สงบแบบบ้านสวนสไตล์ เรียบง่ายแต่ใกล้เมือง
เดี๋ยวนี้เวลาคุยกับคนรู้จักหลายๆ คน ก็ทำให้เห็นว่าแนวคิดการใช้ชีวิตนี่เปลี่ยนไปเยอะนะครับ สมัยเรียนมีเพื่อนมากมายมาจากหลายที่ มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อสิ่งที่เชื่อว่าดีที่สุดสำหรับอนาคต ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ดี การทำงานที่ดี พอเรียนจบ สิ่งที่ทำให้ภูมิใจก็ยังคงเป็นเป้าหมายในการทำงานในบริษัทระดับ Top การยอมรับและนับหน้าถือตาจากหน้าที่การงานในเมืองนี้ ไม่ค่อยเห็นใครบอกว่าจะกลับไปอยู่บ้านกันหรอก ผ่านไปราว 10 ปี ทุกวันนี้เพื่อนผมบางคนกลับบ้านต่างจังหวัด ทำมาหากินตามที่ทางที่มีอยู่ บางคนออกจากบริษัทชั้นนำที่เต็มไปด้วยการแข่งขันสูงลิบ มาอยู่กับกิจการที่เล็กลงแต่มีความสบายใจมากขึ้น..
ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันก็มาจากความรู้สึกเดียวกันคือ ความเบื่อหน่ายจากความวุ่นวายของชีวิตเมือง แน่ล่ะว่าบางคนมีที่ทางก็ไป แต่สำหรับใครที่ยังต้องอยู่ ยังต้องทำงานกับชีวิตที่เช้ายันเย็นไม่ได้เห็นแสงอะไรนอกจากแสงไฟจากเพดาน ก็ต้องหาทางออก โดยที่ยังคงสามารถใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ที่คุ้นชินได้ เราก็เลยได้เห็นสถานที่แฮงก์เอาท์ ในแบบที่ความสงบมาบรรจบกับชีวิตเมือง เช่น คาเฟ่กลางร่องสวน ที่ๆ เราสามารถสั่ง Lemon Cheesecake มากินคู่ดับเบิ้ลช็อคปั่น แล้วสักพักก็ลงไปพายเรือชมสวนไปได้ด้วยในคราวเดียวกัน แต่มันก็เป็นเพียงความสุขชั่วครู่ชั่วยามนะครับ ซึ่งถ้าใครโหยหาชีวิตแบบนี้ที่เป็นได้ในทุกๆ วัน วันนี้แว่นมีอีกโครงการมาให้ดู นั่นก็คือ “ดีคอนโดธาร จรัญฯ” ครับ
ดีคอนโด ธาร จรัญ ฯ คือ?
ดีคอนโด ธาร จรัญ ฯ ที่ว่าเป็นได้ทุกๆ วันนี่ไม่ใช่มีเรือให้พายในคอนโดนะ ฮ่าๆ แต่ที่นี่ คือ คอนโดที่ให้อารมณ์บ้านกลางสวน มีท้องร่องเป็นสระว่ายน้ำสวยๆ อยู่ใจกลาง การออกแบบและตกแต่งเป็นสไตล์ไทยประยุกต์ เช่น ลักษณะ façade ที่ได้รับอิทธิพลมาจากไม้ฝาประกน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเรือนไทย รวมไปถึงการตกแต่งภายในบริเวณต่างๆ จะได้เห็นลูกเล่นของการเอาความเป็นไทย Lobby ผนวกเข้าไปอย่างแนบเนียน เช่น ลายโคมไฟใน Co-working ล้อมาจากตะกร้อสอยมะม่วง หรือการตกแต่งเพดานใน Fitness มาจากตะกร้าสาน ซึ่งเมื่อเราพาตัวเองเข้าไปนั่งอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางที่โอบล้อมด้วยสระว่ายน้ำนี้ ก็จะเหมือนได้นั่งลงกลางท้องร่องสวน ได้ชมสายน้ำ เห็นบรรดาพืชพรรณ ที่นิยมปลูกกันในสวนอย่าง ปาล์มยะวา แคนา หรือลีลาวดี ก็จะได้อารมณ์บ้านสวนจริงๆ
มีอะไรพิเศษ?
ความพิเศษของโครงการ ดีคอนโด ธาร จรัญฯ ที่ไม่เหมือนโครงการอื่นในแถบนี้คือ สิ่งที่ให้อารมณ์บ้านสวนเนี่ยไม่ได้เกิดจากแค่การตกแต่งภายในโครงการนะครับ แต่ที่ตั้งของโครงการเองนี่แหละ ก็ยังอยู่ในพื้นที่สีเขียวที่หาได้ยากในโซนนี้ด้วย คือ อยู่ท่ามกลางสวนและต้นไม้ใบหญ้าของแท้ แต่ที่มันยังเดินทางสะดวกเพราะหลบอยู่ในถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชันซึ่งเชื่อมต่อกันระหว่างถนนบรมราชชนนีและจรัญสนิทวงศ์ ทำเลตรงนี้มันต้อง Trade-off กันแบบนี้ครับ คือ ไม่ได้อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าหรือถนนใหญ่สายหลักที่เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ แต่ได้ความสงบ เบรกอารมณ์ความวุ่นวายเหนื่อยล้าไว้ภายนอก ซึ่งถ้าอยู่เส้นจรัญฯ วิวที่ได้ก็จะเป็นตึกและอาคารพาณิชย์ แต่วิวแถวนี้คือพื้นที่สีเขียวและบรรดาบ้านใกล้เรือนเคียงคือบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ และตัวโครงการเองอยู่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในระยะเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็น Makro, Foodland, Central Pinklao มีทางลัดออกถนนราชพฤกษ์ไป Food Villa หรือจะไป รพ.ศิริราชก็เรียก Grab ไปไม่เกิน 15 นาที ส่วนสถานี MRT ที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีบางขุนนนท์ ที่ระยะ 1.9 กม. ครับ
พูดถึงภาพรวมโครงการกันหน่อยครับ ดีคอนโด ธาร จรัญฯ ตั้งอยู่ในซอยเอราวัณ ถ.เลียบทางรถไฟตลิ่งชัน เป็นโครงการ Low Rise สูง 8 ชั้น รูปทรงตัว L 2 อาคาร พร้อมกับมีคลับเฮ้าส์ที่ตั้งของ facilities ต่างๆ อยู่ตรงกลาง รวมที่พักอาศัย 484 ยูนิต (ที่จอดรถ 154 คัน ไม่รวมซ้อนคัน) สิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, จากุซซี่, Outdoor Lounge, Fitness, Co-working Space, Roof Garden, Pavilion และ Lobby ครับ
ส่วน Type ห้องของโครงการดูง่ายมาก ที่นี่มีห้องเพียง 2 แบบ คือ Studio ขนาดประมาณ 26 ตร.ม. ซึ่งได้ครัวปิด แยกพื้นที่ Living ไว้โซนนึง และส่วนของครัวกับห้องน้ำอยู่ด้วยกันไว้อีกโซน มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วน กับอีกแบบคือ 2 Bedroom 2 Bath ขนาดประมาณ 54 ตร.ม. หน้ากว้างสุดๆ มีห้องนอนที่ขนาดใหญ่เกือบเท่ากันทั้ง 2 ห้องและที่สำคัญคือ ทุกโซนในห้องมีกระจกให้แสงแดดเข้ามาหมด แถมห้องนอนที่ 2 ได้กระจก 2 ฝั่งอีกตังหาก (เอ้าใครได้อยู่ห้อง Master ก็คงต้องอิจฉา) ซึ่งแม้กลุ่มหลักจะเป็นห้อง Studio แต่ผมว่า 2 Bed ที่นี่สวยลงตัวดีมาก และมีเพียงแค่ชั้นละ 1 ห้อง อยู่ในตำแหน่งที่วิวดีที่สุด รวม 2 อาคารก็ 16 ห้องพอดิบพอดีครับ
ก่อนจะเข้าไปดูห้องและภาพ Facilities สวยๆ ของโครงการนี้ ต้องบอกเลยว่าที่นี่ขายห้องแบบ Fully Furnished ด้วยนะ คือให้เฟอร์นิเจอร์ครบแบบที่เราจะพาไปชมกันนี่แหละ และถ้าซื้อในช่วงพรีเซลล์ 22-23 มิ.ย.นี้ เอาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นไปให้หมด ทั้งทีวี แอร์ ไมโครเวฟ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่นครบเซ็ต ในราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท หรือเริ่มต้นประมาณ 73,000 บาท/ตร.ม. เท่านั้น (เฉลี่ยทั้งโครงการไม่ถึง 80,000 บาท/ตร.ม. ครับ) สำหรับใครที่ไม่ได้ยึดติดว่าต้องอยู่ชิดรถไฟฟ้า แต่ทำงานมาทั้งวัน หรืออยู่โรงพยาบาลเจอคนไข้จนตาลาย อยากจะพักผ่อนให้สบายใจในมุมสงบ สไตล์บ้านสวน ก็เลือกที่นี่น่าจะถูกจริตถูกใจครับ
และเช่นเคย สำหรับแฟนเพจแอบดูคอนโดที่สนใจโครงการนี้ ลงทะเบียนรับส่วนลดและสิทธิพิเศษที่นี่ได้เลยครับ >> siri.ly/condosneakpeak
เริ่มจากห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตร ที่ด้านในมีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยมาให้ครบทุกการใช้งานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่น เตียงนอน ซึ่งโครงการนี้เค้าให้แบบ Fully Furnished นั่นหมายความว่า คว้ากระเป๋า หยิบโน้ตบุ๊ค หยิบหนังสือเล่มโปรด เสื้อตัวเก่งและรองเท้าคู่ใจ ใส่รวมกันแล้วเดินเข้ามาอยู่ได้เลย เฟอร์นิเจอร์ที่ให้ทางแสนสิริเค้าร่วมมือกับ SB Furniture ด้วยฮะ
พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังก็จะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ซึ่งถ้าใครอยากจัดห้องให้ดูเข้ากันเหมือนห้องตัวอย่าง หรือจะทำเป็นธีมสีแบบห้องตัวอย่าง ทาสีเข้มไว้สักผนังนึงก็ทำให้ห้องดูโดดเด่นมีแคแรกเตอร์ขึ้นมาครับ
ห้องนี้มีระยะความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.5 เมตรนะครับ แต่ความรู้สึกแรกที่ผมสัมผัสได้คือ ห้องดูสูงโปร่งขึ้น เมื่อเทียบกับตระกูลดี คอนโดก่อนหน้า นั่นก็เป็นเพราะทางโครงการเค้าเปลี่ยนเอาโคมไฟซาลาเปาออกไปจากห้องนั่งเล่นแล้วมาใช้แบบ Downlight แทน เฮ้! แค่จุดเปลี่ยนเล็ก ๆ กลับทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นได้ด้วยครับ
โต๊ะทานข้าวสำหรับคุณและคนพิเศษนั่งกันได้แบบสบายๆ แต่ถ้าวันไหนมีแขกมาร่วมโต๊ะด้วย จะจัดเก้าอี้เพิ่มไปอีกสักตัวก็ยังทำได้อยู่นะ
โต๊ะกลางสำหรับวางแก้วกาแฟตอนดูซีรีย์เรื่องใหม่ หรือจะเอาไว้เป็นที่นั่งทำงาน เวลามีเอกสารหรือหนังสือก็เก็บวางไว้ชั้นล่างได้เลย ถึงเวลาต้องการใช้งานก็หยิบจับได้สะดวกครับ
โซฟาที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้สามารถปรับเอนลงเพื่อทำเป็นที่นอนเพิ่มอีกที่ได้ แถมด้านล่างยังทำเป็นลิ้นชักให้เอาไว้เก็บข้าวของได้อีก ดีไม่ดีไม่ต้องซื้อตู้หรือชั้นวางของเพิ่มเลยครับ ฟังก์ชั่นการใช้งานในแต่ละจุดเค้าตอบโจทย์การพักอาศัย ว่าอยู่แล้วต้องได้ใช้ประโยชน์จริงๆ ครับ
หันมาดูอีกฝั่งนึงจะมีทั้งตู้รองเท้า ตู้เก็บของ ชั้นวางทีวี ชั้นวางของด้านบนทุกอย่างบิวท์อินมาให้ครบถ้วน
ถ้าจัดเตียงให้ชิดริมหน้าต่างแบบนี้ก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น แต่ถ้าใครอยากขยับมาเพื่อให้ขึ้นลงได้ทั้งสองข้างเตียง ก็ยังมีพื้นที่เหลือพอให้ขยับปรับได้ หรือจะเอาโต๊ะหัวเตียงที่ทางโครงการเค้าให้มาด้วยนี้ ย้ายไปอยู่ริมกระจกแล้วเลื่อนเตียงมาชิดโซฟาแทนก็ดูจะพอดี และสะดวกต่อการใช้การเช่นกันนะครับ คือ พื้นที่ห้องที่ปรับเปลี่ยนได้ง่ายๆ นี่แหละคือข้อได้เปรียบของห้องแบบ Studio
ตู้เสื้อผ้าให้มาแล้วด้วยบานใหญ่น่าจะจุเสื้อผ้าได้เยอะพอสมควรเลย แถมยังมีการซ่อนกระจกบานใหญ่แบบส่องเห็นได้เต็มตัว ไว้ด้านในด้วย แบบนี้สะดวก ประหยัดเนื้อที่ ไม่ต้องหาโต๊ะเครื่องแป้งมาเพิ่มเลย
ในส่วนของห้องครัวเป็นครัวปิดนะครับ จะมีประตูบานเลื่อนแบบ Soft Close ติดตั้งไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ชุดครัวก็จะได้ตามนี้เลยครับ ครัวติดอากาศแบบนี้ก็จะช่วยเรื่องกลิ่นได้ดี แค่เปิดประตูบานเลื่อนเพื่อระบายกลิ่นหอมๆ เวลาเราทำกับข้าวให้ลอยออกไปแหย่จมูกห้องข้างๆ บ้าง
ห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องไล่โทนสีแบบนี้ครับ ส่วนฉากกั้นอาบน้ำก็เตรียมมาให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard
มาต่อที่ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 54 ตารางเมตรกันบ้าง ห้องนี้เป็นแบบหน้ากว้าง พื้นที่การใช้งานแต่ละส่วนถูกแบ่งออกไว้ลงตัวทีเดียวครับ และที่สำคัญ มีกระจกบานใหญ่ไว้ทุกห้อง ไม่มีส่วนไหนอับแสงเลย
เริ่มจากชั้นวางรองเท้าที่อยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า ที่บิวท์อินมาให้สะดวกในการใช้งาน
มีห้องน้ำที่เข้าได้จากห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนที่ 2 ครับ และส่วน living ก็อยู่ตรงกับประตูทางเข้านี่เลย
ชั้นวางทีวีที่ไม่จำเป็นต้องเอาไว้วางแค่ทีวี ด้านล่างสามารถใช้เป็นตู้เก็บของได้ด้วย
นอกจากชั้นวางทีวี ยังมีชั้นลอยติดตั้งมาให้เรียบร้อย จะได้เอาไว้ภาพรูปภาพ วางต้นไม้จิ๋ว ประดับห้องไว้ให้ดูมีสีสันมากขึ้น ส่วนโต๊ะกลาง และโซฟาก็ได้เช่นกัน พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะติดกับระเบียง ทำให้สามารถเปิดประตูให้โล่งพร้อมรับกลิ่นดิน กลิ่นต้นไม้หลังฝนตก หรือเปิดให้แสงเข้าห้องมาได้เต็มที่โดยไม่ต้องเปิดไฟเลยครับ ที่สำคัญวิวของห้องแบบ 2Bed คือวิวที่ดีที่สุดของโครงการ นั่งชมสระว่ายน้ำ และความเขียวขจีของต้นไม้ได้รื่นรมย์ทั้งวัน
สำหรับห้องนอนที่ 2 ที่อยู่ด้านหลังทีวีนี้ ดูไปดูมาก็แทบไม่ต่างจากห้องนอน Master เลยครับ แต่ที่เจ๋งกว่าคือมีกระจกอยู่ข้างๆ หัวเตียงอีกจุดนึงด้วย บร้ะ ห้องนี้สามารถจัดวางเตียง โต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าเข้าไปได้สบายๆ จะติดทีวีเพิ่มอีกเครื่องก็เลือกแบบแขวนผนังเอาได้เลยเพื่อประหยัดเนื้อที่
ตู้เสื้อผ้าพร้อมฟังก์ชั่นซ่อนกระจกสูงเต็มบานไว้ ช่วยเสริมความมั่นใจก่อนออกจากบ้านได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า
กลับออกมาด้านนอกกันอีกรอบ ขวามือของประตูทางเข้าเราจะเห็นชั้นวางของที่ทำขึ้นมาในพื้นที่ระหว่างเสาและผนังเอาไว้ใช้สอย เก็บของได้
มองทะลุช่องออกไปเอ๊ะ ทำไมเจอครัว
คือตรงนี้เค้ามีการแบ่งพื้นที่ครัวไว้ครับ เป็นครัวเปิด แต่ด้วย Layout ของห้องนี้เนี่ย มันมีเสาโผล่มาตรงนี้พอดี ถ้าจะมองข้อจำกัดก็คือจะลดทอนความโล่งของห้องไปหน่อย แต่ผมว่าเราก็น่าจะพอปรับใช้สอยให้มันมีประโยชน์ได้ โดยการทำฉากกั้นเป็นครัวปิดตรงนี้แทน ซึ่งก็ต้องไปปิดข้างๆ เสาอีกฝั่งด้วยครับ
ตรงกันข้ามก็เป็นพื้นที่สำหรับจัดวางโต๊ะทานข้าว สำหรับห้องไซส์นี้ 4 ที่นั่งกำลังสบายๆ มีกระจกบานใหญ่ให้อีกละ ดูซิ
ถัดเข้าไปจากส่วนนี้ก็จะเป็นห้องนอน Master แล้วครับ
สำหรับห้องนอน Master ก็จะได้ทุกอย่างตามนี้เช่นเดียวกันครับ ทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะหัวเตียง โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้ ให้อยู่กันแบบสบายๆ อาบน้ำแต่งตัวกันให้เสร็จพร้อมออกเดินทางกันได้ในห้องเดียว เพราะห้องนี้มีห้องน้ำในตัว ตกดึกก็ไม่ต้องเดินออกไปใช้ห้องน้ำด้านนอกด้วย แต่ขนาดของห้องนอนที่นี่น่ะ มันแทบจะพอๆ กันเลย
ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มาก็พอจะจุได้อยู่นะครับ
ส่วนห้องน้ำก็ได้ตามนี้ มีการเจาะชั้นสำหรับวางข้าวของเครื่องใช้ไว้ให้เสร็จสรรพ จะได้หยิบใช้สะดวก ไม่ต้องซื้อชั้นมาวางเพิ่มเลยฮะ
ดูห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องครบแล้ว ขอพามาดูส่วนกลางที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยกันหน่อยครับ คอนเซปต์เค้าเป็นแบบบ้านสวน ทั้งสองอาคารจึงโอบล้อมพื้นที่สีเขียวที่นำพืชพรรณสไตล์บ้านสวนมาปลูกไว้อย่างเขียวขจี ทำหน้าที่สร้างความสบายตา และยังเป็นส่วนกั้นสร้างความเป็นส่วนตัวระหว่างคนอยู่อาศัยในชั้น 1 กับคนใช้พื้นที่ส่วนกลางด้วย คลับเฮ้าส์ที่อยู่ตรงกลางล้อมรอบไว้ด้วยสระว่ายน้ำที่เป็นเสมือนท้องร่องในสวน เพิ่มความร่มเย็นให้กับบรรยากาศภายใน
ด้านบนของคลับเฮ้าส์มี Roof Garden ให้ขึ้นไปเดินได้ ส่วนพื้นที่ชั้นล่างจะสเตปลงไปนิดนึง ให้อารมณ์นั่งอยู่กลางท้องร่อง สระว่ายน้ำมีทั้งส่วนที่เป็น Lap Pool, Kids Pool, Jacuzzi, Sunken Seat และ ที่นั่งชิลล์ๆ แบ่งโซนใช้งานกันไปโดยรอบครับ
ด้านล่างคลับเฮ้าส์มีส่วนของ Co-working Space ที่ดีไซน์โคมไฟได้อย่างเก๋ไก๋
ในนี้มีฟิตเนสซึ่งตกแต่งบนเพดานให้เข้าคอนเซปต์กะเค้าด้วย เป็นสไตล์งานสานของไทยแบบประยุกต์
และทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมโครงการ ดีคอนโด ธาร จรัญฯ ที่แอบดูคอนโดพามาชมกันในวันนี้ครับ อย่างที่บอกโครงการนี้เหมาะสำหรับคนในเมืองใหญ่ที่ต้องการบ้านเป็นที่พักพิงใจหลังวันอันยาวนาน เป็นพื้นที่บ้านกลางสวนจริงๆ ทั้งการตกแต่งภายใน และตำแหน่งที่ตั้งในโครงการที่อยู่ในพื้นที่สีเขียวที่นับวันจะหาได้ยากในกรุงเทพฯ ด้านหน้ายังมีร้านสะดวกซื้อให้เราจับจ่ายได้สะดวก แถมรอบๆ โครงการเนี่ยเค้าก็จะได้รับการพัฒนาโดยแสนสิริอีกหลายโปรเจคเลยครับ เชื่อได้เลยว่า Landscape แถวนี้ก็จะได้อารมณ์ประมาณนี้แหละ และเอื้อต่อกันอย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจก็เข้าชมโครงการได้แล้วตั้งแต่วันนี้ หรือลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมและสิทธิพิเศษก่อนใครคลิก > siri.ly/condosneakpeak และอย่าลืมเตรียมตัวไปงานพรีเซลล์ 22-23 มิ.ย. นี้ที่สำนักงานขายนะครับ