พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ลุยงานบริหารจัดการที่อยู่อาศัย “ดูแลจากใจ ห่วงใยคุณ” เดินหน้าสู้วิกฤต COVID – 19 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มพื้นที่บนโลกออนไลน์ให้ลูกบ้านมีช่องทางสื่อสารพูดคุยกัน จบปัญหาสังคมระยะห่างแต่ความสัมพันธ์ในคอมมูนิตี้ยังใกล้ชิดกัน ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Community Hub เว็บบอร์ดแลกเปลี่ยนความเห็นและกิจกรรมดีๆ ของแต่ละบ้านภายในโครงการแสนสิริ ผ่านแอปพลิเคชั่น Home Service Application ที่เตรียมต่อยอดสู่การเป็นพื้นที่ขายของออนไลน์ภายในโครงการ เผยการใช้แอปพลิเคชั่นในการสื่อสารกับลูกบ้านเป็นช่องทางที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคนี้ ล่าสุดพบลูกบ้านลงทะเบียนใช้งานราว 70%
นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลาที่มีการระบาดของ COVID – 19 พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะมีธุรกิจบริหารโครงการที่พักอาศัย(ดูแลงานนิติบุคคล) และบริหารทรัพยากรอาคารเพื่อการพาณิชย์ กว่า 200 โครงการ ได้ให้ความสำคัญเรื่องการดูแลที่อยู่อาศัยและมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในแต่ละโครงการ ล่าสุด ทีมพลัสฯ ลิฟวิ่งแมเนจเมนต์ (PLUS Living Management) ได้เพิ่มนโยบายเชิงรุก ด้วยการนำ Home Service Application ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่ใช้ในการติดสื่อสารกับลูกบ้านในโครงการของแสนสิริ มาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ Community Hub ซึ่งเป็นเว็บบอร์ดเพื่อให้เป็นพื้นที่สำหรับการสื่อสารโดยการตั้งกระทู้และแชร์กิจกรรมตลอดจนแสดงความห่วงใย ให้กำลังใจกัน ในช่วงที่ลูกบ้านส่วนใหญ่งดการเดินทางและทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from Home)
ทั้งนี้พบว่าปัจจุบันในส่วนของ Home Service Application มีลูกบ้านมาลงทะเบียนใช้งานอยู่ที่ราว 70% จึงทำให้ลูกบ้านเข้าถึงข่าวสารที่นิติบุคคลต้องการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไร้ข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลได้ในทุกสถานที่ทุกเวลา อีกทั้งในแอปพลิเคชั่นยังสามารถให้บริการร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลาก เช่น การสั่งซื้อสินค้าและอาหารออนไลน์ หลีกเลี่ยงการใช้เงินสด การเรียกใช้บริการแม่บ้านทำความสะอาด รวมถึงมีพันธมิตรที่เป็นร้านค้าต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในยุคการระบาดของ COVID-19 เพราะมีบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันค่อนข้างครบ
“การเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้ลูกบ้านส่วนใหญ่งดการเดินทาง และทำงานแบบ Work from Home ทำให้ลูกบ้านหลายท่านมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น และมีเวลาว่างได้ทำกิจกรรมที่น่าสนใจกับครอบครัว เช่น การทำอาหาร การปลูกผักสวนครัว การออกกำลังกายภายในบ้าน การแชร์วัตถุดิบการทำอาหารและสิ่งของ ซึ่งบางเรื่องราวที่เป็นกิจกรรมดีๆ ก็มีลูกบ้านหลายท่านอยากจะแชร์ไอเดียให้กับเพื่อนบ้านในโครงการเดียวกัน พลัสฯ ซึ่งมีแอปพลิเคชั่นสำหรับการสื่อสารระหว่างนิติฯ กับลูกบ้านอยู่แล้ว จึงได้เห็นโอกาสในการสร้างพื้นที่สำหรับแบ่งปันแนวคิดและกิจกรรมดีๆ เพื่อส่งต่อระหว่างผู้คนที่อยู่อาศัยภายในโครงการเดียวกัน ซึ่งฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข่าวสารและกิจกรรมระหว่างกัน แต่ในอนาคตจะต่อยอดไปสู่การเป็นพื้นที่สำหรับเปิดให้ขายของออนไลน์ภายในโครงการ เพื่อแบ่งปันสินค้า หรือของที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อาจเป็นสิ่งที่เพื่อนบ้านกำลังต้องการ แลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้อยู่อาศัยในโครงการ และยังถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่สามารถมีรายได้เสริมได้อีกทางหนึ่ง” นางสาวนฤมล กล่าว
PLUS Living Management “ดูแลจากใจ ห่วงใยคุณ” ให้ความสำคัญในการรับมือวิกฤตโควิด-19 ที่ครบทุกมิติ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยในทุกโครงการ ด้วยมาตรการพิเศษ ทั้งเรื่องการคัดกรองผู้เข้าออกในโครงการ การเตรียมความพร้อมด้านพนักงาน ให้มีความรู้ความเข้าใจการรับมือที่เน้นการทำความสะอาดทุกชั่วโมง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ 99.9% ในจุดที่เป็นผิวสัมผัส เตรียมเจลฆ่าเชื้อชนิดเข้มข้น แอลกอฮอล์ 70% และหน้ากากอนามัย ให้บริการลูกบ้านตามจุดต่างๆ ของอาคาร รวมถึงมีคำแนะนำการล้างมือให้ถูกวิธีและวิธีสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องถึง 3 ภาษา (ไทย อังกฤษ จีน) แจ้งข่าวสารให้ลูกบ้านได้รับทราบ ทั้งมาตรการการดูแลที่อยู่อาศัย รวมถึงมาตรการการดูแลจากทางภาครัฐ ผ่าน Home Service Application และ Living Plus Application และเตรียมพร้อมหมายเลขติดต่อประสานงานกับสถานพยาบาลที่ใกล้โครงการ กรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือลูกบ้านต้องการความช่วยเหลือ