เราขอเก็บตกภาพบรรยากาศจากกิจกรรมอาบป่า ที่ได้ไปร่วมทำกันมาที่โรงแรมศุภาลัย ป่าสัก รีสอร์ทแอนด์สปา จ.สระบุรี มาให้ชมกันครับ เราพอได้เข้าใจความหมายของคำว่า “อาบป่า” ได้ดีขึ้นจากท่านวิทยากรจากนิตยสารคดี ผู้นำกิจกรรมในครั้งนี้
อาบป่า ไม่ใช่การไปเดิน เทรกกิ้ง หรือวิ่งเทรลในสภาพแวดล้อมป่าเขาลำเนาไพร แต่เป็นการนำตัวเองเข้าไปอยู่ พร้อมกับเปิดประสาทสัมผัสเพื่อซึมซับ รับรู้ และเชื่อมต่อบรรยากาศของป่าผ่านร่างกายของเราด้วยผัสสะทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็นการ “มอง” ที่จะต้องมองให้ลึก มองใกล้ ไกล จับรายละเอียด “ฟัง” ให้รอบ แยกแยะเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายลม ใบไม้พลิ้วไหว หรือเสียงนกร้อง “ดม” รับรู้กลิ่นของสรรพสิ่งรอบข้าง โดยเฉพาะ ไฟตอนไซต์ หรือน้ำมันหอมระเหยจากต้นไม้ใหญ่ที่นอกจากจะเอาไว้ป้องกันตัวเองจากแมลงแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นเลิศในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์กำจัดมะเร็งในร่างกายมนุษย์ “สัมผัส” เอาตัวเองเข้าไปสัมผัสสิ่งต่างๆ ในป่า และสุดท้ายก็คือ “รับรส” ด้วยการกินผลหมากรากไม้ ผลิตผลจากป่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะทำไปโดยไม่เร่งรีบ ใช้เวลากับตัวเองให้กลับมาสู่ธรรมชาติมากที่สุดครับ
กิจกรรมอาบป่านี้ ได้รับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แล้วด้วยนะครับ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นที่เรียกว่า “Shinrin yoku” ซึ่งได้ค้นพบผลลัพธ์ที่ทำให้ร่างกายและจิตใจมีสุขภาพที่ดีขึ้น ผ่อนคลายความเครียด และช่วยป้องกันโรคได้อีกด้วย ซึ่งก็เหมาะกับชีวิตคนเมืองที่หลงลืมความเป็นธรรมชาติอย่างเรามากๆ เค้าบอกว่า การได้ใช้เวลาอาบป่าอยู่สักวัน ก็จะให้ผลที่ดีอยู่กับร่างกายเราเป็นสัปดาห์เลยครับ
ใครที่อยากหากิจกรรมผ่อนคลาย และได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ลองเลือกกิจกรรมอาบป่า ดูนะครับ อาจจะต้องหากลุ่มที่เค้าทำกิจกรรมแบบนี้ดู เพราะเค้าจะได้ช่วย Guide วิธีการให้เราอาบป่าได้อย่างถูกต้อง บางจังหวัดที่ไม่ไกลกรุงเทพก็จะมีพื้นที่ที่เหมาะสมจะทำกิจกรรมแบบนี้อยู่บ้าง เช่น กาญจบุรี หรือที่เรามาในโรงแรมศุภาลัย ป่าสัก รีสอร์ทแอนด์สปาที่สระบุรี นี่ก็อยู่ในบรรยากาศธรรมชาติที่สมบูรณ์อย่างไม่น่าเชื่อ เค้าก็เลยสร้าง ศุภวัฒนาลัย โครงการบ้านผู้สูงอายุในบรรยากาศร่มรื่นเขียวขจีที่แสนสงบในพื้นที่นี้ด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าใครไม่มีเวลาทั้งวัน ลองเริ่มจากสวนสาธารณะใกล้ๆ บ้าน ให้ตัวเองได้ออกไปสูดอากาศ และสัมผัสธรรมชาติดูบ้าง ก็พอจะทำให้ได้ชุ่มชื่นหัวใจไปทั้งวันแล้วล่ะครับ