟ่ หรืออาหารเกาหลี หิวท้องกิ่วบนรถไฟฟ้า ลงมาโซ้ยได้ทันที

และตรงนี้ก็ไม่ได้สะดวกแค่กับคนที่ใช้รถไฟฟ้านะครับ เพราะเดินถัดมาอีกหน่อยก็มีปั๊มน้ำมันสำหรับคนที่ขับรถยนต์ส่วนตัวด้วยจะเลือกเดินทางยังไงได้หมด

มาอีกหน่อย เกือบถึงโครงการฝั่งตรงเป็นโรงพยาบาลมิตรประชา หรือที่เดิมรู้จักกันในชื่อโรงพยาบาลเพชรเกษม 2 เกิดเหตุเจ็บป่วยจำเป็นก็มีหมออยู่ใกล้มากๆ

เดินไม่กี่นาทีจากรถไฟฟ้าก็ถึงโครงการแล้วครับ

เข้ามาถึงโครงการจะเจอกับสวนเล็กๆที่ด้านหน้าก่อน เป็นพื้นที่เพิ่มความชุ่มชื่นให้ร่างกาย และกำบังความวุ่นวายจากถนนภายนอก

มาในส่วน Lobby กัน ตรงนี้มีชื่อว่า Inspired Living และ Inspired Creativity เป็นพื้นที่ต้อนรับสำหรับแขกและลูกบ้านเพื่อความประทับใจแรกตั้งแต่ก้าวเข้ามา

ที่นั่งใน lobby มีเยอะ และค่อนข้างหลากหลาย ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งเล่น นั่งทำงานได้ตลอดทั้งวัน

ในห้องจดหมายมีการจัดโต๊ะ-เก้าอี้ไว้แล้ว เผื่อใครที่ต้องการเขียนหรือจัดการพัสดุก็สามารถทำได้ตรงนี้เลยครับ มุมเล็กๆ แบบนี้ก็เพราะเค้าคิดมาเผื่อนี่แหละ

ด้านข้างเคาน์เตอร์ Lobby จะเป็นซุ้มประตูโค้งเข้าสู่โถงลิฟต์ ที่นี่มีลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น 3 ตัว กับลิฟต์ Service อีก 1 ตัว

ขึ้นมาที่ชั้น 5 ชั้น มาดู Main Facilities ของวันนี้กัน

สระว่ายน้ำที่นี่จะเป็น ระบบเกลือ ลึก 1.1 ม. นะครับ มีโซนสระเด็กกับ Jacuzzi ด้วย ออกแบบให้สระอยู่ต่ำลงไประดับเดียวกับต้นไม้รอบๆ ได้อารมณ์ร่มรื่นแบบว่ายน้ำในสวน

คุณพ่อคุณแม่ที่มาเฝ้าลูกๆเล่นน้ำ ทางโครงการเขาก็จัดที่นั่งในร่มไว้ให้แล้ว

ส่วนฟิตเนสของที่นี่ใช้ชื่อว่า Inspired Fitness มีอุปกรณ์หลากหลายเลย ทั้งคาร์ดิโอ Weight Training และ Machine มีทีวีให้ดูด้วย

ห้องนี้ออกแบบมาให้ตำแหน่งตรงกับสระว่ายน้ำ ออกกำลังกายไปมองวิวสระว่ายน้ำกับสวนเขียวไป มีแรงฟิตหุ่นแน่นอน

ที่นี่เขาใช้เป็นลิฟต์ด้านในระบบสัมผัสนะครับ ส่วนด้านหน้าก็ผายมือขึ้นลงแทนการกดได้ และมีทางลาดสำหรับรถเข็นรองรับด้วย Universal Design ไม่ว่าใครก็ใช้ส่วนกลางได้สะดวก

มากันที่ห้อง Sky Lounge ที่ชั้น 25 ความรู้สึกแรกที่ผมสัมผัสได้คือห้องนี้โปร่ง สว่าง สบายตาดีมากเพราะทางโครงการออกแบบมาให้ห้องนี้เพดานสูง มีกระจกโค้งรอบด้าน นั่งชมวิวสวนวิวเมืองรอบๆ ส่วนภายในห้องเองก็ตกแต่งมาได้สวยเลย

ห้องนี้ไม่ว่าจะมานั่งเล่นพักผ่อนชมวิว หรือจะมานั่งทำงาน ทางโครงการก็จัดพื้นที่ไว้แล้วครับ แบ่งโซนชัดเจนดีมาก ส่วนมุมซ้ายสุดดูเหมาะจะมานั่งกระหนุงกระหนิงดีนะครับ ฮ่าๆ

ใครที่ชอบนั่งทำงานคนเดียว มุมนี้ก็ส่วนตัวดีนะครับ ได้ดูวิวเพลินๆด้วย นี่เป็นมุมที่ผมชอบของโครงการนี้ครับ

เห็นวิวเมืองกว้างเลยครับ น่ามานั่งเล่นช่วงเย็นๆบรรยากาศดี

ขึ้นมาที่ดาดฟ้าก็จะเจอกับมุมลับ Playground Climbing เด็กๆต้องชอบโซนนี้มากแน่ มาปีนหน้าผาจำลอง เล่น Surf Skate กันสนุกเลย และนี่ก็ครบทุกส่วนของพื้นที่ส่วนกลางแล้วครับ เดี๋ยวตามไปดูในห้องกันต่อเลย

มาดูห้องตัวอย่างห้องแรกกันครับ กับห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตร.ม.

เปิดเข้ามาพบกับความน่าอยู่

อย่างแรกที่เจอเมื่อเปิดเข้ามาในห้องคือ เขาลองทำตัวอย่างจัดโซนนั่งใส่รองเท้าไว้ให้ด้วย แบบนี้ใช้ชีวิตสะดวกขึ้นเยอะ ที่ทำได้เพราะระยะของห้องที่อยู่ตรงข้ามครัวมีพื้นที่เหลือสำหรับบิวท์อินครับ

สำหรับโครงการนี้จะได้ห้องน้ำเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปนะครับ เข้าได้จากฝั่งตรงข้ามครัวเช่นกัน

ห้องนี้เป็นห้องครัวแบบเปิดครับ ชุดครัวทางโครงการก็ให้มาแบบ Built In ตามนี้เลย มีทั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และก็แต่งตัวแขวนอุปกรณ์เครื่องครัวมาให้เรียบร้อย

ถัดจากครัวมาทางโครงการก็มีการเว้นช่องใส่เครื่องซักผ้ามาให้ด้วย ตำแหน่งของเครื่องซักผ้าก็อยู่ถัดกันกับส่วนครัวเลย

ห้องเพดานสูง 2.70 เมตร กั้นห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน เปิดได้กว้างมากเข้าออกก็สะดวกถึงห้องนั่งเล่นจะอยู่ด้านในแต่ยังรู้สึกโปร่ง ได้รับแสงธรรมชาติ

ห้องนอนค่อนข้างใหญ่ วางเตียง 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่รอบเตียงแบบเดินได้สบายๆ

ห้องนี้อยู่คนเดียว – 2 คนขนาดกำลังเหมาะเลยครับ

ผมชอบมากเลยโต๊ะทำงานริมหน้าต่างแบบนี้ ได้ทำงานไป ชมวิวไป มีกำลังใจในการทำงานขึ้นเยอะ

ฝั่งปลายเตียงก็เป็นที่สำหรับทำบิวท์อินตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ ถ้าใครอยากได้ตู้ใหญ่หน่อย ผมว่าบิวท์รวบทั้งฝั่งนี้ไปเลยก็จุใจดี ค่อยไปติดกระจกด้านในตู้แทนก็ได้เหมือนกัน ในส่วนของระเบียงห้องนี้มีคอมแอร์ 2 ตัวนะครับ แขวนอยู่บริเวณด้านบน แถมเราก็ไม่ได้วางเครื่องซักผ้าตรงนี้ พื้นที่ระเบียงข้างล่างก็ใช้ได้เต็มที่เลยครับ

พามาดูอีกห้องกันครับ แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 45.5 ตร.ม. ห้องนี้เท่มาก

ห้องนี้ตกแต่งมีความสุขุมขึ้นนะ

ทุกห้องที่นี่ได้ Digital Door Lock ด้วยน้า ราคานี้เค้าให้ของมาใช้ได้เลย

เข้ามาก็พบกับโซนครัวก่อนนะครับ เป็นครัวเปิดเหมือนกัน แต่ใหญ่ขึ้นมาอีก ฝั่งนึงบิวท์เป็นชุดครัว อีกฝั่งเป็นที่ตั้งของตู้เย็นกับเครื่องซักผ้า ไอเดียทำที่ครอบเครื่องซักผ้านี่เราเอาไปใช้ได้เลย ได้พื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้น ดูสวยงามด้วย

ก็ได้เป็นมุมสำหรับหนุ่มสาวหัวใจบาริสต้า เอาไว้ชงชา ดริปกาแฟ พอดี๊พอดี

ถัดจากโซนครัวก็มีการเว้นพื้นที่สำหรับโต๊ะทานอาหารไว้ค่อนข้างกว้าง ระยะตรงนี้วางโต๊ะ 4 ที่นั่งยังได้

ในห้องตัวอย่างนี้ทางโครงการจัดเป็นโต๊ะแบบติดผนัง ก็ดูดี มีความ Loft ไปอีกแบบ ใช้พื้นที่น้อยดี ห้องก็ดูกว้างขึ้นด้วยครับ มีจุดดริปกาแฟแล้ว มีที่นั่งบาร์แบบนี้ ดูเข้ากัน เปิดคาเฟ่ในห้องได้ ฮ่าๆ

ถัดไปก็เป็นส่วนนั่งเล่นครับสามารถวางโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง และชั้นวาง TV เป็นมุมสบายในห้อง

ถัดไปก็เป็นส่วนนั่งเล่นครับสามารถวางโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง และชั้นวาง TV เป็นมุมสบายในห้อง

หรือถ้าเรามี Passion และงานอดิเรกอะไร ก็พื้นที่ตรงนี้แหละ เอาไว้ทำตามใจฉัน

แล้วห้องนี้ก็ไม่ใช่ห้องทำงานจริงจังซะทีเดียว มีเดย์เบดไว้นอนเล่นชมวิวติดหน้าต่างซะด้วย ถ้าหาผมไม่เจอก็คงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ตรงนี้แหละ มุมโปรด

แล้วห้องนี้ก็ไม่ใช่ห้องทำงานจริงจังซะทีเดียว มีเดย์เบดไว้นอนเล่นชมวิวติดหน้าต่างซะด้วย ถ้าหาผมไม่เจอก็คงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ตรงนี้แหละ มุมโปรด

ได้มาเป็นห้องนอนแนวยาวแบบนี้เลย

ห้องนี้จัดเตียงให้อยู่ด้านในสุดให้ความรู้สึกว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวได้เป็นอย่างดี เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว

พื้นที่ขนาดนี้ จัดสรรฟังก์ชันต่างๆ ได้ครบเลย ทั้งโซนแต่งตัว แต่งหน้า ใช้พื้นที่ได้เยอะแล้วแต่เราจะปรับ ถ้าเป็นสายแฟชั่น ก็จัดโซนนี้เอาให้จุใจ

ส่วนห้องน้ำใน Layout นี้จะเป็นห้องส่วนตัวอยู่ในห้องนอนครับ ฝักบัว สายฉีดชำระ ก๊อกน้ำสีดำ จาก Hafele เข้ากับสไตล์ห้อง

แถมยังได้ Rain Shower อีกต่างหาก ก็ครบและน่าใช้ดีครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวความน่าสนใจของคอนโดพร้อมอยู่จากศุภาลัย “Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ” ที่เราพาทุกคนมาชมกันครับ ถ้าผมสรุปเป็นสั้นๆ ก็คงเหมือนกับคำโปรยที่ว่า นี่คือคอนโดสำหรับคนวัยทำงานที่มีงบสองล้านกว่า อยากได้ห้องใกล้รถไฟฟ้าแบบเดินได้ ใกล้ห้างใหญ่ที่มีของครบ และมีความสงบไม่วุ่นวาย ตอนนี้ใกล้จะปิดโครงการแล้วขอชวนทุกคนไปดูของจริงกันนะครับ การบาลานซ์ระหว่างราคา สเปค และทำเล นี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกโครงการนึงเลยครับ