คอนโด Aspire Rattanathibet Weston
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษลดเพิ่ม 100,000 บาท จากโครงการคลิก >>> https://bit.ly/3kefksK
ชีวิตวัยเริ่มทำงานมีอะไรให้คิดให้ทำเยอะนะครับ ไม่ว่าจะเรื่องการทำงาน หรือการใช้ชีวิต เราจึงมักจะมองหาอะไรที่ตอบโจทย์ได้หลายอย่าง และในขณะเดียวกันก็ต้องคุ้มค่าด้วย นี่ก็คือโจทย์ที่คอนโดในวันนี้เค้าตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะในด้านโลเคชั่น ฟังก์ชั่น Lifestyle และคุ้มค่าในราคาที่คนเริ่มทำงานซื้อได้จริงๆ
1. Location
ทำเลเป็นข้อแรกที่เราต้องดูเมื่อซื้อคอนโด โครงการแอสปาย รัตนาธิเบศร์ เวสท์ตัน อยู่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ฝั่งขาออก อยู่กึ่งๆ กันระหว่าง MRT 2 สถานี คือ MRT สถานีบางกระสอ (~200 ม.) และสถานี ศูนย์ราชการนนทบุรี (~270 ม.) ซึ่งจะเป็นสถานี interchange กับรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคตด้วย ตัวโครงการนี้เป็นคอนโด Aspire Project ที่ 3 ในพื้นที่ของ AP ข้อดีคือ เป็นโครงการใหม่กว่าเพื่อน อยู่ติดหน้าถนนที่สุด และระยะเดิน 200 ม. นี่ใช้ได้ทุกวันเดินได้แบบสบายๆ ครับ
ในระยะรอบๆ โครงการนี่ อุดมสมบูรณ์เหมาะกับการใช้ชีวิตครับ ถ้ามองแค่ถนนหน้าคอนโด จากแยกนนทบุรี1 ถึงแยกแคราย มีห้าง ถึง 3 ห้าง ทั้งเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์, Big C รัตนาธิเบศร์ 2, Esplanade งามวงศ์วาน-แคราย ยังไม่นับ The Mall งามวงศ์วานที่ตรงเลยไปทางประชาชื่นอีก มีตลาดบนถนนเรวดี และตลาดนกฮูกที่คึกคักยามค่ำคืน ที่สำคัญตรงนี้ยังเป็นศูนย์รวมแหล่งงานใหญ่ ไม่ว่าจะศูนย์ราชการฯ กระทรวงพาณิชย์ สนญ.ประกันสังคม CAT สำนักงานสลากฯ โดยยังมีโรงพยาบาล และโรงเรียนกระจายรายรอบอยู่อีกด้วย
ทำเลนี้เหมาะกับใคร?
ถ้าคุณเป็นคนที่ทำงานอยู่ในโซนรัตนาธิเบศร์, แคราย, สนามบินน้ำ ที่ตั้งโครงการนี้จะให้อารมณ์เหมือนใจกลางพายุครับ คือ ไม่วุ่นวายเหมือนจุดรอบๆ ที่มีคนเดินทางใช้ชีวิตกันจอแจ แต่จะได้ความสงบและเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสะดวก ซึ่งถ้าใครทำงานใกล้รถไฟฟ้าในระยะที่ขยับออกไปอีกหน่อย เช่น เตาปูน บางซื่อ แต่ยังหาคอนโดห้องใหญ่ราคาไม่ถึง 2 ล้าน ไม่เจอ มาดูได้ที่นี่ครับ
2. Function & Lifestyle
พูดถึงภาพรวมโครงการกันก่อน Aspire Rattanathibet Weston เป็นคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น รวม 854 ยูนิต ฟังก์ชั่นของคอนโดนี้ ก็ได้รับการออกแบบมาจากการใช้ชีวิตของเราในช่วงที่ผ่านมานี่แหละครับ.. ไม่ว่าจะ นั่งคาเฟ่, Work From Home, ท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือการสั่ง Delivery จนคุ้นชิน จนออกมาเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ไม่ว่าจะเป็น
- สวนและพื้นที่ส่วนกลางรวม 2.5 ไร่ ที่นี่มีสวนขนาดใหญ่ ถึง 3 ชั้น ไม่ว่าจะเป็น Ground Floor, ชั้น 7, และชั้น Rooftop โดยออกแบบให้มีที่นั่งแทรกและซ่อนตัวอยู่ตามร่มเงาไม้ให้พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว
- Welcome Foyer ส่วนต้อนรับแบบ Semi-Outdoor, The Parlour ห้อง Co-Kitchen ที่มานั่งทานอาหารได้, The Co-Living ห้องสำหรับนั่งทำงานในบรรยากาศสบายๆ, The Grand Living ห้องรับรองขนาดใหญ่ และทั้งหมดนี้เค้าออกแบบมาในโทนเดียวกันหมดเลยนะครับ เหมือนเราอยู่ในคาเฟ่ละมุน น่ารักๆ ที่สามารถนั่งเล่น พบปะ ทำงาน ถ่ายรูปสวยๆ ได้โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก
- ที่ชั้น 7 นอกจากสวนแล้วยังมีฟิตเนส และสระว่ายน้ำดีไซน์ใหม่ที่ผสานกับ Sunken Seat เป็นฟอร์มเดียวกัน ที่มีทั้ง Jacuzzi และ Hydro spa ในตัว
สิ่งสำคัญที่เป็นก้าวใหม่ของ Aspire ที่มาใช้กับที่นี่เป็นที่แรกคือการ Collab กับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกอย่าง IKEA ที่ได้ใจคนไทยจากสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้จริง มาร่วมออกแบบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่นี่ด้วย ตอนที่เราเข้าไปดูสำนักงานขายก็ได้เห็นบรรยากาศอิเกียกลมกลืนไปทุกที่ ซึ่งก็ลงตัวมากเพราะมันไม่ใช่แค่การโชว์เฟอร์นิเจอร์ แต่เป็นการจัดสรรให้พื้นที่ในห้องยืดหยุ่นใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะการจัดห้องนอนแบบใหม่ที่น่าสนใจทีเดียวครับ
รูปแบบห้องที่นี่ดูง่ายมากมี 3 Type คือ
- Type A แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.5 ตร.ม. จัดครัวปิดอยู่ด้านนอก พร้อมฟังก์ชั่น Walk-in Closet ในห้องนอน
- Type B แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30.5 ตร.ม. เน้นครัวปิดติดระเบียง เพิ่มพื้นที่บริเวณทางเข้า
- Type C แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้าง มีชั้นละ 1 ยูนิตเท่านั้น
3. ความคุ้มค่า
คอนโด Aspire Rattanathibet Weston เป็นคอนโดใหม่ส่งท้ายปี 2021 ในย่านรัตนาธิเบศร์ที่ราคาน่าสนใจครับ เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท สำหรับห้อง 30.5 ตร.ม. (~52,000 บาท/ตร.ม.) ซึ่งเป็นห้อง 1 Bed ที่กำลังอยู่สบาย มีพื้นที่ให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์ยืดหยุ่นสำหรับฟังก์ชั่นใช้งานต่างๆ แถมคนที่จองช่วงแรกจะได้ Voucher สำหรับไว้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ทั้งห้องจาก IKEA ด้วย ใครที่มองดูแล้วว่าส่วนกลางที่นี่ตรงกับ Lifestyle และเดินทางไปทำงานได้สะดวก ต้องลองเข้ามาชมครับ
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษลดเพิ่ม 100,000 บาท จากโครงการคลิก >>> https://bit.ly/3kefksK
#LivingSneakPeek #AspireRattanathibetWeston #APThai
โครงการ แอสปาย รัตนาธิเบศร์ เวสท์ตัน มีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 Type คือ A, B และ C ขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 30.50 ตร.ม. ห้อง Type A และ B มีขนาดเท่านั้น ซึ่งเป็นแบบที่จำนวนยูนิตมากที่สุด แตกต่างกันที่ครัวในและครัวนอก ส่วน Type C จะมีขนาด 45 ตร.ม. เป็นแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งมีเพียงชั้นละ 1 ห้องเท่านั้นครับ
โครงการนี้เน้นออกแบบพื้นที่การอยู่อาศัยให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน กลุ่มคนที่รักอิสระแต่ยังต้องการพื้นที่ส่วนตัวในราคาที่จับต้องได้
อย่างที่บอกว่าเค้าได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก IKEA มาช่วยตกแต่งห้องตัวอย่าง ให้มีพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่าในราคาสบายกระเป๋ามากที่สุด ซึ่งห้องตัวอย่างวันนี้เราจะมาดู Type A, B ขนาด 30.5 ตร.ม.กันครับ มาดูกันว่าห้องที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก IKEA ทั้งห้องจะน่าอยู่แค่ไหน รวมไปถึงความแตกต่างของ Layout ที่เป็นแบบครัวใน, ครัวนอก จะอยู่สบายถูกใจผู้อยู่อาศัยหรือไม่ ตามเข้าไปชมกันต่อได้เลย
สำนักงานขายตั้งอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณที่ตั้งโครงการจริงเลย บรรยากาศด้านในเค้าออกแบบมาให้เหมือนอยู่ในคาเฟ่น่ารักๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็น Mood & Tone ของพื้นที่ส่วนกลางในโครงการนี้ ที่เค้าทำออกมาให้ดูสนุก สร้างสรรค์ ใช้เวลาได้ตลอดทั้งวันแบบไม่มีเบื่อ
(แผนที่สำนักงานขาย >> https://bit.ly/3CUNnxr )
มุมแสดงไอเดียการตกแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์ซึ่งเป็นลายเซ็นต์ IKEA แบบเดียวกับเวลาเราไปเดินที่โชว์รูมเลย
ห้องตัวอย่างที่นี่มี 2 ห้องครับ เป็นขนาด 30.5 ตร.ม. ทั้งคู่
เราเข้ามาเริ่มกันที่ Type A แบบ 1 ห้องนอน : โครงการให้ผนังแบบฉาบเรียบทาสี ระยะความสูงเพดาน 2.5 เมตร พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ได้แอร์แบบ Wall Type 1 เครื่องขนาด 18,000 BTU มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด เริ่ม 1.59 ล้าน* ครับ
เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องครัวครับ มีชุดครัวบิวท์อินมาให้เรียบร้อย แต่ทางโครงการไม่ได้ทำชุดครัวให้ดูในห้องนี้ (เดี๋ยวผมพาไปดูของจริงในห้องถัดไป) ครัวที่ได้จะเป็นครัวปิดและมีห้องน้ำอยู่ในบริเวณเดียวกัน
ห้องน้ำด้านในก็จะได้ตามนี้เลย สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ COTTO หรือเทียบเท่า มาพร้อมฉากกั้นเปียกแห้งติดตั้งไว้ให้เรียบร้อย
ถัดเข้ามาใน Livingroom สามารถหามุมวางโต๊ะทานอาหารได้สำหรับ 2 ที่นั่ง
โซฟารูปตัวแอลช่วยเรื่องการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้ดีมากขึ้น ส่วนโต๊ะกาแฟจากอิเกียแบบนี้สามารถใช้งานได้หลายฟังก์ชั่น จะเอาไว้วางแก้วน้ำ หรือจะเลื่อนชิดเก้าอี้ขึ้นมาหน่อยเพื่อทำเป็นโต๊ะทำงาน วางคอมพิวเตอร์ได้สบายๆ แถมดันเก็บเข้ามุม เหลือจัดชิดผนังก็กินพื้นที่ไม่เยอะครับ
ห้องนี้ยกพื้นที่ให้ห้องนอนได้ใช้งานเต็มที่ขึ้นมาหน่อย สามารถจัดวางโต๊ะทำงานไว้ด้านในได้เลย ซึ่งการแยกพื้นที่ทำงานออกจากห้องนั่งเล่นแบบนี้ ก็ช่วยให้คนสองคนใช้งานร่วมกันได้โดยไม่ต้องรบกวนกัน คนทำงานได้ความเป็นส่วนตัว คนพักผ่อนนอนดูหนังก็รับความบันเทิงอย่างสบายใจ ส่วนบริเวณปลายเตียงใช้เป็นทีวีติดผนังหรือจะฉายโปรเจคเตอร์แทนก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบครับ
ห้อง Type นี้พิเศษหน่อยเพราะมีพื้นที่ Walk-in Closet มาให้ด้วยก่อนที่จะออกไปสู่ระเบียง ใครที่เวลามาดูห้อง ดูคอนโดแล้วชอบกังวลเรื่องตู้เสื้อผ้า มุมเก็บกระเป๋ารองเท้า หรือของใช้ต่างๆ ห้องรูปแบบนี้ก็จะตอบโจทย์เลยครับ เราจัดสรรให้เป็นห้องอเนกประสงค์ หรือห้องแต่งตัวได้เองตามชอบใจ อยู่ติดระเบียงได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาด้วย เวลาแต่งหน้าทำผมจะได้พร้อมออกไปเฉิดฉายได้อย่างมั่นใจ
ถัดมาห้องนี้ผมค่อนข้างชอบการตกแต่งของเค้าเลยครับ ทั้งชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ โทนสี รวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งานลงตัวดีมาก ซึ่งห้องนี้เป็น Type B ขนาด 30.5 ตร.ม. เช่นเดียวกัน แต่เป็น Layout ที่ยกห้องครัวออกไปอยู่ติดระเบียงช่วยเรื่องการระบายอากาศได้ดี ส่วนวัสดุมาตรฐานอื่นๆ ก็จะได้แบบเดียวกับห้องแรกนะครับ
โครงการเลือกวางตู้เก็บของไว้ด้านหน้า เลือกใช้แบบสูงจรดเพดานแบบห้องตัวอย่างนี้เพื่อให้ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่มากที่สุดครับ
ห้องน้ำจะอยู่ด้านหน้าเช่นกัน
หลายคนอาจจะลืมคิด หรือนึกภาพไม่ออกว่าการทำชั้นไว้สูงๆ จะช่วยหรือมีประโยชน์แค่ไหน ลองดูการเลือกใช้ชั้นแบบเปิดโล่งของ IKEA ตามนี้ ติดตั้งเข้าผนังเพื่อความแข็งแรง โดยชั้นลักษณะนี้ยังช่วยให้ห้องไม่ดูอึดอัดจนเกินไปด้วยครับ
เก็บของที่นานๆ หยิบใช้ที หรือจะเอาไว้วางกรอบรูปสวยๆ โชว์ Memory ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น ภาพตอนรับปริญญา ก็น่ารักดี
ห้องนั่งเล่นไม่ได้มีแค่มุมพักผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถทำมุมทานอาหารได้ด้วยโต๊ะพับแบบติดผนังครับ
ซึ่งโต๊ะนี้ดีมาก ผมยังเคยซื้อมาติดไว้ที่คอนโด เวลาไม่ใช้ก็พับลงช่วยให้เหลือที่ทางเดินมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยได้เอาลงกันเท่าไหร่ เพราะมักจะได้มาใช้โต๊ะนี้ตลอด ซึ่งถ้าเอาไว้ในห้องนั่งเล่นแล้ว จะแอบเปลี่ยนบรรยากาศยกคอมมานั่งทำงานก็ยังได้
ส่วนห้องนอนเค้าจัดแบบนี้แปลกตาดีเหมือนกัน อันนี้เค้าทำมาให้เห็นพอเป็นไอเดียครับ ว่าเราสามารถนอนมองดาวแบบเท่ๆ ได้ ตื่นตอนเช้าก็พร้อมรับแสงอาทิตย์ที่ปลายเตียง จัดเตียงชิดริมกำแพงช่วยให้มีพื้นที่เหลือวางมุมทำงานอีกด้วย ส่วนตู้เสื้อผ้าใครเสื้อน้อยหน่อย ก็แขวนได้แบบห้องตัวอย่าง ส่วนถ้าเราต้องการตู้เสื้อผ้า ก็ยังจัดชิดผนังได้ปกติครับ ประตูกั้นห้องเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่แบบ 3 ตอน สามารถเปิดกว้างช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้นด้วยครับ
ฐานเตียงของ IKEA มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ใครอยากได้ฟังก์ชั่นแบบคุ้มๆ ก็เลือกที่มีลิ้นชักด้านล่างมาด้วย จะช่วยเก็บของได้มากขึ้นอีกเยอะเลยครับ
ถัดเข้ามาจุดสุดท้ายเป็นห้องครัวแบบปิด ชุดครัวบิวท์อินมาให้เรียบร้อยและอยู่ติดระเบียง ช่วยลดกลิ่นเข้าตัวห้องได้
ช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟวางไว้ด้านบน ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเตาและที่ดูดควันจะไม่ได้นะครับ ต้องหาซื้อมาติดตั้งเองภายหลังครับ
เสร็จจากห้องตัวอย่างแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือพื้นที่ส่วนกลาง ที่เค้ายกธรรมชาติ และสร้างบรรยากาศสบายๆ คล้ายกับว่าเป็น Save Zone ที่เราจะได้พักผ่อน และหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมืองเข้ามาสู่ความสงบด้านใน
เริ่มตั้งแต่บริเวณชั้น G โดยรอบโครงการเต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด โครงการถูกโอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว พร้อมมีลมเย็นๆ พัดมาให้รู้สึกสบายได้ตลอดทั้งวัน
Welcome Foyer เป็นแบบ Semi-outdoor โถงต้อนรับลูกบ้านและแขกผู้มาเยือนให้ได้รับความเห็นสบาย ละนั่งชมธรรมชาติด้านนอกได้ เค้าซ่อนความเรียบหรู แต่มีลูกเล่นให้ดูตอบโจทย์คนยุคใหม่มากขึ้นด้วยครับ
The Parlour หรือ Co-Kitchen ห้องที่ให้ลูกบ้านนำอาหารมาทานในห้องแอร์เย็นๆ เสมือนได้ออกไปร้านอาหารเลยครับ เช่น ใครสั่ง Food Delivery มาก็รับแล้วมาแกะทานในห้องนี้ได้ เผื่อวันไหนมีเพื่อนมาเยี่ยม หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างห้องนี้ก็ทำมาเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายครับ
Co-Living ยกคอมลงมานั่งทำงานได้ทุกมุมที่ต้องการ
The Grand Living พื้นที่รองรับสำหรับแขกคนสำคัญของลูกบ้าน และยังเป็นมุมนั่งพักน่ารักๆ ที่โครงการเตรียมไว้ให้ลูกบ้านได้ใช้งานกันครับ
จากชั้น G ขึ้นมาต่อที่ชั้น 7 ชั้นสระว่ายน้ำ หรือ The Blue Refresh Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อม The Sunken Seat, Jacuzzi, Hydro Spa และ The Fresh Nook Seat ให้ได้บริหารทั้งร่างกายและจิตใจให้ดีไปพร้อมๆ กันครับ
วิวเปิดโล่งช่วยเพิ่มความผ่อนคลายในทุกครั้งที่ใช้
ฟิตเนสกว้างพร้อมอุปกรณ์ครบครัน รับวิวได้ 180 องศา
จุดสุดท้ายคือ The Sky Retreat บนชั้น Rooftop ให้ได้แอบขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้แบบสุดลูกหูลูกตา
และทั้งหมดนี้คือภาพรวมโครงการพร้อมห้องตัวอย่างจาก “แอสปาย รัตนาธิเบศร์ เวสท์ตัน” ที่ Living Sneak Peek นำมาฝากทุกคนครับ โครงการใกล้รถไฟฟ้า มาในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท คาดว่าน่าจะสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2566 ทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีบางกระสอ และ 1 สถานีสามารถเชื่อมต่อไปยัง Interchange สายสี น้ำตาล และไปสายสีชมพูได้อีก จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัชก็ประมาณ 10 นาที
โดยรอบมีห้าง, โรงพยาบาล และสถาบันการศึกษา มีจุดเชื่อมต่อรถขนส่งสาธารณะเยอะแยะครับ ทั้งรถตู้, แท็กซี่, มอไซค์ เพื่อใครมีช่วงเวลาเร่งรีบก็สามารถวางแผนการเดินทางได้เองเลย ส่วนภายในตัวห้องก็เริ่มต้นที่ 30.5 ตร.ม. ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นชีวิตในคอนโดมิเนียม เพราะกำลังอยู่ได้แบบสบายๆ เลยครับ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป หาจัดฟังก์ชั่นห้องดีๆ ก็จะทำให้น่าอยู่และสะดวกมากขึ้น หรือจะนำ Voucher จาก IKEA ไปใช้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกใจ ใช้งานได้หลายหลาย ก็คงจะดูลงตัวได้แบบที่ทางห้องตัวอย่างเค้าทำมาให้ดู
โครงการ แอสปาย รัตนาธิเบศร์ เวสท์ตัน มาพร้อม Voucher สำหรับเฟอร์นิเจอร์ IKEA ครบชุด เริ่มต้นที่ 1.59 ลบ.* พร้อมให้จับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้
ใครดูแล้วรู้สึกถูกใจ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างง่ายดายในอนาคต สามารถคลิกเข้าไปลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษลดเพิ่ม 100,000 บาท จากโครงการที่นี่ได้เลยครับ >>> https://bit.ly/3kefksK